nn ตามกันต่อเนื่อง 2-3 ปี...กับ...“มหากาพย์เหล็กโกงชาติ”...มาถึงวันนี้นาทีนี้...หมุนตามทุน...อยากจะบอกว่าใกล้ถึงบทสุดท้ายเต็มทีแล้ว...ความเดิมของเรื่อง...ก็คือในช่วงปี 2557...มีการนำเข้า
เหล็กเคลือบเจืออัลลอย...โดยสำแดงว่าจะมาใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์...ซึ่งจะได้รับการยกเว้นอากรเซฟการ์ด...!! ปริมาณนำเข้า 2-3 แสนตัน....!!ในข้อเท็จจริงปรากฏว่าเหล็กนำเข้าลอตดังกล่าวกลับถูกใช้ไปในอุตสาหกรรมอื่นที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมยานยนต์...ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเลี่ยงอากรเซฟการ์ด...!! ผู้กระทำความผิดในครั้งนี้มีอยู่หลายบริษัท...ทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ทั้งที่เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯและไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ...โดย “ตัวเป้ง” ที่เป็นโต้โผใหญ่ของการรวมหัวกันเอาเปรียบประเทศชาติ...เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น...ซึ่งเหตุที่เรื่องนี้ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 2-3 ปี จนยืดยาวเป็นมหากาพย์...ก็เพราะว่าตัวต้นเหตุนั้นเขาคิดว่าตัวเองใหญ่...เรื่องแค่นี้กรมศุลกากรไม่สามารถทำอะไรได้...เพราะเชื่อว่าจะเคลียร์เหมือนที่ผ่านมา...แล้วเที่ยวบอกกับคนในวงการเหล็กแบบนั้น...บอกกับบริษัทเหล็กที่ผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่เข้ามารับงานต่อจากรุ่นพ่อรุ่นแม่แบบนั้น..จึงได้หลงเชื่อเข้ามาซื้อ “เหล็กบาป”...ไปใช้ “ทำท่อ”...!! สุดท้ายแล้ว...กรมศุลกากร...ตั้งแต่ในยุคของ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง...เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร...ไม่ใช่กรมศุลกากรยุคก่อน..ที่จะยอมให้ใครมาวิ่งเต้นยัดใต้โต๊ะ ทำลายศักดิ์ศรีข้าราชการไทย...!! จึงได้เริ่มกระบวนการตรวจสอบ...ซึ่งใช้เวลานานร่วมปีเพราะ...ต้องผจญกับกับทุกเล่ห์เหลี่ยม ทุกรูปแบบของการโยกโย้ แม้กระทั่ง แรงกดดันและเสียดทานจากแรงล็อบบี้ทุกรูปแบบ...จนกระทั่งเรื่องนี้ลากยาวไปจน...ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ได้ถูกแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง...และ...กุลิศ สมบัติศิริ เข้ามาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมศุลกากร...!! ซึ่งตอนนั้น “แก๊งเลี่ยงอากรเหล็ก”...ก็ลูบปากคิดว่าหวานหมู...อธิบดีกรมศุลกากรมาจากสายนักวิชาการแบบนี้...ทำแรงเสียดทานไม่ไหวแน่....!! แต่ด้วยเดชะบุญของประเทศชาติ...ที่กรมศุลกากร...ได้อธิบดีคนใหม่ที่ชื่อ...กุลิศ สมบัติศิริ ...เพราะแม้ว่าจะดูเงียบเรียบร้อยตามสไตล์สายบุ๋น...แต่ข้างในนั้นแข็งโป๊ก...ถึงขนาดว่า...ตัวเป้งของเรื่องนี้...ให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาล ระดับรัฐมนตรี...มาล็อบบี้กดดัน...และแม้จะถูกฟ้องร้องเป็นคดีความในศาล....แต่กุลิศ...ก็ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์และยืดหยัดกับทุกแรงต้าน...เพื่อรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ของชาติและศักดิ์ศรีของข้าราชการไทย...!! ในที่สุดขณะนี้...บริษัทเหล็กรายเล็ก ขนาดกลาง รวม 4-5 ราย...ที่ร่วมกระบวนการเลี่ยงอากร...ก็ยอมจำนน..นำอากรที่ขาดมาชำระให้กับกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อน รวมกันแล้วว่าพันล้านบาท...!! ส่วน “ตัวเป้ง”...ที่แถไถโยกโย้เตะถ่วง...มานาน...ถึงวันหอบเงินมา 1.7 พันล้านบาท...มให้กับกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว....!!..หมุนตามทุน...มองอย่างนี้ครับว่า...นี่เป็นสัญญาณแผ่วๆ ว่า“ตัวเป้ง” นั้นอาจจะยอมจำนนแล้ว....แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น “ตัวเป้ง”...ก็ยังขอสงวนสิทธิ์ในส่วนคดีความ...ที่กรมศุลกากรสั่งฟ้องไว้ในศาลภาษี...แสดงว่าก็ยังหวังว่าจะรอดตัวเพราะหากชนะคดีความ... กรมศุลกากร...ก็ต้องคืนเงินกลับไป...แต่เมื่อหากแพ้คดีก็จ่ายเงินเพียงแค่ 1.7 พันล้านบาท...ไม่ต้องจ่ายค่าปรับ 4 เท่า...ตามกฎหมายกำหนด ซึ่งก็ประมาณหมื่นล้านบาท...!! แม้ว่าวันนี้ “มหากาพย์เหล็กโกงชาติ” ยังไม่ถึงบทสุดท้าย....แต่ที่สำคัญที่สุดของเรื่องนี้ ณ ตอนนี้คือ....กรมศุลกากรยุคนี้...ไม่มีใครหน้าไหนโกงชาติโกงแผ่นดินได้แน่นอน...nn
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี