nn อย่างที่บอกไว้ใน “หมุนตามทุน” วานนี้ว่า“โลกการค้า” จะมาว่ากันต่อเรื่อง...บทบาทของคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง (คปป.) และกระทรวงพาณิชย์...ในการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ...ซึ่งตอนนี้ก็คงจะว่ากันในเฉพาะของกรณีสินค้ากลุ่มเหล็กหลายประเภทก่อนแล้วกัน...
เพราะท่าทีของไทยนั้นมันสวนทิศสวนทางกับนานาประเทศเขาทำกัน...เพราะในขณะที่มีแต่ประเทศไทยที่พยายามยุติมาตรการปกป้อง...แต่ต่างประเทศพยายามใช้มาตรการเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศรวมทั้งสินค้าอื่นๆ ด้วย...ข้อมูลจาก WTO พบว่ามีหลายประเทศบังคับใช้มาตรการเกิน 6 ปี เช่น ประเทศฟิลิปปินส์ ก็มาตรการปกป้องมาแล้วประมาณ 10 ปี (ปัจจุบันไทยเองก็ถูกบังคับใช้มาตรการแล้วก็ไม่เห็นว่าทางการไทยจะดำเนินการขอชดเชยและตอบโต้ใด ????)..บราซิล ใช้มาแล้ว 8-9 ปี...ตุรกี ใช้มาแล้ว 8 ปี...ยูเครนใช้มาแล้ว 8 ปี...!! อีกหลายประเทศในยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา...ประกาศใช้ เซฟการ์ด โดยไม่ต้องไต่สวนเลยด้วยซ้ำ....!! ก็ยังไม่เห็นว่าประเทศเหล่านี้เกรงกลัวว่า ต่างประเทศหน้าไหนจะไปตอบโต้เขาเลย...!! แต่ทำไมกระทรวงพาณิชย์จึงกลัวไปก่อนทั้งที่ยังไม่ถูกตอบโต้...หรือว่าจริงแล้ว กระทรวงพาณิชย์ กลัว “ผู้นำเข้า”...รบกวนลองไปถามที่ปรึกษาของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ประธานคณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง)....ว่าได้ให้ข้อมูลอะไรไปกับท่านประธานฯ...เลยทำให้ คปป.กลัวเหลือเกินที่จะปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ...
ว่ากันตามจริงก็ใช่ว่าแต่เฉพาะเรื่องเซฟการ์ดของเหล็กรีดร้อนเท่านั้น...ผลงานของ คปป.ยังมีอีกเยอะในหลายเรื่อง...พยายามจะยุติมาตรการปกป้อง...อย่างเรื่อง “ล้มเอดีเหล็กเคลือบสังกะสี”...ที่ส่วนใหญ่ใช้กันใน “อุตสาหกรรมก่อสร้าง”....ซึ่งผลก็คือว่าตอนนี้ผู้ผลิตในประเทศรายใหญ่และเก่าแก่ อย่างเช่นกรุงเทพฯผลิตเหล็ก ก็ปลดคนงานรอบแรกไปแล้วเกือบพันคน...แล้วก็กำลังจะปลดอีกเกือบพันคน...!! เป็นไงล่ะครับ...ผลงานของพวกท่านช่างยอดเยี่ยมเสียนี่กะไร...
แล้วก็ยังมีเรื่อง..เหล็กรีดร้อนคุณสมบัติพิเศษ (กัดกรด-เคลือบน้ำมัน)...AD เหล็กจากออสเตรีย-อียิปต์...AD ท่อจากเวียดนาม...ฯลฯ...อันนี้ก็จะเป็นประเด็นที่ทั้ง “หมุนตามทุน” และ “โลกการค้า” จะได้หยิบเอามา...โพนทะนา...ถึงผลงานของพวกท่านในโอกาสต่อๆไป....
แต่ว่า ณ เวลานี้...โรงเหล็ก 300-400 โรง...ลงทุน 5 แสนล้าน คนงานแสนคน...จะมีชะตากรรมอย่างไรต่อไป...ก็ไม่อยากจะคิดให้จิตมันหดหู่....แม้แต่โรงานเหล็กต่างชาติ อย่าง TATA สตีล เจ้าพ่ออุตสาหกรรมเหล็กของโลก จากอินเดีย...ที่เข้ามาลงทุนในไทย...ตามคำเชิญชวนของเราก็ต้องประกาศขายโรงงานในไทย ที่ลงทุนไปกว่า 2 หมื่นล้านบาท...เพื่อย้ายฐานไปในประเทศเพื่อนบ้านของไทยนี่เอง...ซึ่งกำลังอ้าแขนรับการลงทุนและพร้อมที่จะปกป้องนักลงทุนที่อยู่ในประเทศเขา...หรือ อย่างเช่น โพสโก้..เหล็กรายใหญ่จากเกาหลีใต้ ที่เข้ามาลงทุนไปแล้วหมื่นกว่าล้านบาท...ซึ่งเดิมมีแผนว่าจะขยายการลงทุนในไทยเพิ่มอีก...แต่เนื่องด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในเรื่องการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศไทยเวลานี้...ก็ลังเลเสียแล้วว่าจะลงทุนเพิ่มดีหรือไม่...หรือว่าจะม้วนเสื่อหนีไปที่อื่นตามรอย TATA ไปอีกราย....
สรุปว่าถ้าตอนนี้ภาครัฐไม่ใส่ใจไม่ให้โอกาสให้ผู้ประกอบการของไทยได้ปรับตัวมากกว่านี้...อีกไม่นานก็จะเหลือแต่โรงงานจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีนที่แห่เข้ามาจ่อประตูบ้านและมีแต่ผู้นำเข้า ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่า “เราได้เสียอธิปไตยทางเศรษฐกิจ” ไปแล้ว...และเมื่อถึงวันที่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจ...ประเทศก็จะถูกกดดันอย่างไรก็ได้ ...ไม่ว่าการร้องขอสิทธิพิเศษในสิ่งที่ไม่ควรได้...หรือจะขึ้นราคาสินค้าตามใจชอบ...เราก็ต้องจำยอมเพราะไม่เช่นนั้นก็เกิดภาวะสินค้าขาดตลาด...ถึงเวลานั้นประเทศชาติและประชาชนก็จะเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส....
!!! คณะกรรมการพิจารณามาตรการปกป้อง....จะรับผิดชอบไหวไหม ?????
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี