เข้าสู่ปี 2019 ผมว่าเราน่าจะเข้าสู่ยุคที่การมีรายได้ทางเดียวเป็นเรื่องอันตรายอย่างเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น (แต่ก่อนแค่เสี่ยง เดียวนี้ถึงขั้นอันตรายมาก 555) โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้อยู่ในกลุ่มปานกลาง ที่อัตราการเพิ่มของรายได้ ห่างจากอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพอยู่พอสมควร และนั่นคือเหตุผลที่คนเรา ควรเริ่มนึกถึงแหล่งรายได้ที่ 2, 3 และ 4
ผมเชื่อเสมอว่าคนเรานั้นเมื่อใช้ชีวิตมาถึงจุดหนึ่ง ก็น่าจะที่สะสม “ทุนชีวิต” และ “ทุนทางปัญญา” ไว้มากพอที่จะนำมาต่อยอดได้ หากเรากล้าคิด กล้ามอง และกล้าที่จะพัฒนามัน จากทุนที่สะสมในตัว สู่งาน อาชีพ หรือธุรกิจ ที่ “ช่วยเหลือ” ผู้คน หรือตอบโจทย์ให้กับผู้คนได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ สร้างคุณค่าจากทุนชีวิต หรือทุนทางปัญญาที่มีนั่นเอง
เช่น ถ้าเราเรียนจบบัญชีมา วันธรรมดา จันทร์-ศุกร์ ก็เป็นพนักงานบัญชีให้กับบริษัท แต่ถ้าเรารู้จักหยิบจับเสาร์และอาทิตย์ที่พอจะว่าง เอามาทำอาชีพเสริม รับจ้างทำบัญชีให้กับธุรกิจขนาดเล็กหรือ SME อันนี้ก็พอจะทำเงินเพิ่มได้
เริ่มจากลูกค้า 1-2 ราย ทำให้ดี แม้จะใช้เวลาว่างๆ ทำ เหมือนงานอดิเรก แต่ทำจริงจังเหมือนมืออาชีพ อันนี้ก็ต่อยอดไปได้
หรือจะเปิดสอนวิชาบัญชีให้กับน้องๆ ที่เรียนอยู่ (รับติว) ฝึกเล่าฝึกอธิบายให้ความรู้ ก็ต่อยอดได้
หรือจะเอาเล่าเรื่องบัญชีลง blog ลงเฟซบุ๊ค ถ่ายวีดีโอลง YouTube ให้คำแนะนำ ก็ได้ค่าโฆษณา ถ้าทำต่อเนื่องและมีคนติดตามมากพอ
แล้วอะไรอีกหละ! เรายังมีทุนชีวิต ทุนทางปัญญาที่สะสมมาอีกเพียบเลยนะ ไม่จะเป็น ...
1) ความรู้สมัยเรียนหรือทำงาน ลองค้นปริญญาบัตร ประกาศนียบัตรสมัยเรียนมาปัดฝุ่นดูสิ หรือค้นเอกสารอบรมสัมมนาต่างๆ มาคุ้ยดู ว่าความรู้พวกนี้ต่อยอดทำอะไรได้บ้าง
2) งานอดิเรก ประสบการณ์ที่เคยทำ เคยผ่านมา อ่ะ! อันนี้คุ้ยกันดีๆ ก็สร้างรายได้ได้นะ เช่น ทำขนมเค้กได้ ก็ฝึกต่อ ทำให้กินอร่อยขายได้เคยทำคอมกราฟิกสมัยฝึกงาน ฝึกจริงจังเลยมั้ย คอร์สสอนฟรีใน YouTube ก็มีนะ หรือจะเคยเป็นติวเตอร์มาก่อน หยิบมาปัดฝุ่นมั้ย ฯลฯ
3) เครือข่ายสายสัมพันธ์ที่มีหละ เพื่อนๆ เราเค้าทำอะไรกันอยู่ ลิสต์ชื่อเพื่อนทีละคน ดูสิว่าเขาทำอะไรกัน แล้วหาช่องทางต่อยอดดีมั้ย เช่น เพื่อนเป็นเจ้าของโรงงานผลิตครีม เอ๊ะ! เราหาทางทำตลาดให้ได้มั้ย เพื่อนผลิตอะไร เราช่วยงาน อันนี้ก็ทำเงินได้นะ
4) ไอเดีย ... อันนี้คิดออกมาใหม่เลย ไม่ต้องมีพื้นฐานเหมือน3 ข้อแรก คิดออกมาก่อนว่า “มีใครอยากได้อะไร” แล้วหาทางตอบโจทย์ให้ได้ บางอย่างไม่ต้องทำเอง แต่หาคนมาทำใหก็ได้นะ
ผมว่าเอาเข้าจริง แค่ 4 ข้อนี้ ก็คิดต่อยอดเพลินจบเป็นวันๆ ได้เลยนะ ยิ่งคิด ยิ่งค้น ก็ยิ่งมีความสุข มีความหวัง ไม่ต้องมากังวลแล้วไม่ได้ทำอะไร
สำหรับใครที่นั่งคิดแล้วคิดไม่ออก (555) ผมแนะนำให้ลองอ่านหนังสือ “งานเสริม เติมชีวิต” ครับ เล่มนี้ผมเป็นบรรณาธิการเอง เลือกมาทำ เพราะคิดอยู่แล้วว่ายุคต่อจากนี้ งานเสริมจะกลายเป็นตัวเติมชีวิตให้เราได้
สิ่งที่ชอบในหนังสือเล่มนี้ คือ Step การคิดสร้างงาน ตั้งแต่ตั้งเป้าหมาย อันนี้สำคัญนะ! เริ่มตั้งแต่คำถามกันเลยว่า เป้าหมายของการทำงานเสริมของคุณ คืออะไร ทำไปทำไม อยากได้รายได้แค่ไหน(โจทย์ต่าง ความพยายามก็ย่อมต่าง)
การสะสมคลังไอเดีย (คล้ายที่เล่าไปข้างต้น) และกรองไอเดีย คือไม่ใช่คิดได้ก็ทำเลย ทำมั่ว เพราะบางอย่างทำไปแล้วไม่ตอบโจทย์รายได้ให้กับชีวิต ดังนั้นต้องเลือกให้ดี
หลังจากกรองไอเดีย ก็จะนำไปสู่การสร้างธุรกิจที่เป็นระบบ ตอนเริ่มอาจทำก๊อกแก๊กพอได้เงินได้ แต่ถ้าจะทำเพื่อรายได้จริงๆ ระบบต้องมา ซึ่งในหนังสือก็จะเล่าตั้งแต่สร้างสินค้าและบริการ การทำตลาดให้คนรู้จัก ระบบการจัดการเงิน และการปั้นต่อ เพื่อให้เป็นกิจการเลี้ยงชีวิตได้จริง
ทั้งหมดเขียนเป็นบทๆ เหมือนอ่านไปทำการบ้านไป วันนึงทำอ่าน 1 บท ทำ 1 เวิร์กช็อป ต่อจิ๊กซอว์ไปเรื่อยๆ ครบ 27 วัน ก็สร้างเป็นอาชีพใหม่ขึ้นมาได้จริง
ใครที่คิดว่า “งานที่ 2 อาชีพที่ 3 ธุรกิจที่ 4” คือ “ทางรอด” ไม่ใช่แค่ทางเลือก ผมแนะให้เริ่มต้นทำอะไรสักอย่างกับชีวิต ถ้าคิดออก คิดได้ มีทาง อยากให้เริ่มเลยครับ
แต่ถ้ายังคิดไม่ออก หนังสือเล่มละสองร้อยกว่าบาท อาจช่วยคุณได้ และผมแนะนำอย่างยิ่งให้คุณอ่านหนังสือเล่มนี้ หาซื้อได้ที่ร้านซีเอ็ดทุกสาขาครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี