ตอนนี้ไม่มีข่าวเศรษฐกิจข่าวไหนที่คนสนใจไปมากกว่าการปรับ...คณะรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ...“ประยุทธ์ 5” ... ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่า...ผ่านมา 3 ปี...รัฐบาลลุงตู่...ยังสอบ
ไม่ผ่านเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องของชาวบ้าน...
ที่ใช้คำว่า “ปากท้องชาวบ้าน”...ก็เพราะว่าภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2561 นั้นดูดีขึ้นจาก 2 ปีก่อน...เพราะตัวเลขจีดีพีนั้นเติบโตดี การส่งออกโตเกินคาด ตัวเลขการท่องเที่ยวก็ยังไปได้....แต่ปมใหญ่คือ... อานิสงส์ของภาพรวมเศรษฐกิจนั้น....ไม่ได้ตกไปถึงประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศ...ดูจากตัวเลขผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจนสูงถึง 11 ล้านรา...หนี้ครัวเรือนยังสูงซ้ำยังเริ่มกลายเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้น...ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังเจอปัญหาเดิมคือเข้าไม่ถึงแหล่งทุน และขาดความสามารถในการชำระหนี้...ตัวเลขการว่างงานก็เพิ่มขึ้น...ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ....ที่สำคัญมากคือ 3 ปีมานี้การลงทุนภาคเอกชนไม่ขยับเลย....ฯลฯ
ดังนั้นการปรับครม. “ประยุทธ์ 5”...จึงมีการโฟกัสไปที่...รัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจทั้งหมด...ว่ากันว่าจะปรับกันยกชุดเลยทีเดียว....
แต่ประเด็นก็คือ...ใครจะกล้ามาทำงานให้เปลืองตัวในช่วงรัฐบาลขาลง...และเมื่อคำนวณเวลาตามโรดแมป...ที่ท่านนายกฯประกาศไว้ว่าจะมีการเลือกตั้งภายในปลายปี’61นั้น...ก็จะมีเวลาทำงานไม่ถึง 1 ปี...จะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้แค่ไหน....
ดังนั้นการจะหาใครมานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่เหลือนี้อย่างน้อย...ก็ต้องเป็นผู้ที่เป็นงานเพราะสามารถสานต่อนโยบายต่างๆได้เลยไม่ต้องมาศึกษางานใหม่...นอกจากนั้นก็ควรที่จะเป็นคนที่เติบโตและมีประสบการณ์จากสายงานนั้นๆ...เข้าใจในนโยบายของกระทรวง...และเข้าใจบทบาทของภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงที่ตนดูแลอยู่...
ถ้าไล่ดูกระทรวงด้านเศรษฐกิจ..ที่เป็นปมเป็นจุดอ่อนใหญ่ของ ครม.ลุงตู่...อันดับหนึ่งแน่นอนคือ...กระทรวงอุตสาหกรรม...ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า...ตลอด 3 ปี มานี้...ไม่ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการจูงใจมากสักเพียงใด...กลับไม่มีการลงทุนจากภาคเอกชนเลย...ทั้งๆ ที่โครงสร้างพื้นฐาน มาตรการทางภาษี กฎกติกาในการประกอบธุรกิจ...ของไทยก็ไม่แพ้ใครในอาเซียนหรือแม้แต่ในเอเชีย...แต่เงินลงทุนต่างชาติกลับไหลไป เวียดนาม อินโดนีเซีย และประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง (ลาว พม่า กัมพูชา)....!! รมว.อุตสาหกรรมทั้ง 3 คน ของครม.ลุงตู่...ไม่ปฏิเสธเรื่องความรู้ เรื่องข้อมูลในมือ...แต่สิ่งที่ขาด...น่าจะเป็นความกล้าในการตัดสินใจในทางการปฏิบัติ และคอนเน็กชั่น...และนี่จึงเป็นเหตุที่การลงทุนภาคเอกชนไม่มีผลทางปฏิบัติ นอกเหนือจากออกข่าวไปวันๆ ว่ามีเอกชนต่างชาติรายโน้นรายนี้สนใจจะลงทุน...!!สรุปว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยน....
ส่วนกระทรวงพาณิชย์...แม้ว่าตัวเลขการส่งออกจะออกมาดีกว่าคาด (จากตัวเลขปีนี้ที่ดูโป่งพองเนื่องจากฐานเดิมมันต่ำ)....แต่ไม่อาจชี้ชัดว่าเป็นเพราะฝีมือหรือเพราะสภาพตลาดโลกมันดีขึ้น..!!แต่ที่แน่ๆ คือราคาสินค้าเกษตรสำคัญๆนั้นตกต่ำ…ทั้งยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน...ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์...ฯลฯ ถ้าดูจากจุดนี้ถือว่าสอบตก...
กระทรวงคมนาคม...ซึ่งควรจะมีบทบาทสำคัญมากๆ ในยุคที่เรากำลังสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ...แต่ผลงานที่เกิดก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเหลว....ไล่ไปตั้งแต่รถไฟรางคู่ 5 เส้นทาง
....รถไฟฟ้าไทย-จีน...แม้แต่แค่การจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คน
...ก็ยังต้องใช้คำว่าล้มเหลวไม่เป็นท่า....
เสียดาย...พื้นที่หมดพอดี...พรุ่งนี้มาว่ากันต่อในตอนจบครับผม....
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี