วันเสาร์ ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2568
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับ Mr. Hassan bin Moajeb Al-Huwaizi ประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบีย เพื่อหารือแนวทางส่งเสริมการค้าและการลงทุน ตลอดจนการกระชับความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
นางศุภจี กล่าวว่า ตนและประธานสภาหอการค้าซาอุฯ เห็นพ้องว่าภาคเอกชนเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนเต็มที่ โดยในช่วงที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจของทั้งสองฝ่ายมีพัฒนาการเป็นอย่างมาก มีการเดินทางเยือน การจัดงานแสดงสินค้าและกิจกรรมส่งเสริมการค้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความสนใจในการขยายการค้าสินค้าและบริการระหว่างกันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตนได้ใช้โอกาสนี้เชิญประธานสภาหอการค้าซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงาน Thailand International Mega Fair 2025 ซึ่งภาคเอกชนไทยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 9 ธันวาคม 2568 ณ กรุงริยาด ณ Riyadh International Convention and Exhibition Center โดยงานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้าและบริการไทยที่ใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียครอบคลุมหลากหลายสาขาศักยภาพของไทย อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม น้ำมันกฤษณาและเครื่องหอม สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าและบริการสุขภาพ การก่อสร้างและการตกแต่ง การท่องเที่ยวและการบริการ นอกจากนี้ ตนยังได้กล่าวสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Riyadh World Expo 2030 ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย พร้อมทั้งได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนแลกเปลี่ยนแนวทางส่งเสริมความร่วมมือด้านเกษตรและอาหารฮาลาล การท่องเที่ยว และบริการสุขภาพ
"ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับโอกาสทางธุรกิจที่เกิดจากโครงการขนาดใหญ่ภายใต้วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 ซึ่งเปิดช่องให้สินค้าและบริการของไทยมีบทบาทมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร อาหารฮาลาล วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงภาคธุรกิจบริการ เช่น โรงแรม สปา การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ และโรงพยาบาล จึงเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศผ่านการกระชับความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน" นางศุภจี กล่าว
การหารือครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่ตนได้รับฟังข้อคิดเห็นจากภาคเอกชนซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับแนวทางอำนวยความสะดวกการค้า การแก้ไขปัญหาอุปสรรค และการเพิ่มกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายภาคธุรกิจ ตลอดจนเชิญชวนนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้นทั้งในไทยและซาอุดีอาระเบีย เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ นางศุภจียังได้เยี่ยมชม 20 บูธของผู้ประกอบการไทย ที่นำสินค้าและบริการไปนำเสนอแก่ผู้ซื้อซาอุดีอาระเบีย ทั้งสินค้าอาหาร ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สินค้าไลฟ์สไตล์ และบริการด้านท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าซาอุฯ เป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการไทยหลายรายมีกิจกรรม Business Matching กับคู่ค้าท้องถิ่น และมีแนวโน้มที่จะเกิดการสั่งซื้อในหลายหมวดสินค้า
ในปี 2567 ซาอุดีอาระเบียเป็นคู่ค้าอันดับที่ 19 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคตะวันออกกลาง มีมูลค่าการค้ารวม 7,757.03 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ส่งออก 2,856.68ล้านดอลลาร์สหรัฐ / นำเข้า 4,900.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ก.ย.) การค้าระหว่างกันมีมูลค่า 5,815.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 1,949.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้า 3,866.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกดาวรุ่ง ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องจักรกล ในขณะที่สินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์ และก๊าซธรรมชาติ
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี