nn อย่างที่สัญญากันไว้ว่าวันนี้จะมาเล่าเรื่องปัญหาในวงการเหล็กให้ฟังกันอีก...!! และอย่างที่รู้ๆ กันว่าปัญหาในวงการเหล็กบ้านเรานั้นมันเยอะจริงมีประเด็นใหม่ๆ แปลกๆ เกิดขึ้นตลอด...แม้แต่กรมศุลกากรเองก็ยังยอมรับว่า “เหล็ก” เป็นสินค้าอ่อนไหวที่ต้องคอยจับตาดูใกล้ชิดเพราะมีวิธีการหลบเลี่ยงภาษีแบบใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลา....เรื่องที่ “โลกการค้า” จะมาเล่าให้ฟังวันนี้ก็มีอยู่ว่า...จากกรณีที่ผู้ผลิตถังแก๊สในประเทศมีการนำสินค้าเหล็กเข้ามาเพื่อผลิตสินค้าถังแก๊สซึ่งมีทั้งผลิตเพื่อการส่งออก และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ โดยกรณีที่เป็นการนำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออกจะมีการใช้สิทธิ์ 19 ทวิ ของกรมศุลกากรเพื่อประโยชน์ทางด้านอากรขาเข้า รวมถึงอากรมาตรการทางการค้า โดยการใช้สิทธิ์ต้องมีการแจ้งสูตรการผลิตต่อกรมศุลกากร เพื่อเป็นข้อมูลว่าถังแก๊ส 1 ถัง ต้องใช้เหล็กปริมาณเท่าไหร่ (รวมส่วนสูญเสีย).... แต่ในช่วงที่ผ่านมากว่า 10 ปี ผู้ผลิตถังแก๊สมีการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรทำให้มีส่วนสูญเสียปรับลดลง...แต่ไม่มีการแจ้งต่อกรมศุลกากร ทั้งที่เป็นหน้าที่ของผู้ที่ขอใช้สิทธิ์ 19 ทวิ....และยังคงขออนุมัติ และใช้สูตรการผลิตเดิมที่แสดงว่ามีส่วนเสียสูง....ผลก็คือทำให้ส่วนสูญเสียที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าสูตรการผลิตที่ยื่นไว้....!!และเรื่องนี้ก็มีหน่วยงานของกรมศุลกากรที่เกี่ยวข้องได้ให้ความเห็นเป็นไปแนวทางเดียวกันคือ....สูตรการผลิตมีความคลาดเคลื่อนสูงจริง...!! แต่ในทางปฏิบัติกลับทำให้เกิดข้อกังขา...เพราะแม้กรมศุลกากรจะรู้อยู่เต็มอกว่า...กรณีการสำแดงสูตรการผลิตที่ไม่เหมาะสมและการตรวจสอบมาแล้วกว่า 1 ปี ....แต่กลับไม่มีการดำเนินการใดๆอย่างเป็นรูปธรรม....และมีแนวโน้มว่าจะไม่มีการออกแบบแจ้งประเมินอากรที่ขาดด้วย...เพราะหวังจะดึงเวลาให้ พ.ร.บ.ศุลกากรฉบับใหม่มีผลบังคับใช้... ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถออกแบบแจ้งได้กรณีที่มีการนำเข้าสินค้าเข้ามาแล้วเกิน 3 ปี...(ใช้เล่ห์เหลี่ยมเดียวกันกับ “เหล็กเคลือบขี้โกง)...!! เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วอะไรจะเกิดขึ้นล่ะครับพี่น้อง...โลกการค้า...จะบอกให้...คือพวกผู้นำเข้า(ขี้โกง)ที่สำแดงสูตรการผลิตไม่ถูกต้อง...ก็จะนำเหล็กส่วนต่างของส่วนสูญเสียดังกล่าว (ส่วนสูญเสียตามสูตรการผลิตสูงกว่าความเป็นจริง)...มาผลิตถังแก๊สแล้วจำหน่ายในประเทศ.... โดยไม่มีการจ่ายอากรขาเข้า รวมถึงอากรมาตรการทางการค้า...ทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บอากรนำเข้า รวมถึงอากรมาตรการทางการค้า...ซ้ำยังส่งผลให้มาตรการทางการค้าที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศ ไม่สามารถบังคับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย...จากกรณีนี้...คาดว่าภาครัฐสูญเสียการจัดเก็บอากรประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท...!! กรมศุลกากร...เองตอนนี้ก็เก็บรายได้ไม่ได้ตามเป้าทุกปีอยู่แล้ว และสูญเสียรายได้ไปจากข้อตกลงการค้าเสรีตั้งมากมาย....แล้วจะยังปล่อยให้มีการรั่วไหลแบบนี้อีกเหรอ...เห็นๆ กันตรงหน้าก็กรณี “เหล็กเคลือบเลี่ยงพิกัด” เกือบพันล้านบาท...กรณีเหล็กถังแก๊ส อีก 1.2 พันล้านบาท...และยังจะมีเหล็กเคลือบเจืออัลลอยเลี่ยงอากรเซฟการ์ดอีก 1.5 พันล้านบาท..รวมๆ กันเห็นอยู่ก็เกือบครึ่งหมื่นล้าน...และยังมีรายเล็กรายน้อยที่อยู่ในฐานความผิดเดียวกันกับกรณี...เหล็กเคลือบเจืออัลลอยเลี่ยงอากรเซฟการ์ด...ก็อีกเกือบพันล้านบาท...!! ลองคิดดูเองว่า...ถ้ากรมศุลกากร...จะรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างเข้มข้น...ไม่ปล่อยให้พวก“หนอนบ่อนไส้”...ออกฤทธิ์ออกเดชกันอยู่แบบนี้...จะมีเม็ดเงินเข้าแผ่นดินไว้ใช้พัฒนาประเทศได้อีกเท่าไหร่....nn
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี