ศึกสองล้อรายการใหญ่ที่สุดของเอเชียดวลกันสุดมันส์ นักบิดไทยพาเหรดสร้างผลงานสุดกระหึ่มโฮมเรซ โดย “แสตมป์” อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ แชมป์เอเชีย 2 สมัยจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี เข้าวิน ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ขณะ “ตี” อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 2 จี้จ่าฝูงเหลือ 3 แต้ม ด้าน “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ จบอันดับ 4 รุ่นใหญ่ ยังมีลุ้นแชมป์เอเชีย ด้านเอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี “ไอเดีย” กฤตภัทร เขื่อนคำ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ผงาดโพเดียมอันดับ 2 ส่วน “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ ดาวรุ่งจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดโชว์ฟอร์มร้อนแรง ประเดิมโพเดียมอันดับ 3 ได้สำเร็จ

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์เอเชีย รายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2025 สนามที่ 6  ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเรซแรก เมื่อวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2568 ภายใต้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ประจำปีสุดเข้มข้นในทุกรุ่น

ไฮไลท์ของสุดสัปดาห์นี้อยู่ที่การลุ้นแชมป์เอเชียของนักบิดไทยหลายคน โดยเฉพาะในรุ่นใหญ่ที่สุด เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี (ASB1000) ซึ่งก่อนเข้าสู่สนามนี้ "ชิพ" นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ยอดนักบิดชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นำเป็นจ่าฝูงเหนือคู่แข่งคนสำคัญ ฮาฟิซ ซยาห์ริน อดีตนักบิดโมโต จีพี ชาวมาเลเซียจาก เจดีที เรซซิ่ง ทีม อยู่ 4 แต้ม  ตำแหน่งโพลในเรซนี้เป็นของ เคโตะ อาเบะ นักบิดญีปุ่นจาก เอชดีจี ฮาร์ค-โปร. ฮอนด้า ฟิลิปปินส์ ขนาบข้างด้วย ซัควาน ไซดี้ นักบิดชาวมาเลเซียจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า เรซซิ่ง มาเลเซีย และ ชิพ นครินทร์ ในกริดที่ 2 และ3 ส่วน ซยาห์ริน ต้องเริ่มเกมจากกริดที่ 5

โดยชัยชนะตกเป็นของ ซยาห์ริน ที่มาแซงได้ในช่วงท้ายเรซเข้าป้ายเป็นคันแรก  ตามด้วย แอนดี้ ฟาริด อิซดิฮาร์ นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม  และอันดับ 3 เป็นของ อาเบะ ส่วน “ชิพ นครินทร์” จบการแข่งขันในอันดับ 4  หลังจบเรซนี้ ซยาห์ริน พลิกขึ้นมารั้งจ่าฝูงมีทั้งสิ้น 173 คะแนน ขณะที่ นครินทร์ ตกไปเป็นอันดับ 2 ตามหลังอยู่ 8 คะแนน ทำให้การลุ้นแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ต้องวัดกันในเรซสุดท้าย

ด้านการแข่งขันในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี (SS600) เป็นอีกรุ่นที่นักบิดไทย มีลุ้นแชมป์เอเชีย โดยก่อนแข่งเรซนี้ "ตี" อนุภาพ ซามูล จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม รั้งอันดับ 3 ตามหลังจ่าฝูงอยู่ 21 คะแนน ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ ซึ่งเจ้าตัวได้ออกสตาร์ตจากกริดที่ 2 ส่วนตำแหน่งโพลเป็นของ "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ แชมป์เอเชีย 2 สมัยจาก ยามาฮ่า ทีเอ็นพี ซึ่งลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดสนามนี้  ขณะที่มี อัลดี้ มาเฮนดร้า นักบิดอินโดนีเซียดีกรีแชมป์โลก เวิลด์ ซูเปอร์สปอร์ต 300 เข้าร่วมแข่งขันด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดด้วย

ผลเรซแรกของรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ แสตมป์-อภิวัฒน์ ที่บิดเข้าป้ายเป็นคันแรก  ตามด้วย ตี-อนุภาพ  ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ มาเฮนดร้า ตามหลัง 0.589 วินาที โดยมี “มิกซ์” ธนัช ละอองปลิว ดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์  อันดับ 4 ส่วน คาสม่า แดเนียล คาสมายูดิน นักบิดมาเลเซีย จากฮง หลง ยามาฮ่า เรซซิ่ง  จบเรซในอันดับ 6

ภายหลังจบเรซนี้ “ตี-อนุภาพ” มีลุ้นแชมป์เอเชียได้สดใสมากขึ้น ยังคงรั้งอันดับ 3 แต่ทำคะแนนจี้เข้าไปหาจ่าฝูงอย่าง คาสมายูดิน เหลือเพียง 3 คะแนนเท่านั้น ส่วน อเดนันตา พูตร้า  รั้งอันดับ 2 ตามหลัง 2 แต้ม ต้องลุ้นชิงดำตำแหน่งแชมป์ประจำปีในเรซสุดท้าย

ส่วนเกมในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี (AP250) เหล่านักบิดดาวรุ่งชาวไทย มีลุ้นคว้าชัยชนะในโฮมเรซอย่างเต็มตัว โดย "ไอเดีย" กฤตภัทร เขื่อนคำ จาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่ง ทีม ได้ออกตัวจากตำแหน่งโพล ขณะที่จ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ฟาดิลลาห์ อาร์บี อดิทาม่า นักบิดอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ขนาบข้างในกริดที่ 2

เกมเรซนี้ดวลกันทั้งสิ้น 10 รอบสนาม และต่อสู้กันนับตั้งแต่โค้งแรกจนถึงโค้งสุดท้าย ผลปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของ อดิทาม่า ที่วางแผนเรซอย่างรัดกุมเข้าป้ายเป็นคันแรก พร้อมกับผงาดครองแชมป์ประจำปีในรุ่นนี้ไปครองเป็นที่เรียบร้อย โดยเฉือนนักบิดไทยอย่าง "ไอเดีย-กฤตภัทร" อันดับ 2 เพียง 0.606 วินาทีเท่านั้น  อันดับ 3 เป็นของ “อุ้ม” นพรุธพงษ์ บุญประเวศ ดาวรุ่งชาวไทยจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงบิดด้วยสิทธิ์ไวลด์การ์ดโชว์ฟอร์มร้อนแรง บิดเข้าป้ายอันดับ 3 ประเดิมโพเดียมได้สำเร็จ ตามหลังผู้ชนะ 1.040 วินาที

ในรุ่น อันเดอร์โบน 150 ซีซี ชัยชนะตกเป็นของ ฮุสนี ไซนัล ฟูอัดซี นักบิดอินโดนีเซียจาก เซียอาร์ แอลเอฟเอ็น เอชพี969 เอ็มซีอาร์ อาร์บีที34  ตามด้วย ฟาดลี ริกานี เพื่อนร่วมชาติจาก ยามาฮ่า แอลเอฟเอ็น เอชพี969 อินโดนีเซีย เรซซิ่ง ทีม และอันดับ 3  อดิตยา ฟาอูซี นักบิดอินโดนีเซียอีกคนจาก เจพีเอ็นดับเบิลยู เอสเอ็นดี แฟ็คตอรี เรซซิ่ง

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขันในรุ่น ทีวีเอส เอเชีย วันเมคเรซ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งชัยชนะเรซแรกเป็นของ มูฮัมหมัด แรมแดน รอสลี นักบิดมาเลเซีย ตามด้วย หลุยส์ มิเกล นักบิดสเปน อันดับ 2 ตามหลัง 0.409 วินาที อันดับ 3 ได้แก่ ซาร์ทัค ชาวัน นักบิดอินเดียตามหลัง 1.455 วินาที

ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2025 สนามสุดท้าย จะดวลความเร็วเรซสุดท้าย เพื่อตัดสินแชมป์ประจำปี ในวันอาทิตย์ที่ 7  ธันวาคม รับชมทางออนไลน์ ตั้งแต่เวลา 12.35 น. ได้ที่เพจ และยูทูป PPTV Sports หรือเพจ Asia Road Racing Championship และ Chang Circuit Buriram