คำว่าดีเบต (Debate) ได้กลายเป็นคำที่พูดถึงบ่อย และเป็นประเด็นทางการเมือง คำนี้หมายถึง การโต้วาทีแต่มักจะเรียกการทับศัพท์จนเกิดความเคยชิน ทั้งที่มีคำที่เป็นภาษาไทยอยู่แล้วและควรใช้เป็นภาษาไทย
การโต้วาที หมายถึง การที่บุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป โต้เถียงกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ในระดับโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย การโต้วาทีจะแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเรียกว่า ฝ่ายเสนอและฝ่ายค้าน จะโต้เถียงกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามหัวข้อที่กำหนด หากฝ่ายใดสามารถยกเหตุผล และมีลีลาสำนวนวาทศิลป์ดีกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
การโต้วาทีจะแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาของผู้พูด และการเตรียมตัวตลอดจนความรอบรู้ของผู้พูดว่า มีคุณภาพดีขนาดไหน การโต้วาทีนอกจากจะมีอยู่ในรั้วแวดวงการศึกษาแล้ว ยังมีอยู่ในแวดวงทางการเมืองอีกด้วย
การโต้วาทีทางการเมืองที่ถือว่า เป็นระดับตำนานของโลกที่เล่าขานกันมาจนทุกวันนี้ ได้แก่ การโต้วาทีเพื่อหาเสียงชิงชัยในการแข่งขันเลือกตั้ง เพื่อเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่ 35 เมื่อ พ.ศ.2503 ระหว่าง เรือเอก จอห์น ฟิคซ์เจอรัลด์ เคนเนดี้ (John Fitzerald Kenedy) หรือที่เรียกกันว่าเคนเนดี้หรือชื่อย่อว่า เจเอฟเค ตัวแทนพรรคเดโมแครต กับ ริชาร์ด มิวเฮาส์ นิกสัน (Richard Milhous Nixon) ตัวแทนพรรครีพับลิกัน
ในครั้งนั้นเป็นการโต้วาทีครั้งประวัติศาสตร์ผ่านทางโทรทัศน์ ที่ประชาชนชาวอเมริกันติดตามชมทั้งประเทศ เป็นการโต้วาทีครั้งสุดท้ายที่จะตัดสินชี้ขาดว่า ประชาชนชาวอเมริกาควรจะเลือกใครให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนต่อไป
ทั้งเคนเนดี้และนิกสันต่างได้นำเสนอนโยบายในขณะนั้น เป็นที่น่าสนใจพอๆ กัน ผู้ที่ตามชมการโต้วาทีผ่านทางโทรทัศน์ในขณะนั้น ไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดว่า ควรจะเลือกใคร
ในช่วงตอนท้ายของการโต้วาที นิกสันได้หยิบยกประเด็นขึ้นโจมตีเคนเนดี้ โดยกล่าวหาว่า ในระหว่างที่เคนเนดี้ปฏิบัติหน้าที่เป็นวุฒิสมาชิกในรัฐสภาสหรัฐ เคนเนดี้ได้ขาดการประชุมหลายครั้งโดยไม่มีเหตุอันสมควร ดังนั้น จึงไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี
ในประเด็นการขาดประชุมวุฒิสภาของเคนเนดี้หลายครั้งนั้นเป็นเรื่องจริง ผู้สนับสนุนเคนเนดี้ที่กำลังชมการถ่ายทอดโทรทัศน์ต่างวิตกกังวล และหนักใจว่า เคนเนดี้จะแก้ตัวว่าอย่างไร รวมทั้งประชาชนชาวอเมริกาทั้งหลายต้องฟังคำตอบ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีสหรัฐด้วยเช่นกัน
เคนเนดี้ได้ลุกขึ้นตอบข้อกล่าวหานี้อย่างไม่สะทกสะท้านโดยยอมรับว่า ได้ขาดประชุมวุฒิสภา หลายครั้งจริง ตามที่นิกสันกล่าวหา และยังยอมรับอีกด้วยว่า นิกสันไม่เคยขาดประชุมวุฒิสภาเลย อย่างไรก็ตาม เคนเนดี้ได้สรุปตอนท้ายว่า ในเมื่อนิกสันไม่เคยขาดการประชุมวุฒิสมาชิก นิกสันเหมาะสมและควรปฏิบัติหน้าที่เป็นวุฒิสมาชิกต่อไป ส่วนเคนเนดี้ไม่สมควรเป็นวุฒิสมาชิก และควรจะหางานอื่นทำด้วยการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่
คำตอบของเคนเนดี้สร้างความฮือฮา และประทับใจให้กับประชาชนชาวอเมริกันเป็นอย่างมากแม้ข้อกล่าวหาจะเป็นเรื่องจริง
แต่เคนเนดี้ได้แสดงให้เห็นถึงไหวพริบ และปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ประชาชนชาวอเมริกันผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง จึงได้ตัดสินใจในช่วงโค้งสุดท้ายเลือกเคนเนดี้เป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนเสียงอย่างถล่มทลาย และเคนเนดี้ได้เป็นประธานาธิบดีที่มีอายุน้อย ในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยอายุเพียง 43 ปี
ส่วนนิกสันหลังจากที่แพ้การเลือกตั้งในครั้งนั้น ได้หวนกลับมาสมัครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งหนึ่ง และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในการเลือกตั้งครั้งที่ 37 เมื่อปี พ.ศ. 2511 จนกระทั่งเกิดเหตุอื้อฉาว กรณีวอเตอร์เกท (Watergate) ที่ประธานาธิบดีนิกสันอยู่เบื้องหลังในการส่งหน่วยข่าวกองลักลอบเข้าไปในที่ทำการพรรคเดโมแครต เพื่อล้วงความลับในการหาเสียง ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 38 จนเป็นเหตุให้นิกสันต้องลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี พ.ศ. 2517
ย้อนกลับมาถึงการเลือกตั้งในประเทศไทยที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 นี้ นับว่า เป็นโอกาสดีของประชาชนชาวไทย ที่จะได้ใช้สิทธิเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ว่างเว้นมานานถึงเจ็ดปีเศษ นับตั้งแต่วันเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ส่วนวันเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ไม่รวมรับด้วยเพราะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า พระราชกฤษฎีกายุบสภากำหนดให้การเลือกตั้งครั้งนั้น ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเพราะไม่สามารถเลือกตั้งให้แล้วเสร็จทั่วประเทศได้ภายในวันเดียว
ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ มีพรรคการเมืองส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประมาณ 60 กว่าพรรค และเสนอชื่อผู้เข้ารับตำแหน่งหรือแคนดิเดต (Candidate) เป็นนายกรัฐมนตรีถึง 48 คน แต่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในสังคมเป็นอย่างดีมีไม่ถึง 10 คน
การหาเสียงเลือกตั้งในยุคปัจจุบันยังมีวิธีการแบบสมัยก่อน ไม่ว่าจะส่งจดหมายเชิญชวนไปตามบ้านผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ติดป้ายหาเสียงตามถนน ทั้งขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ เดินเคาะประตูตามบ้านเพื่อเยี่ยมเยียนประชาชน จัดปราศรัยตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่น่าสนใจ คือ เริ่มมีการหาเสียงผ่านทางโซเชียลมีเดียทางอินเตอร์เนต ไม่ว่าจะเป็น Facebook การจัดทำเว็บไซต์ของพรรคการเมืองต่างๆ และยังมีการโต้วาทีแสดงความคิดเห็นตามเวทีต่างๆ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์หลายสถานีได้จัดการโต้วาทีออกอากาศให้ผู้มีสิทธิ์รับเลือกตั้งได้ติดตามชม และเปรียบเทียบนโยบายของพรรคการเมือง และวิสัยทัศน์ของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีหรือตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้าร่วมรายการ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคการเมืองอื่นๆอีกหลายพรรค จึงมีเสียงเรียกร้องว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สมควรที่จะร่วมออกโทรทัศน์โต้วาทีกับผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ และตัวแทนพรรคอื่น ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดี และสร้างบรรยากาศประชาธิปไตยในการหาเสียง
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ท้วงติงว่า หาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาร่วมโต้วาทีออกโทรทัศน์อาจผิดกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ว่า เป็นผู้ที่มีอำนาจเหนือหรือมีอิทธิพลเหนือพรรคการเมืองคือพรรคพลังประชารัฐ แม้แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่กล้าแสดงความคิดเห็นที่ชัดเจนหรือฟันธงในประเด็นนี้
เมื่อพิจารณาในข้อกฎหมาย หาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจจะร่วมโต้วาทีควรจัดให้มาร่วมรายการในฐานะที่เป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้มาในฐานะเป็นตัวแทนพรรคการเมือง จะทำให้ไม่ขัดต่อประเด็นในข้อกฎหมายดังกล่าว เพราะกฎหมายได้เปิดช่องให้แล้วว่า พรรคการเมืองสามารถเสนอชื่อผู้ที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่ผู้นั้นไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น จึงสมเหตุสมผลที่จะสามารถแสดงวิสัยทัศน์ในการโต้วาทีได้
ประเด็นมีว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาได้แสดงท่าทีชัดเจนออกมาแล้วว่า จะไม่ยอมร่วมโต้วาทีด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะตามข้อเท็จจริงแล้ว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีรายการโทรทัศน์ในทุกค่ำคืนวันศุกร์อยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้มีบุคคลอื่นมาร่วมสนทนาแสดงความคิดเห็นหรือโต้วาทีด้วย
กรณีนี้ถือว่าเป็นสิทธิ์เฉพาะตัว ซึ่งท่านอาจจะพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สมควรหรือไม่เหมาะสมเป็นดุลพินิจเฉพาะตัว ที่บุคคลอื่นไม่อาจก้าวล่วงได้
แม้ว่าการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 นี้ อาจดูเหมือนยังไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ แต่ยังนับว่าเป็นข้อดีที่มีจุดเริ่มต้น หลังจากที่รอคอยมานาน จนเกิดความชินชาแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี