วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT ระบุว่า ปี 2568 เป็นปีที่ท้าทายของภาคการเงินการธนาคาร ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและแรงกดดันรอบด้าน แต่ธนาคารไทยเครดิตยังสามารถยืนหยัดและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากการขับเคลื่อนองค์กรอย่างรอบคอบ ควบคู่การบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ เพื่อยืนเคียงข้างและสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยและผู้ประกอบการขนาดเล็กซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก ให้สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายไปได้
สำหรับ ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 สะท้อนศักยภาพของธนาคารอย่างชัดเจน โดยมีกำไรสุทธิสะสม 2,842 ล้านบาท เติบโตถึง 16.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความสามารถในการรักษาสมดุลระหว่างการขยายสินเชื่อและการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ โดยเริ่มต้นปีด้วยการเน้นปล่อยสินเชื่อไปยังลูกค้าที่มีคุณภาพ พร้อมบริหารต้นทุนเครดิตอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไตรมาสแรกทำกำไรได้ 903 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ยังชะลอตัว ธนาคารยังคงรักษาการเติบโตของสินเชื่อได้ต่อเนื่อง และในไตรมาส 3 สามารถยกระดับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม โดยอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเหลือ 4.2% ส่งผลให้กำไรสุทธิรายไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็น 1,014 ล้านบาท
ตลอดปี 2568 ธนาคารเดินหน้ากลยุทธ์ Customer Centric อย่างเข้มข้น ผ่านการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ผู้ประกอบการในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้เข้าถึงสภาพคล่องได้รวดเร็วและบริหารธุรกิจได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อรวมขยายตัวสู่ระดับ 177,670 ล้านบาท ณ สิ้นงวด 9 เดือน โดยมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง ‘สินเชื่อเถ้าแก่ใหญ่’ วงเงินสูงสุด 500,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน, ‘สินเชื่อตลาดค้าส่ง’ วงเงินสูงสุด 1,000,000 บาท และ ‘สินเชื่อ SME กล้าสู้’ ที่ใช้อัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยง (Risk-based Pricing) เพื่อมอบเงื่อนไขที่เป็นธรรมและเหมาะสมกับศักยภาพของลูกค้าแต่ละราย
ขณะเดียวกัน ธนาคารยังเร่งขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านดิจิทัล ด้วยการยกระดับแอปพลิเคชัน Micro Pay e-Wallet ซึ่งออกแบบมาเพื่อพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดกว่า 3.2 แสนราย ช่วยให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวก คล่องตัว และบริหารเงินได้อย่างเป็นระบบ พร้อมต่อยอดสู่การใช้ข้อมูลธุรกรรมเชิงลึกเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการพิจารณาสินเชื่อกลุ่ม Nano และ Micro Finance ในระยะยาว
ในช่วงไตรมาส 4 ธนาคารยังเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจฐานราก ผ่านความร่วมมือกับบริษัท ไทยไพบูลย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันสุขภาพ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ประกันภัยภายใต้แนวคิด “เข้าใจ คุ้มครอง ห่วงใย” ทั้งแพ็กเกจ SCAN & PROTECT ที่คุ้มครองทรัพย์สิน ยานพาหนะ และภัยธรรมชาติ รวมถึงประกันสุขภาพ Critical Illness Safety ที่ดูแลทั้งโรคร้ายแรง อุบัติเหตุ และเงินชดเชยรายได้ เพื่อเป็นหลักประกันให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธนาคารยังเดินหน้าขยายเครือข่ายสาขา เปิดสาขาใหม่ 3 แห่งบนทำเลศักยภาพ พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเงินฝากผ่านแคมเปญ “เงินฝากประจำทันใจ” ที่ให้ดอกเบี้ยสูงและมีความยืดหยุ่นหลายระยะเวลา สร้างทางเลือกในการออมเงินที่มั่นคง
จากความมุ่งมั่นในการส่งมอบโซลูชันทางการเงินอย่างรอบด้าน ส่งผลให้ธนาคารไทยเครดิตได้รับการยอมรับในวงกว้าง ทั้งการจัดอันดับเครดิตองค์กรระดับ A(tha)/F1(tha) จาก Fitch Ratings การติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 รวมถึงรางวัลด้านการกำกับดูแลกิจการ สังคม สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม อาทิ Leading ESG Award และ SET ESG Ratings ระดับ “A” สะท้อนบทบาทของธนาคารในการเติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่ความยั่งยืนในทุกมิติ.
-032
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี