วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
LEEK EV (สลีค อีวี) แบรนด์สตาร์ทอัพไทย–สิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านมอเตอร์ ไซค์ไฟฟ้า เปิดตัวสู่สาธารณะอย่างเป็นทางการในประเทศไทยที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 (Motor Expo 2025) พร้อมเผยโฉม S-Performance รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับ Ecosystem เทคโนโลยีอัจฉริยะทั้ง S Drive, SLEEK OS และ S Charge ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติการขับขี่ในเมืองถือเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ของประเทศไทย ซึ่งภายในงาน ทางสลีคได้รับความสนใจ จากทั้งผู้ขับขี่และนักลงทุนในด้านเทคโนโลยีและ นวัตกรรมใหม่ ๆ ตอกย้ำวิสัยทัศน์ของสลีคในการทำให้ การเดิน ทางเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เข้าถึงได้ และใช้งานได้จริงสำหรับคนไทยทุกคน
เนื่องในโอกาสการเข้าร่วมงาน Motor Expo 2025 ในปีนี้ สลีค อีวี ไม่ได้เพียงนำเสนอรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องการสื่อสารแนวทางการดำเนินธุรกิจที่บริษัทกำลังผลักดันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน (Energy Infrastructure) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแกนสำคัญของการพัฒนาระบบนิเวศ ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ผ่านโปรเจกต์ S Charge ระบบสถานีชาร์จที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับมอเตอร์ไซค์ ไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานจริงของผู้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน
_0.jpg)
ตลอดปี 2568 ที่ผ่านมา S Charge มีส่วนช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดค่าใช้จ่ายรวมกว่า 10 ล้านบาท และในปี 2026 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะช่วยผู้ใช้ชาวไทยประหยัดค่าใช้จ่ายรวมกว่า 100 ล้านบาท ผ่านเทคโนโลยีการชาร์จ ที่สะดวก ปลอดภัย และออกแบบมาเพื่อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ สะท้อนบทบาทของ สลีค อีวี ในการยกระดับ การเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าให้เข้าถึงได้จริงและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
โดยในระยะยาวสลีคมีวิสัยทัศน์ชัดเจนในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในภูมิภาค ผ่านการลงทุนทั้งด้านการผลิตและงานวิจัยพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง โรงงานผลิตของเรา ในไทยจะเป็นหนึ่งในฐานปฏิบัติการหลักของบริษัท ซึ่งถูกออกแบบให้รองรับการพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ เช่น S Drive Powertrain, SLEEK OS และระบบโครงสร้างพื้นฐาน S Charge
โดยสลีคตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตให้ถึง 1,000 คันภายในหนึ่งวัน เพื่อผลักดัน ecosystem มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไทย ให้แข็งแรงและยั่งยืน การลงทุนครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของเรา ในการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมายกระดับรูปแบบ การเดินทางของคนไทย ตั้งแต่ระบบพลังงานอัจฉริยะ แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคใหม่ของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ
_0.jpg)
นายกันตินันท์ ตันวีนุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท สลีค อีวี จำกัด กล่าวว่า “ที่สลีคเราเชื่อว่า การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าไม่ได้เริ่มต้นจากตัวรถเพียงอย่างเดียว แต่เริ่มจากการสร้างเทคโนโลยีและ ecosystem ที่เปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางของผู้ใช้ได้จริง เราพัฒนา S Drive, SLEEK OS และโครงสร้างชาร์จ S Charge ขึ้นจากศูนย์ เพื่อให้ผู้ขับขี่ชาวไทยได้สัมผัสมาตรฐานใหม่ของความอัจฉริยะ ความปลอดภัย และความยั่งยืน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่น S-Performance จึงเป็นตัวแทนของวิสัยทัศน์เราอย่างแท้จริง ยานยนต์ที่ผสานพลังสมรรถนะ เทคโนโลยี และการใช้งานที่เรียบง่ายเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างอนาคตการเดินทางที่ดีกว่าให้ทุกคน”
ภายในงาน สลีคได้เปิดตัว S-Performance มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุด มาพร้อมสมรรถนะระดับ 300cc แรงบิดสูงสุด 255 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0–60 กม./ชม. ในเพียง 3.6 วินาที ผสานด้วยต้นทุนการขับขี่ แบบประหยัดระดับ 0.10 บาทต่อกิโลเมตร พร้อมเปิดตัวครั้งแรกของไทยกับ ระบบ V2L (Vehicle-to-Load) สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ช่วยเปลี่ยนรถให้เป็นแหล่งพลังงานพกพาเพื่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้ทันที
หัวใจของนวัตกรรมครั้งนี้คือ S Drive Powertrain ที่ SLEEK พัฒนาขึ้นเองแบบครบระบบ ตั้งแต่มอเตอร์ คอนโทรลเลอร์ แบตเตอรี่ จนถึง VCU สื่อสารกันแบบเรียลไทม์เพื่อให้รองรับสภาพอากาศและพฤติกรรม การใช้งานของคนไทยโดยเฉพาะ พร้อมการรับประกัน Powertrain สูงสุด 5 ปี หรือ 50,000 กม. และการรับประกัน แบตเตอรี่ที่ยาวที่สุดในประเทศถึง 150,000 กม.
_0.jpg)
อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ SLEEK OS ซอฟต์แวร์ศูนย์กลางที่เชื่อมต่อรถ ผู้ขับ และโครงสร้างพื้นฐานเข้าด้วยกัน ผ่าน SLEEK App ที่ควบคุมรถได้เกือบทุกฟังก์ชัน รวมถึงการสตาร์ท เปิดเบาะ เช็กสถานะรถ วิเคราะห์ปัญหา และแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ พร้อมรองรับการสั่งงานผ่าน Apple Watch และ Android Watch เป็นครั้งแรกในประเทศไทย มากไปกว่านั้นสำหรับภาคธุรกิจ สลีคขอนำเสนอโซลูชัน Fleet Management ที่ช่วยให้ติดตามและบริหารรถหลายคันได้ในอุปกรณ์เดียวด้วยการเชื่อมต่อแบบหลายซิมทั้งบนรถและในแบตเตอรี่ แม้ถอดแบตออกก็ยังรู้ตำแหน่งได้ทันที
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน S Charge สถานีชาร์จที่ออกแบบเฉพาะสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยรองรับการชาร์จจาก 30–80% ภายใน 42 นาที มีระบบระบุตัวตนอัตโนมัติและหักผ่านวอลเลตทันทีโดยไม่ต้องกดหรือสแกนใด ๆ พร้อมระบบให้บริการ 24 ชั่วโมงแบบไร้พนักงาน และเราเตรียมขยายจุดบริการไปตามสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ทั่วประเทศ ตั้งเป้า 150 จุดภายในปี 2569 เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ในปีนี้ สลีคยังเปิดตัวไลน์อัปครบรุ่น ได้แก่ Type-S, Type-E, Type-X และ SLEEK PLAY พร้อมข้อเสนอพิเศษ ร่วมกับพันธมิตรทางการเงินเพื่อให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้นผ่านโปรแกรมผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน
_0.jpg)
ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการเดินทางบนรถสองล้อ สลีคยังคงยึดมั่นในการผลักดัน นวัตกรรมที่ล้ำสมัย ควบคู่กับการสร้าง Ecosystem สำหรับการเดินทางที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับสไตล์การใช้งาน ของผู้บริโภคชาวไทย และเราพร้อมร่วมมือกับประเทศไทยในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้า พร้อมนำเสนอ โซลูชันการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเชื่อถือได้เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของคนไทย ในระยะยาว
การเปิดตัวเทคโนโลยีล่าสุดในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ ถือเป็นเพียงก้าวแรกของเส้นทางการเติบโตของสลีค ในประเทศไทย โดยแบรนด์ยังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ การขับขี่อัจฉริยะที่ตอบโจทย์ทั้งปัจจุบันและอนาคตให้กับผู้ขับขี่ชาวไทยอย่างแท้จริง
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและทดลองสัมผัสนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของ สลีค อีวี ได้ที่บูธ G08-1 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1–3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 หรือเยี่ยมชมได้ที่ร้านผู้แทนจำหน่าย ทั่วประเทศ เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ของการขับขี่ยุคใหม่อย่างเต็มรูปแบบ
_0.jpg)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี