ในครั้งก่อนๆ ผมเคยเล่าถึงหลักการแห่งความมั่งคั่งง่ายๆ 3 ข้อ โดยเริ่มจากตัวเราเองออกไป (Inside-Out) นั่นคือ
SPEND LESS, SAVE MORE and MAKE MORE หรือ ...
“ใช้จ่ายอย่างเหมาะสม - ออมให้มากขึ้น - สร้าง (หา) ให้มากขึ้น”
ซึ่งแน่นอนว่าส่วนที่สำคัญที่สุด และถือเป็นจุดเริ่มต้นของความมั่งคั่ง ก็คือ Spend Less นั่นเอง เพราะถ้าใช้ไม่มาก หรือตัดออมก่อนใช้ ก็จะมีเหลือมาก และเป็นฐานต่อยอดไปสู่การทำให้งอกเงยได้ (บริหารสิ่งที่มีง่ายกว่าเข้าครอบครองสิ่งที่ยังไม่เป็นของเรา)
อันที่จริงแล้วคำว่า “ใช้จ่ายอย่างเหมาะสม” อาจจะไม่ใช่คำแปลที่ตรงกันพอดีกับคำว่า “Spend Less” แต่ผมคิดว่ามันน่าจะให้ความหมายที่สมเหตุสมผลและดีกว่าคำว่า “ใช้ให้น้อยลง” เพราะไม่ว่าจะอย่างไรแล้ว คนเราก็คงหลีกเลี่ยงหรือลดค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดำเนินชีวิตไม่ได้หรอก สิ่งสำคัญจึงอยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้จ่ายอย่างไร? ให้เหมาะสม และดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไม่ติดขัดต่างหาก
ซึ่งหลักการอันแสนเรียบง่ายและทรงคุณค่า อีกทั้งยังเป็นหลักการอันทรงคุณูประการสำหรับคนไทยทุกคน ในการวางแผนชีวิตให้มีการใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ย่อมหนีไม่พ้นแนวคิด “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ตามแนวพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งประกอบด้วย
“ความมีเหตุผล”
“ความพอประมาณ”
และ “การมีภูมิคุ้มกันในตัวเอง”
สามคำนี้ ช่างเป็นหลักการที่สามารถนำไปประยุกต์ได้กับการสร้างความมั่งคั่งได้ตลอดกาลไม่ว่ายุคสมัยใด และหลายครั้ง\กว้างขวางไปไกลเกินกว่าเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ เสียด้วยซ้ำ
ผมเองก็นำหลักการนี้มาประยุกต์ใช้อย่างง่ายๆ ด้วยการตั้งคำถามเหล่านี้ก่อนที่จะซื้อหรือใช้จ่ายเงินของตัวเองทุกครั้ง ได้แก่
1.1 ของที่เรากำลังจะซื้อนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นจริงหรือไม่ (อยากได้/want หรือจำเป็น/need) ว่ากันว่า 90% ของสิ่งของที่เรานึกแวบอยากได้ขึ้นมา มักเป็น want ไม่ใช่ need
เช่น อยากมีรถยนต์ไว้ขับไปทำงาน ก็ต้องถามตัวเองให้ดีว่า การมีรถจำเป็นมากแค่ไหน ไม่มีแล้วถึงกับไม่สามารถไปทำงานได้เลยหรือไม่ หรือถ้ามีจะสะดวกและช่วยประหยัดเวลาได้มากเพียงได้ หรือช่วยลดต้นทุนการเดินทางได้ มีทางเลือกหรือ option อื่นๆ ให้เลือกบ้างไหม (เช่น ย้ายไปเช่าที่พักใกล้ออฟฟิศ สะดวกและประหยัดกว่าหรือเปล่า เป็นต้น)
1.2 ถ้าเป็นของที่จำเป็นจริงๆ ก็ดูว่าจำเป็นต้องใช้ตอนนี้เลยหรือไม่ หรือพอจะเลื่อนระยะเวลาออกไปได้
ถ้าพิจารณาทุกแง่มุม ทุกมิติแล้วว่า “จำเป็น” ก็ต้องมาดูกันหละว่า จำเป็นต้องซื้อตอนนี้เลยหรือไม่ หรือพอจะรอต่อไปได้อีกสักนิด อันนี้อาจพิจารณาจากผลกระทบของการมีรถ กับไม่มี ว่าแตกต่างกันแค่ไหนในทุกๆ ด้าน ทั้งความสะดวก ค่าใช้จ่าย
และประโยชน์เปรียบเทียบอื่นๆ
1.3 ถ้าจำเป็นและต้องใช้เดี๋ยวนี้ ก็ดูว่าจะซื้อของที่คุ้มค่าเงินที่สุดได้อย่างไร (ถ้าจำเป็น แพงแต่ใช้คุ้มค่ากว่า ก็ควรซื้อ) รถไซส์ไหน รุ่นไหน ที่พอเหมาะพอสมกับการใช้งาน ไม่เกินความจำเป็นและเกินกำลังจนเกินไป แล้วก็อาจลองเปรียบเทียบราคาและคุณภาพที่ต้องการจากหลายๆ แหล่ง จนได้ข้อมูลพอที่จะตัดสินใจ
ทั้งนี้ไม่ได้จะบอกว่าเราต้องเปรียบเทียบความคุ้มค่าไปเสียทุกเรื่อง เพราะหลายครั้งความสุขทางใจก็ตีค่าไม่ได้เหมือนกัน นั่นหมายความว่าหากต้องการใช้จ่ายเพื่อความสุข ก็ไม่ได้ถือเป็นการผิดกติกาแต่อย่างใด แต่ในท้ายที่สุดต้องไม่สร้างภาระกับชีวิต
แนวคิดการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงนั้น มิใช่ว่าจะฟุ่มเฟือยไม่ได้ แต่ต้องฟุ่มเฟือยแบบมีสติ คือรู้ตัวเองว่า แม้ฟุ่มเฟือยบ้างในวันนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรต่อชีวิตวันข้างหน้า อย่างนี้ก็ถือว่าพอที่จะฟุ่มเฟือยได้ตามวาระ
ด้วยความที่เป็นหลักการง่ายๆ (แต่ปฏิบัติยาก) หลายครั้งที่ผมนำเรื่องการใช้จ่ายไปพูดคุยกับคนทั่วไป เลยไม่ได้เป็นที่สนใจนัก เพราะคนเราส่วนใหญ่ชอบเทคนิคการลงทุนแบบใหม่ๆ แบบที่ลงทุนกี่ทีก็กำไร (จะหาที่ไหนละนั่น) แต่ก็ยังเชื่อกันว่ามี
หลายคนมีหนี้บัตรเครดิต แต่เลือกจ่ายขั้นต่ำ แล้วก็หาเวลาไปอบรมการลงทุนเสียมากมาย (รูดบัตรจ่ายค่าสัมมนาแล้วผ่อนเอาก็มีนะ) โดยไม่เคยสังเกตเลยว่า ถ้าจัดการหนี้บัตรเครดิตได้ ค่าของมันก็เทียบเท่ากับการลงทุนที่ได้ผลตอบแทน 20% แบบการันตี
เพราะถ้าหนี้หมด ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ 20 แน่ๆ แต่ลงทุนเจ๊งแล้วเจ๊งอีก แบบนี้ก็ถือว่าโดนทั้งขึ้นร่อง
The Way to be RICH is very SIMPLE, but it is not EASY.
เส้นทางสู่ความมั่งคั่งนั้นแสนเรียบง่าย แต่ไม่ง่ายที่คนเราจะทำกันได้ และที่มันไม่ง่าย เพราะคนมองข้ามกันไปนั่นแหละครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี