วันจันทร์ ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2568
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจเทรนด์การบริโภคอาหารชาวอเมริกาปี 2569 พบนิยมออกไปบริโภคอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น แต่เน้นความคุ้มค่า ประสบการณ์ จองง่ายผ่านออนไลน์ แนะร้านอาหารไทยวางแผน ดึงชาวอเมริกันเข้ามาบริโภค
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจาก นางสุปรารถนา กมลเวชช ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐอเมริกา ถึงผลสำรวจเทรนด์การรับประทานอาหารของผู้บริโภคในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ในปี 2569 ที่พบว่าชาวอเมริกันได้หันมารับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น แต่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า การจองร้านผ่านออนไลน์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ที่จะใช้เทรนด์นี้มาปรับใช้ในการทำธุรกิจอาหารไทยในสหรัฐฯ
โดยทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า OpenTable ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีสำหรับร้านอาหารและเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Booking Holdings, Inc. มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟฟอร์เนีย ให้บริการร้านอาหารกว่า 60,000 แห่งทั่วโลก ในการจองโต๊ะกว่า 1.9 พันล้านที่นั่งต่อปี โดยใช้เทคโนโลยีช่วยผู้บริโภคค้นหาและจองร้านที่เหมาะสมสำหรับทุกโอกาส ได้เปิดเผยรายงานล่าสุด “2026 Dining Trends Report” ว่า การประเมินภาพรวมเทรนด์การรับประทานอาหาร รายงานวิเคราะห์พฤติกรรมการรับประทานอาหารของชาวอเมริกัน และแนวโน้มที่จะกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมร้านอาหารในปี 2569
ในข้อมูลระบุว่า ในปี 2568 การรับประทานอาหารนอกบ้านของชาวอเมริกัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปีก่อน และคาดว่าในปี 2569 ชาวอเมริกันจะออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านเฉลี่ย 10 ครั้งต่อเดือน ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่าการรับประทานอาหารนอกบ้านยังเป็นส่วนสำคัญในวิถีชีวิตของชาวอเมริกัน สังคมอเมริกัน ร้านอาหารยังคงเป็นกิจกรรมสำคัญทางสังคมและประสบการณ์ร่วม ผู้บริโภคมองหาความคุ้มค่าและประสบการณ์ การรับประทานอาหารนอกบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของมื้ออาหาร แต่เป็นเรื่องของชุมชน ต้องการปฏิสัมพันธ์แบบตัวต่อตัวพร้อมอาหารดีๆ ซึ่งยังคงเป็นแก่นสำคัญของสังคมอเมริกัน
นอกจากนี้ยังพบว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันยังให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า แต่พิเศษ ให้ประสบการณ์ นิยมรับประทานอาหารในช่วง Happy Hour (ร้านเสนอโปรชัน) และต้องการความยืดหยุ่นและการเลือกร้านแบบไม่ได้วางแผน โดยผู้บริโภคกลุ่มมิลเลนเนียล จะเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาด คาดว่า จะออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน 14 ครั้งต่อเดือน สูงสุดในทุกกลุ่ม ส่วนปัจจัยที่เลือกร้านจะดูจาก Instagram และ TikTok และมีการจองร้านผ่านแพลตฟอร์ม OpenTable มากขึ้น รวมทั้งใช้ AI ช่วยค้นหาร้านอาหารมากขึ้น
นางสาวสุนันทา กล่าวว่า จากแนวโน้มการเติบโตของการบริโภคอาหารนอกบ้านของชาวอเมริกันในปี 2569 แม้ว่าผู้บริโภคจะมีความระมัดระวังค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ก็ยังออกไปบริโภค โดยจะให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า ประสบการณ์ และความสะดวกมากขึ้น ดังนั้นร้านอาหารไทยที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการขาย ต้องหันมาใช้ระบบออนไลน์ ระบบจองโต๊ะ และซอฟต์แวร์จัดการโต๊ะมากขึ้น เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและบริการลูกค้า และต้องให้ประสบการณ์พิเศษให้กับผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับร้านที่มีอะไรให้มากกว่าอาหาร เช่น บรรยากาศ เมนูเทรนด์ ประสบการณ์ที่แตกต่างจากปกติ อาทิ อาหารเฮลท์ตี้ ใส่ใจสุขภาพ ความยั่งยืน รวมถึงเมนูที่เน้นวัตถุดิบธรรมชาติ และอาหารที่สะอาด ดีต่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากร้านอาหารไทยปรับตัวตามเทรนด์ได้ ก็จะทำให้มีโอกาสขายได้มากขึ้น
-033
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี