เมื่อกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2561 สื่อต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ได้นำเสนอข่าวการหายตัวไปของ นายจามาล คาช็อกกี ชาวซาอุดีอาระเบีย ในประเทศตุรกี
จามาล คาช็อกกี เป็นนักข่าว บรรณาธิการ นักจัดรายการโทรทัศน์ เขาเคยนำเสนอข่าวสำคัญต่างๆ เช่น การขึ้นมามีอำนาจของอุซามะฮ์ บิน ลาดิน การบุกอัฟกานิสถานของโซเวียต ข่าวเกี่ยวกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การเมืองของซาอุดีอาระเบีย เขาเคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในซาอุดีอาระเบีย เป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจการเมืองตะวันออกกลางอย่างลึกซึ้ง
การเขียนข่าววิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย อย่างรุนแรง สร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเป็นอย่างมาก เมื่อเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทอันดับแรก และมีอำนาจ ทำให้จามาล คาช็อกกี ขอลี้ภัยไปที่สหรัฐอเมริกา และได้เป็นนักเขียนประจำ หรือคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ (Washington Post) ซึ่งเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลในสหรัฐอเมริกา
เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2461 เขาได้พบกับนางสาวฮาทีเจอ เจงกิซ ชาวตุรกี ได้หมั้นและตั้งใจจะแต่งงานกันในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561 ตามกฎหมายของตุรกี ฝ่ายชายต้องมีหนังสือรับรองว่า สามารถแต่งงานใหม่ได้ เขาจึงได้ติดต่อไปยังสถานทูตซาอุดีอาระเบีย ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา ให้ออกหนังสือรับรองให้ แต่เจ้าหน้าที่แนะนำให้ติดต่อสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เขาจึงได้ติดต่อสถานกงสุลดังกล่าว เมื่อวันที่ 28 เดือนกันยายน พ.ศ. 2561 สถานกงสุลได้นัดเขาให้มารับเอกสารวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2561
ในวันดังกล่าว เขาได้ให้คู่หมั้นสาวรอด้านนอกกงสุล เวลาผ่านไปนับสิบชั่วโมง ไม่มีใครเห็นเขากลับออกมาอีกเลย ก่อนเข้าไปเขาได้กำชับกับคู่หมั้นสาวว่า ถ้าเขาไม่กลับออกมา ให้โทร.หาที่ปรึกษาประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ทางการตุรกีได้ยืนยันว่า จามาล คาช็อกกี ได้เสียชีวิตแล้ว
ในตอนแรกทางการซาอุดีอาระเบียอ้างว่า จามาล คาช็อกกี ได้เข้าไปในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในกรุงอิสตันบูล และได้กลับออกไปแล้ว แต่เมื่อมีการเรียกร้องให้เปิดคลิปวีดีโอจากโทรทัศน์วงจรปิด ได้อ้างว่า กล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่บันทึกภาพ ตอนที่จามาล คาช็อกกี ออกไปจากสถานทูตได้เสีย
ต่อมา มีการเปิดเผยว่า ในวันนัดจามาล คาช็อกกี เข้าไปในสถานกงสุล มีข้อสังเกตว่า มีบุคคลถึง 18 คน จากซาอุดีอาระเบียเดินทางเข้าตรุกี และกลับออกจากตุรกีในวันเดียวกัน โดยเครื่องบินส่วนตัว และใช้สิทธิทางการทูต ซึ่งน่าจะมีความเชื่อมโยงกับการหายตัวของจามาล คาช็อกกี
สื่อมวลชนนานาชาติได้เกาะติดเรื่องการหายตัวของจามาล คาช็อกกี และกดดันอย่างหนัก จนในที่สุดทางการซาอุดีอาระเบียได้ออกมายอมรับว่า จามาล คาช็อกกี ได้เสียชีวิตแล้วในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี นั่นเอง และประกาศว่า จะดำเนินการสอบสวน ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำความผิดในประเทศซาอุดีอาระเบียเอง
ประธานาธิบดีตุรกีได้แถลงว่า จะต้องสอบสวนหาผู้กระทำผิด ดำเนินคดีและลงโทษในประเทศตุรกี จนทางการซาอุดีอาระเบียต้องยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตุรกีเข้าไปตรวจดูสถานที่ในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แล้วถึง 3 สัปดาห์ พยานหลักฐานต่างๆ ที่สำคัญน่าจะสูญหายไปหมดแล้ว
ผู้เชี่ยวชาญได้สันนิษฐานว่า จามาล คาช็อกกี ได้ถูกสังหารด้วยการรัดคอจากด้านหลัง ทำให้ขาดอากาศหายใจ จนเสียชีวิต จากนั้นร่างของเขาได้ถูกทำลาย โดยการแยกส่วนเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปแยกทิ้ง หรืออาจถูกแช่น้ำกรดอย่างเข้มข้น จนถูกทำลายไม่เหลือซาก
กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีความเกี่ยวข้องกับหลักกฎหมายต่างประเทศที่ถือว่า ดินแดนของสถานทูตและสถานกงสุล จะได้รับความคุ้มกันทางการทูต เสมือนอยู่ในดินแดนของประเทศตนเอง แม้ว่าจะต้องอยู่ในประเทศอื่นก็ตาม
ดังนั้น เมื่อ จามาล คาช็อกกี หายตัวไปในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เจ้าหน้าที่ตำรวจตุรกี จึงไม่สามารถเข้าไปสอบสวนและตรวจสอบสถานกงสุลได้ หากทางการซาอุดีอาระเบียไม่ยินยอม หรืออนุญาต เพราะดินแดนสถานกงสุล ถือเป็นดินแดนของประเทศซาอุดีอาระเบีย แม้ว่าจะอยู่ในประเทศตุรกีก็ตาม
จึงเป็นประเด็นว่า ทางการประเทศตุรกี และประเทศซาอุดีอาระเบีย ต่างอ้างและถือว่า การกระทำผิดเกิดขึ้นในดินแดนของตน และตนมีอำนาจสอบสวน ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำผิด
ส่วนประเทศตุรกีถือว่า แม้สถานกงสุลนี้จะเป็นดินแดนของซาอุดีอาระเบีย แต่ตามข้อเท็จจริงสถานกงสุลตั้งอยู่ในประเทศตุรกี ทางการประเทศตุรกีย่อมมีอำนาจทางกฎหมาย
เรื่องนี้จึงถือเป็นกรณีศึกษาในเรื่องกฎหมายต่างประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องหลักดินแดน และการกระทำความผิดอาญาในสถานทูต และสถานกงสุล ซึ่งได้รับสิทธิคุ้มกันทางการทูต ที่ไม่เคยเกิดเป็นคดีอาญาและข่าวระดับโลกมาก่อน ดังเช่นกรณีนี้
จึงต้องติดตามกันต่อไปว่า การสอบสวน ดำเนินคดีและลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหายตัวของจามาล คาช็อกกี จะดำเนินการในประเทศใดกันแน่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี