เฝ้าระวัง5ปัจจัยเสี่ยง กดดันดัชนีราคาส่งออก-นำเข้า

เฝ้าระวัง5ปัจจัยเสี่ยง กดดันดัชนีราคาส่งออก-นำเข้า

วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เปิดเผยว่าดัชนีราคาส่งออก และดัชนีราคานำเข้าของไทย เดือนพฤศจิกายน 2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ตามต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยี โดยเฉพาะจากต้นทุนโลหะสำคัญ รวมถึงสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ผ่อนคลายชั่วคราว ซึ่งสอดคล้องกับการนำเข้าของไทยที่ขยายตัวจากแรงกดดันในห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบ สำหรับใช้ผลิตเพื่อส่งออก อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบายกีดกันทางการค้า การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และการแข็งค่าของเงินบาท อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวทางด้านราคาของไทยในระยะข้างหน้า

ทั้งนี้ดัชนีราคาส่งออก เดือนพฤศจิกายน 2568 เท่ากับ 111.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัว 1.1 %  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตามความต้องการของตลาดหลักในหลายกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวต่อเนื่อง และส่งผลให้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกปรับสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้น 2.2 % ได้แก่ ทองคำ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้น 0.7 % ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และอาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์


ขณะที่หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ลดลง 9.7 % โดยเฉพาะน้ำมันสำเร็จรูป และหมวดสินค้าเกษตรกรรม ลดลง 4.1 % ได้แก่ ข้าว ปรับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่ง และความต้องการชะลอลงในบางประเทศ สำหรับยางพารา และผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ตามปริมาณผลผลิตในหลายประเทศที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น

ด้านดัชนีราคานำเข้า เดือนพฤศจิกายน 2568 เท่ากับ 116.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัว 3.8 % (YoY)   สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกและการผลิตภายในประเทศที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และส่งผลให้ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้น 7.8 % ได้แก่ ทองคำ  สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และอุปกรณ์ ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้น 6.6 % ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม และเครื่องประดับอัญมณี หมวดสินค้าทุน สูงขึ้น 4.2  % ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ และเครื่องมือ เครื่องใช้ ทางวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การทดสอบ และหมวดยานพาหนะ และอุปกรณ์การขนส่ง สูงขึ้นร้อยละ 0.4 ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ และส่วนประกอบและอุปกรณ์จักรยานยนต์ ขณะที่หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ลดลง 8.4  % โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากแรงกดดันด้านอุปทานที่ยังอยู่ในระดับสูง และความต้องการที่ชะลอลง

นายนันทพงษ์ ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ดัชนีราคาส่งออก และดัชนีราคานำเข้า เดือนธันวาคม 2568 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องตลอดปี 2568 จากคำสั่งซื้อในช่วงปลายปีของบางตลาด และความต้องการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบเพื่อรองรับการผลิตสำหรับส่งออกในตลาดต่างประเทศ โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนีขยายตัว ได้แก่ 1. ความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง 2. สินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี ยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก ตามการขยายตัวของ AI และ Data Center รวมถึงวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นช่วงขาขึ้น และ 3. ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ 1. ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้าหลัก 2. ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อในหลายภูมิภาค 3. ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ 4. ราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางกลุ่ม ยังเผชิญกับปัญหาอุปทานส่วนเกิน และการแข่งขันทางด้านราคา และ 5. การแข็งค่าของเงินบาท

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top