จับกระแสพลังงาน : 9 ธันวาคม 2568

จับกระแสพลังงาน : 9 ธันวาคม 2568

วันอังคาร ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

** บมจ.ไทยออยล์... คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบรอบสัปดาห์นี้ (8 – 12 ธ.ค. 68)...โดยระบุว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวน จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอล่าที่เริ่มลุกโชนขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจาก     นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีคำสั่งเตรียมความพร้อมในการเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินในเวเนซุเอล่า       โดยอ้างถึงความต้องการปราบปรามยาเสพติด นอกจากนี้ สถานการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังคงไม่แน่นอนจากรัสเซียอ้างว่าสามารถเข้ายึดพื้นที่ยุทธศาสตร์ของยูเครน ขณะที่ยูเครนออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว ท่ามกลางการเจรจาสันติภาพของทั้งสองประเทศ นำโดยสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีข้อยุติ ทั้งนี้ ตลาดยังจับตามองถึงท่าทีของยุโรป เนื่องจากนายวลาดีเมียร์ ปูติน มีคำแถลงการณ์พาดพึงถึงยุโรปว่าเป็นผู้ขัดขวางความพยายามของผู้นำสหรัฐฯ ในการยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน พร้อมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่ารัสเซียพร้อมรบหากยุโรปเป็นฝ่ายเปิดฉากการโจมตีก่อน อีกทั้ง ผู้นำรัสเซียยังคงมีแผนเดินทางเยือนอินเดียเพื่อเจรจาการค้ากับอินเดียเพิ่มเติม หลังจากอินเดียลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย นอกจากนี้ ตลาดคาดการณ์แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ท่ามกลางความท้าทายของข้อมูลที่จำกัดจากการปิดทำการชั่วคราวของรัฐบาลสหรัฐฯ…ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 58-68 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 60-70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล…** บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GULF” ลงนามสัญญาจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG Sale and Purchase Agreement) กับ Eni S.p.A. (“ENI”) Eni  ซึ่ง เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิตาลี มีรัฐบาลอิตาลีเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดประมาณ 50,000 ล้านยูโร โดยเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทพลังงานชั้นนำของโลก มีประสบการณ์ยาวนานในการดำเนินธุรกิจพลังงานแบบครบวงจรในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ครอบคลุมการสำรวจและผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ การกลั่นและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม การค้าก๊าซธรรมชาติเหลว การผลิตไฟฟ้า ตลอดจนการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและโซลูชั่นด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน…ซึ่งการลงนามสัญญาครั้งนี้ เป็นการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวและจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าภายใต้กลุ่มบริษัท GULF เป็นระยะเวลา 10 ปี ในปริมาณไม่เกิน 0.8 ล้านตันต่อปี โดยจะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนมกราคม 2570...**  คณะรัฐมนตรี ( เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2568 ) มีมติอนุมัติให้บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และคณะ ต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมสำหรับสัมปทานปิโตรเลียมเลขที่ 1/2529/33 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข B12/27 ออกไปอีก 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2571 – 14 มกราคม 2581 ตามที่กระทรวงพลังงาน เสนอ เนื่องจากระยะเวลาผลิตเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 14 มกราคม 2571 ซึ่งการดำเนินการนี้เป็นไปตามบทบัญญัติของ มาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ที่กำหนดให้สามารถต่อระยะเวลาได้เพียงครั้งเดียวไม่เกินสิบปี...โดยการต่อระยะเวลาผลิตนี้ถือเป็นสิทธิตามกฎหมายและสัญญาสัมปทานที่ผู้รับสัมปทานพึงได้รับเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขครบถ้วนประกอบกับจะช่วยสร้างความมั่นใจในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองประมาณ 660 พันล้านลูกบาศก์ฟุต และจะช่วยลดการพึ่งพิงการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ รวมทั้งทำให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้จากผลประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าภาคหลวงและภาษีเงินได้ปิโตรเลียม คิดเป็น มูลค่ารวม 425,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ เช่น เงินโบนัสการผลิตรายปี เงินโบนัสการลงนามและข้อผูกพันด้านการสำรวจ การพัฒนาเทคนิค และเงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาอื่นๆ…สำหรับ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข B12/27 คือแปลงสัมปทานปิโตรเลียมที่ดำเนินการโดยบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด โดยมี แหล่งผลิตที่สำคัญในแปลงนี้ได้แก่ แหล่งไพลิน, แหล่งไพลินเหนือ, แหล่งมรกต และแหล่งอุบล...** บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. รับ 2 รางวัลจากงาน SET Awards 2025 ได้แก่ รางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จด้านนวัตกรรม (SET Award of Honor : Best Innovative Company) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากผลงานนวัตกรรม “หัวเผาก๊าซทิ้งเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Extremely Low BTU Flare Tip for Greenhouse Gas Emission Reduction)” ซึ่งเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ก๊าซฯ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และรางวัลยอดเยี่ยมด้านนักลงทุนสัมพันธ์ (Best Investor Relations Awards) ในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดสูงกว่า 1 แสนล้านบาท…งาน SET Awards จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินธนาคาร เพื่อมอบรางวัลให้กับบริษัทจดทะเบียนที่มีผลประกอบการโดดเด่น และดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม ภายใต้หลักบรรษัทภิบาล หรือ ESG (Environmental, Social, and Governance)….** บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower ได้รับประกาศเกียรติคุณด้านการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน (Sustainability Disclosure Recognition) ประจำปี 2568 จากสถาบันไทยพัฒน์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในฐานะองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมุ่งส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนอย่างรับผิดชอบ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ เพื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน...โดยในปีนี้ สถาบันไทยพัฒน์ได้จัดพิธีมอบ Sustainability Disclosure Award 2568 ให้แก่องค์กรสมาชิกประชาคมการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน (SDC) โดยมีองค์กรได้รับรางวัล Sustainability Disclosure Recognition จำนวน 67 แห่ง ซึ่งประเด็นที่องค์กรเปิดเผยข้อมูลมากที่สุด ได้แก่ การต้านทุจริต ความหลากหลายและโอกาสแห่งความเท่าเทียม และผลเชิงเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ภาคธุรกิจให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการและการพัฒนาอย่างยั่งยืน…**

** กระบองเพชร**


 

 

 

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top