เมื่อกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ได้ชูนโยบายแปลงที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด ก่อนหน้านี้ สมัยที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เคยมีผู้นำเสนอในเรื่องนี้เช่นกัน แต่เรื่องเงียบหายไป
ตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหมายถึง การปรับปรุงเกี่ยวกับสิทธิ และการถือครองในที่ดินเพื่อเกษตรกรรม รวมถึงการจัดที่อยู่อาศัยในที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยรัฐนำที่ดินของรัฐ หรือที่ดินที่รัฐจัดซื้อ หรือเวนคืนจากเจ้าของที่ดิน ซึ่งมิได้ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นด้วยตนเอง เพื่อจัดให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินของตนเอง หรือเกษตรกรที่มีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพ ตาม พ.ร.บ. นี้ มีการจัดตั้งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมขึ้นในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ส.ป.ก. หมายถึง หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินในที่ของรัฐ ส.ป.ก. ไม่ใช่เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินแต่อย่างใด การใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปนี้ เพื่อการเกษตรกรรม แต่เพียงอย่างเดียว ทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้
ตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 มาตรา 39 ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถจะทำการแบ่งแยก หรือโอนสิทธิในที่ดินนั้นไปยังบุคคล เว้นแต่จะเป็นการตกทอดทางมรดกแก่ทายาทโดยธรรม หรือโอนไปยังสถาบันเกษตรกร หรือสำนักงานการปฏิรูปที่ดิน เพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หากผู้ครอบครองประสงค์จะให้เช่าต้องเป็นการเช่าเพื่อเกษตรกรรมหากมีการซื้อขายที่ดิน ส.ป.ก. ถือเป็นโมฆะ ซึ่งต่างจากโฉนดที่ดิน ที่ถือเป็นหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ที่เจ้าของสามารถขาย ให้ ให้เช่าได้
เจตนารมณ์สำคัญตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 เพื่อให้เกษตรกรที่มีฐานะยากจนได้มีที่ดินทำกิน การที่ไม่อนุญาตให้ขายที่ดิน แต่ตกทอดทางมรดก เพื่อจะได้มีที่ดินทำมาหากินชั่วลูกชั่วหลาน ตาม พ.ร.บ. นี้ ผู้มีสิทธิได้รับการจัดที่ดินคือ (1) ผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก (2) ผู้ประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม แต่ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง โดยจะพิจารณาจาก (2.1) ผู้ยากจน (2.2) ผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรม (2.3) ผู้เป็นบุตรของเกษตรกร และ (3) สถาบันเกษตรกร หมายความว่า กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์
การชูนโยบาย ส.ป.ก. สามารถโอนได้เหมือนโฉนด ย่อมจะมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยิ่งถ้าพิจารณาจากเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โอกาสที่พรรคการเมืองพรรคนี้ จะถูกมองจากพรรคการเมืองด้วยกัน หรือประชาชนว่าการแปลงที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่นายทุน แต่อ้างว่า เพื่อเกษตรกร ผู้ที่สนับสนุนนโยบายของพรรคนี้ คงหนีไม่พ้นนายทุน
ย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2535-2537 รัฐบาลในสมัยนั้น ได้ถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ กรณีนำที่ดิน ส.ป.ก. ไปแจกนายทุน จนต้องยุบสภา
แม้ตาม พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 จะมีเจตนารมณ์ให้เกษตรกรที่ยากจนมีที่ดินทำกิน แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฏว่า มีที่ดินจำนวนไม่น้อยที่ผู้ครอบครอง คือ นายทุน เห็นได้จากกรณีของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่เกษตรกรรม จังหวัดนครราชสีมา ที่ได้รับการร้องเรียน และได้ทำการตรวจสอบสิทธิการครอบครองพื้นที่ดิน ส.ป.ก. ในเขตอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 2 แห่ง คือ ไร่ฟ้าประทาน แปลงเกษตรผักและผลไม้คุณภาพมาตรฐาน GAP เนื้อที่กว่า 300 ไร่ และฟลอร่าพาร์ค สวนไม้ดอกเมืองหนาวเนื้อที่กว่า 100 ไร่ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของวังน้ำเขียว พื้นที่แปลงนี้ แต่เดิมในอดีตชาวบ้านเคยใช้เป็นที่ทำกิน แต่ปัจจุบันผู้ครอบครองกลับเป็นนายทุน เพราะชาวบ้านบางรายกู้ยืมเงินจากนายทุน ไม่มีเงินใช้หนี้ ทำให้นายทุนยึดที่ดิน บางรายขายให้นายทุนในราคาถูก
กรณีของมารดาของนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของบริษัท และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่เมื่อกลางปี พ.ศ. 2559 เคยตกเป็นข่าวว่า ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. จำนวน 1,263 ไร่ ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และได้ยอมรับว่า ในปีพ.ศ. 2532 มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาเสนอขายไร่ละ 12,000 บาท โดยไม่รู้ว่า เป็นที่ดิน ส.ป.ก. และเมื่อมารู้ว่าถูกหลอก จนในที่สุดได้คืนที่ดินให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จังหวัดกาญจนบุรี
ที่ดิน ส.ป.ก. ทั่วประเทศมีจำนวน 35 ล้านไร่ ในจำนวนนี้ได้รับการจัดสรรให้เกษตรกร 7 ล้านครัวเรือน และมีจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในความครอบครองของนายทุน ผู้มีอิทธิพล นักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงข้าราชการระดับสูง
หากมีการผลักดันให้ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิได้เหมือนโฉนดที่ดิน แนวโน้มที่เกษตรกรจะขายให้บรรดานายทุนย่อมเป็นไปได้มาก เพราะแม้มีกฎหมายห้าม ยังมีการลักลอบขายให้นายทุนครอบครอง เกษตรกรบางรายอาจหวังเพียงได้เงินก้อนในตอนนั้น ไม่มองถึงอนาคตลูกหลานที่จะไม่มีที่ดินทำมาหากิน หรือแม้บางรายอาจทำขายฝาก จำนอง โอกาสที่ที่ดินจะหลุดมือไปเป็นของนายทุน ย่อมมีมากไม่แพ้กัน บรรดาทั้งเศรษฐีและอภิมหาเศรษฐีคงรอให้กฎหมายนี้ใช้บังคับ เพื่อพากันกว้านซื้อที่ดิน โดยเฉพาะที่ดินที่ใกล้ภูเขา ทะเล ที่สามารถพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่ทำรายได้มหาศาล
ฝ่ายที่สนับสนุนอาจมองว่า การแปลงที่ดิน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดถือเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับที่ดิน สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรในระยะยาว แต่ย่อมมีผู้คนส่วนหนึ่งเชื่อว่า จำนวนเกษตรกรที่ต้องการจำหน่ายที่ดิน แต่โดยเร็วย่อมมีมากกว่าเกษตรกรที่ต้องการถือครองที่ดินนั้นให้ตกทอดเป็นมรดกชั่วลูกชั่วหลาน เพราะความเป็นจริง เป็นการเปิดโอกาสให้ที่ดินของเกษตรกรไปอยู่ในมือของนายทุน
การแปลง ส.ป.ก. เป็นโฉนดจึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน เพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี