nn ในที่สุดกระทรวงอุตสาหกรรมก็มีสำนึกแล้วว่า...ผู้ผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตในประเทศกำลังจะตาย..เพราะกำลังการผลิตมีถึง 9 ล้านตันต่อปี แต่มียอดการใช้เพียง 2-3 ตันต่อปี หรือ 35-45% เท่านั้น...ทำให้ขาดทุนกันบักโกรกและทยอยปิดโรงานกันไปมากมาย...ล่าสุดจึงได้ ออกประกาศกฎกระทรวงเรื่อง...ห้ามตั้งหรือขยายโรงงานผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีตหรือเหล็กแท่งเล็กสำหรับเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต ทุกขนาดทุกท้องที่ในราชอาณาจักร ตามพ.ร.บ.โรงงานพ.ศ.2535 เป็นเวลา 5 ปี.... เพื่อให้ผู้ผลิตปรับตัวและเข้าสู่ภาวะสมดุลจากปัจจุบันที่ผู้ผลิตในประเทศมีกำลังผลิตส่วนเกินสะสม....
แต่ดูเหมือนกระทรวงพาณิชย์...กรมการค้าต่างประเทศ....คณะกรรมการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard)… ยังคงมืดบอด...มองไม่เห็นความพินาศของอุตสาหกรรมเหล็กที่กำลังจะมาถึง...!!...เพราะพยายามที่จะล้มเลิกมาตรการปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ...ทั้งที่จริงแล้วประเทศไทยก็บังคับใช้มาตรการเหล่านั้นน้อยอยู่แล้ว...น้อยทั้งประเภทและความเข้มข้นในการบังคับใช้...
อย่างล่าสุดก็พยายามที่จะยุติการขยายเวลาบังคับใช้..ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออื่นๆ ชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วนที่เพิ่มขึ้น…โดยยกข้ออ้างและเหตุผลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงและก็ขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมายด้วย....
โลกการค้า...จะเล่าให้ฟัง...วานนี้มีการทำประชาพิจารณ์(Hearing) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย... เรื่องคณะกรรมการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard) ไม่ต่ออายุมาตรการ Safeguard เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอย…ผลออกมาเป็นอย่างนี้ครับ...คือว่ากลุ่มอุตสาหกรรมภายในประเทศทั้งผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อน และอุตสาหกรรมต่อเนื่องส่วนใหญ่ที่ใช้เหล็กแผ่นรีดร้อน เช่น อุตสาหกรรมเหล็กรีดเย็น อุตสาหกรรมท่อโลหะ ฯลฯ ต่างไปก็แสดงความคัดค้านมติ คกก. Safeguard ...และขอให้ทบทวนต่ออายุมาตรการออกไปอีก 3 ปี...ด้วยเหตุผลที่ว่า...ถ้าไม่ต่ออายุในช่วงสงครามการค้าเหล็กกำลังสู้กันอย่างรุนแรงและลุกลามไปทั่วโลกขณะนี้ โรงงานเหล็กแผ่นรีดร้อนคงไปไม่รอดและต้องปิดกิจการหมดในระยะเวลาอันสั้น ถึงตอนนั้น พวกรีดเย็น และท่อ ก็ต้องพึ่งพิงวัตถุดิบนำเข้าหมด 100% มีความเสี่ยงทั้งเรื่องราคาที่ผันผวน การมีแหล่งวัตถุดิบที่ไม่มีเสถียรภาพ...จึงยืนยันว่าการต่อ Safeguard จะช่วยให้เกิดสมดุล คือ ผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนยังคงพอสู้ต่อได้ และก็ยังมีเหล็กรีดร้อนนำเข้าได้ด้วยเหมือนปัจจุบันซึ่งใช้ Safeguard มาเพียง 5 ปีกว่าเท่านั้น จากกรอบกติกาของ WTO และกฎหมายที่ให้สามารถใช้ได้ถึง 10 ปี….
!! ถ้ากระทรวงพาณิชย์...คกก. Safeguard ยังคงดื้อดึงโดยไม่ฟังเสียงสะท้อนและเหตุผลของของคนส่วนใหญ่...อันนี้ก็ห้ามที่จะโกรธที่คนตั้งข้อสังเกตว่า...มติของ คกก.เซฟการ์ด...มันส่อพิรุธอย่างหนัก...เพราะเหมือนกับว่าประธานและคกก.ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ…เพราะมีคนสังเกตเห็นว่ามีการเลื่อนประชุมที่กำหนดไว้เดิมกะทันหัน ก่อนประชุมไม่กี่ชั่วโมง…หลังจากนั้น ก็สั่งการให้เลขานุการ แก้ไขเพิ่มเติมเอกสารการประชุม ใช้ในการประชุม…คณะกรรมการโดยการชี้นำของประธาน เจตนาร่วมกันลงมติโดยเจตนาละเว้นทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ตามมาตรา 36 ของพ.ร.บ.ปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น พ.ศ. 2550 ที่ให้ขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องต่อไปอีก “เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเสียหาย”…ทั้งที่ก่อนหน้านี้...ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Safeguard เหล็กรีดร้อนเจืออัลลอย หรือ Safeguard ของเหล็กและสินค้าชนิดอื่น...คณะกรรมการปกป้องฯ ก็เคยวินิจฉัยการต่ออายุโดยอิงกฎหมายข้อนี้มาตลอด
หลักฐานชัดเจนที่ชี้ให้เห็นว่า คกก.ปกป้องชุดนี้ ละเว้น บิดเบือน ข้อกฎหมาย เพื่อเจตนาล้ม Safeguard นี้ คือ เปรียบเทียบกับ คราวต่ออายุ Safeguard เหล็กแผ่นรีดร้อนเจือ ตามมติคกก.เมื่อ 19 ก.พ. 2559 ก็ระบุชัดเจนว่า มีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องต่อไปอีก 3 ปี “เพื่อป้องกัน” มิให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมภายใน ระหว่างการปรับตัว (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 26 ก.พ. 2559)…หรือ มติ คกก.ปกป้องฯ เมื่อ 1 มิ.ย. 2570 กรณีต่ออายุ Safeguard เหล็กแผ่นรีดร้อนไม่เจือ ก็มีผลระบุออกมาชัดเจนว่า “เพื่อป้องกัน” มิให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมภายใน จากการนำเข้าสินค้าฯ เห็นควรขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการปกป้องต่อไปอีก 3 ปี…แต่ คกก.ปกป้องฯ ชุดปัจจุบัน สมรู้ร่วมคิดกัน ปิดหูปิดตา เลือกละเว้นไม่ใช้มาตรา 36 ตาม พ.ร.บ. แต่จงใจ บิดเบือน กลับไปอ้างยืนกระต่ายขาเดียว ขณะนี้ อุตสาหกรรมภายใน ไม่ได้รับความเสียหาย ตามมาตรา 16 แต่อย่างใด จึงไม่สามารถขยายระยะเวลาการบังคับใช้มาตรการได้ ทั้งที่ที่จริงแล้ว มาตรา 16 เรื่องความเสียหาย มันอยู่ในหมวด 2 ส่วนที่ 1 การเริ่มต้นกระบวนการพิจารณา ซึ่งคือหมายถึง การเริ่ม Safeguard เท่านั้น...nn
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี