ปัจจุบันวงการอุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกกำลังพัฒนาระบบการผลิตและเทคโนโลยีในการผลิตเหล็ก...เพื่อยกระดับคุณภาพของเหล็กและลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการผลิตเหล็กด้วยเทคโนโลยีแบบเก่า...ตัวอย่างล่าสุด...คือการผลิตเหล็กด้วยเตาหลอมแบบ...อินดรัคชั่น เฟอร์เนท (IF)...ซึ่งประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลกเลิกไปหมดแล้ว...รวมทั้งจีนก็ได้สั่งปิดโรงงานเหล็ก IF ไปแล้วนับร้อยโรง และกำลังจะทยอยปิดลงอีกเรื่อยๆ....
สำหรับประเทศไทยเองมีทั้งโรงงานเหล็กจากการหลอมด้วยเตาไฟฟ้า (Electric arc furnace) EAF...หรือ อาร์คเฟอร์เนท...ซึ่งเป็น
เทคโนโลยีใหม่แต่ลงทุนสูง...และเตาแบบอินดรัคชั่น เฟอร์เนท (IF)...ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าลงทุนต่ำ....!! ซึ่งก่อนหน้าก็อยู่ด้วยกันมาได้ดี...แต่ระยะหลังเตา IF จากจีนกำลังทะลักเข้ามาทำร้ายอุตสาหกรรมเหล็กของไทย...และวงการเริ่มมองเห็นปัญหาโดยเฉพาะเรื่องคุณภาพเหล็กจากเตา IF…โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเหล็กเส้นโครงสร้างเสริมคอนกรีต...ซึ่งใช้ก่อสร้างอาคาร และสาธารณูปโภคอื่นๆ....ซึ่งหากควบคุมคุณภาพไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน...
สุดท้ายก็มีการนำประเด็นนี้เข้าสู่การศึกษาทางวิชาการของกรรมการวิชาการคณะที่ 9…ซึ่งคณะกรรมการนี้ก็ประกอบไปด้วยตัวแทนจากหลายฝ่าย...ทั้งจากฝ่ายผู้ผลิต ฝ่ายนักวิชาการ ฝ่ายข้าราชการ..และจากผลการศึกษาฯ...พบ ข้อจำกัดของในการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตด้วยกรรมวิธีผลิตแบบเตาอินดักชั่น...อาทิ 1.การผลิตด้วยเตาอินดักชั่นไม่มีกระบวนการกำจัดธาตุมลทินได้ เนื่องจากข้อจำกัดของวัสดุทนไฟของเตา...2.เศษเหล็กที่ใช้ในกรรมวิธีผลิตด้วยเตาอินดักชั่นต้องเป็นเศษเหล็กที่มีความสะอาดมาก...3.การควบคุมส่วนผสมทางเคมี ทำได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากไม่มีเตาปรุงแต่งแยกออกมาต่างหาก ส่งผลให้คุณสมบัติทางกลของเหล็กไม่มีความสม่ำเสมอ 4.เนื่องจากส่วนมากเตาอินดักชั่นมักมีขนาดเล็ก (ประมาณ 10 ตัน) ทำให้ยากต่อการควบคุมคุณภาพเหล็กให้สม่ำเสมอ เพราะในการหล่อแบบต่อเนื่องจะทำให้เกิดการผสมกันในแต่ละ batch และเป็นการเพิ่มโอกาสให้สิ่งสกปรกที่อยู่ในถังรับน้ำเหล็กปะปนลงมาในเหล็กแท่งได้ง่าย 5.ค่าพลังงานไฟฟ้าจำเพาะที่ต้องใช้ในการหลอม (specific energy consumption) ของเตาอินดักชั่นจะสูงกว่าของเตาหลอม EAF อยู่ราว 100 ถึง 200 kWhr/ton หรือราวร้อยละ 20 ถึง 35…และ 6. เตาอินดักชั่นเก่า หรือเตาบางรุ่น ไม่มีฝาปิดหรือชุดดูดฝุ่น ทำให้เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อม...ฯลฯ
อย่างไรก็ตามกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะที่ต้องดูแลผู้ผลิตทุกระบบในประเทศและต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยด้วย....ดร.อุตตม สาวนายน...รมว.อุตสาหกรรม...จึงได้พบทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย....คือ 1.ไม่จำเป็นต้องสั่งปิดเตาIF ที่มีอยู่เดิม และพิจารณาอนุมัติตั้ง โรงงานเหล็กแบบเตา IF รายใหม่อย่างระมัดระวัง...2.กำหนดมาตรฐานคุณภาพของเหล็ก (มอก.เหล็ก) ตัวใหม่ออกมา โดยเน้นที่คุณภาพเพื่อป้องกันเหล็กคุณภาพต่ำออกสู่ตลาดและสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน 3.กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง...คือ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) หมั่นส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจคุณภาพของเหล็กจากเตา IF และ 4.ถ้าเป็นไปได้ผู้ผลิตในกลุ่มเตา IF ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการผลิตเหล็กที่ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัย เช่น เหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ฯลฯ
มาถึงตรงนี้...โลกการค้า...ก็คิดว่าทุกฝ่ายจะวินวินคงจะอยู่ร่วมกันได้....แต่แล้วจู่ๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เอง...มีคนวิ่งเข้าหา ดร.อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม...เพื่อขอแก้ไข มอก.เหล็ก...ที่เพิ่งออกมาใหม่....!! ประเด็นที่ขอแก้ไข…คือ 1.Rolls mark ไม่ให้ระบุ bf ef หรือ if....เนื่องจากความได้เสียเปรียบเชิงการค้า....2.เรื่องค่าธาตุที่ขอไม่ให้ควบคุม ซึ่งหลักๆ คือ โบรอน....โดยอ้างว่าไม่มีผลต่อคุณสมบัติทางกลของเหล็ก....
ก่อนที่ รมว.อุตสาหกรรม...จะกลืนน้ำลายตัวเอง...ก่อนที่ สมอ.จะทำอะไรที่เอาชีวิตของประชาชนคนไทยไปอยู่ในความเสี่ยง....ควรจะคำนึงสักนิดไหมว่า... ผู้บริโภคควรทราบถึงความแตกต่างของกระบวนการผลิตเหล็กก่อนที่เขาจะตัดสินใจเลือกซื้อไปใช้...ดังนั้นสมควรหรือที่จะไม่มีมีการระบุ Rolls mark…!! อีกเรื่องหนึ่ง...คนในวงการอุตสาหกรรมเหล็กทั่วโลกรู้กันทั้งนั้นว่า...โบรอน...มีผลต่อความเปราะของเนื้อเหล็กหากมีโบรอนในปริมาณมากเกินไป...เหล็กจะแข็งแต่เปราะ มีโอกาสสูงในการดัดแล้วหัก (คุณสมบัติทางกล)...ซึ่งเตา IF ใช้เศษเหล็กเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมีส่วนผสมโบรอนปริมาณมาก และเนื่องจาก เตา IF ไม่มีกระบวนการปรุงน้ำเหล็ก ทำให้เศษเหล็กเป็นยังไง เหล็กที่ผลิตได้ก็ออกมาอย่างนั้น....โลกการค้า...อยากรู้เหมือนกันว่า...รมว.อุตสาหกรรม ที่ชื่อ อุตตม สาวนายน ซึ่งพยายามเหลือเกินที่จะผลักดัน...ไทยแลนด์ 4.0 ...ทั้งพยายามจะผลักดันเรื่องการพัฒนาระบบการผลิตสินค้าไทยด้วยนวัตกรรม..สุดท้ายแล้ว...จะเดินถอยหลังลงคลอง...เสียเองหรือเปล่า....!!ให้มันรู้ไปว่า...รัฐมนตรี ที่เป็นนักวิชาการทรงความรู้...และมีผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลหลายคน...ออกมา “ตะแบง” การันตีว่า “เป็นนักการเมืองน้ำดี เป็นมิติใหม่ที่ดีของการเมืองไทยที่มีคนอย่างนี้”...ไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีก็ได้แม้ว่าจะเปิดตัวเป็นหน้าพรรคการเมืองแล้วเพื่อลงแข่งในสนามการเมือง...!! สุดท้ายแล้วก็จะมีวิธีคิดเหมือน “นักการเมืองน้ำเน่า” ที่โอนเอียงและตัดสินใจไปตามกระแสของแรงวิ่งเต้น....ll
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี