วันก่อนผมตั้งคำถามสอบถามความคิดเห็นคุณผู้อ่านในแฟนเพจ เดอะมันนีโค้ช (FB: TheMoneyCoachTH) ว่า
“คุณคิดว่า … การเลือกคู่ครอง มีผลกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ในชีวิตของเรา หรือเปล่า” และ “คุณคิดว่า เวลาจะเลือกใครสักคนเป็นคู่ของเรา จะต้องพิจารณาเรื่องการเงินของว่าที่คู่ชีวิตของเรา ประกอบการตัดสินใจด้วยหรือไม่”
เหตุที่ตั้งคำถามแบบนี้ ก็เพราะเท่าที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาทางการเงินมาสิบกว่าปี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้หลายคนมีปัญหาทางการเงินนั้น มันมีผลมาจากชีวิตคู่ด้วยจริงๆ โดยเฉพาะในกรณีที่เรากับคู่ชีวิตของเรานั้น มีเป้าหมายชีวิตเป้าหมายทางการเงิน ทัศนคติ พฤติกรรม และวินัยทางการเงินที่แตกต่างกัน (บ้างพูดกันไปถึงเรื่องศีลไม่เสมอกันก็ยังมี)
หลังถามคำถามไป ปรากฏว่าได้ผลครับ เฟซบุ๊คแทบถล่มประหนึ่งคำถามที่ตั้งด้วยความอยากรู้นี้ ได้กลายเป็นวาระแห่งชาติไปเสียอย่างนั้น แค่ไม่ถึงชั่วโมงคอมเมนต์กันไปหลายร้อย และที่สำคัญ แต่ละคอมเมนต์ทั้งยาวและอุดมไปด้วยอินเนอร์อย่างยิ่ง
บทความในวันนี้ผมเลยอยากแนะนำแนวทางการบริหารเงินชีวิตคู่ และอยากเล่าตัวอย่างดีๆ ของคุณผู้อ่านที่ส่งมาแบ่งปันกันเพื่อให้เห็นทั้งหลักการและวิธีการไปพร้อมกัน
โดยหลักๆ แล้ว คำแนะนำสำหรับการวางแผนเรื่องเงินสำหรับชีวิตคู่ ที่ผมมักจะแนะนำให้ผู้ที่มาขอคำปรึกษาอยู่เสมอก็คือ
1.ต้องปรับจูนเป้าหมายในชีวิต และทัศนคติทางการเงินที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน (ไม่ต้องตรงกันเป๊ะก็ได้)
2.เปิดเผยข้อมูลการเงินต่อกัน โดยเฉพาะในส่วนที่อาจจะมีผลกระทบต่อชีวิตคู่ เช่น ภาระหนี้สิน
3.ทำสัญญา หรือข้อตกลงร่วมกัน ในเรื่องของการจัดการเงินในชีวิตประจำวัน เกณฑ์การตัดสินใจทางการเงิน (ซื้อบ้าน ลงทุน) รวมไปถึงภาระการเงินส่วนตัว (หนี้สินครอบครัวเดิม คนในอุปการะ ที่ยังต้องรับผิดชอบอยู่)
4.รักษาคำสัญญา ยึดมั่นในข้อตกลง ให้เกียรติและเคารพกัน(ไม่พยายามจับผิด)
5.หมั่นทบทวนเป้าหมายทางการเงิน พูดคุยและให้กำลังใจกัน
6.ศึกษาหาความรู้ทางการเงินร่วมกันอยู่เสมอ
ข้อความจากเฟซบุ๊คที่คุณผู้อ่านส่งมา:
ย้อนไป 3 ปีก่อนหน้านี้หนูกับแฟนเจอกันที่ทำงานเก่าค่ะตอนทำงานอยู่หนูได้ยินเรื่องการเงินของแฟนมาประมาณหนึ่ง แต่ตอนนั้นยังไม่คิดจริงจังอะไร แต่พอคุยกันบ่อยขึ้น รู้จักกันมากขึ้น จนเราเริ่มรักเขา เลยเปิดใจคุยกันทุกเรื่องก่อนที่จะคบกันแบบจริงจังค่ะ แล้วแฟนก็เล่าเรื่องหนี้สินของเขาให้ฟังค่ะ
แฟนหนูเขามีปัญหาเรื่องหนี้สินแสนกว่าบาทตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ เหตุเพราะเป็นนักดื่ม แล้วในตอนนั้นที่ไซต์งานเขามีปัญหาเรื่องการเงินค่ะ (แฟนเป็นวิศวะ) ทำให้เขาต้องกดบัตรเงินสดและรูดบัตรเครดิตออกมาหมุนเงิน เพื่อไม่ให้ที่บ้านรู้
ตอนนั้นที่ได้รู้ก็คิดนะคะว่า “ถอยดีไหม?” พอหนูมานั่งคิดกับตัวเองสักพัก และมานั่งแยกให้ออกระหว่างความรัก กับ เงิน หรือพูดอีกอย่าง คือ ระหว่าง “หัวใจ กับ หัวสมอง” ก็เลยถามเขาไปว่า “รักหนูมากไหม? พร้อมจะแก้ไข้ปัญหาหนี้สินของตัวเองไหม? พร้อมจะพาชีวิตออกไปจากวงจรนี้หรือยัง?”
เขาตอบกลับว่า “รักและพร้อมจะแก้ปัญหานี้” สายตาเขามุ่งมั่นมากค่ะโค้ช หลังจากได้ยินคำตอบนั่นหนูตัดสินใจคบและเดินหน้าต่อไปกับเขาคะ ถ้ามันไม่มีอะไรดีขึ้นหนูจะหยุดและคืนชีวิตให้กันและกัน
พอหลังจากคบกัน เราจัดระเบียบกระเป๋าตังค์กันใหม่เราทำงานประจำกันท้้งคู่ แต่เสาร์-อาทิตย์เรารับตรวจบ้านเพิ่มเติมกันค่ะ เพราะหนูกับแฟนจบวิศวะเหมือนกันแต่ต่างสาขาค่ะ เขาก็สอนการตรวจบ้าน หนูก็หน่วยประชาสัมพันธ์หาลูกค้า ค่อยๆ เก็บเงิน แล้วก็ทยอยปิดหนี้บัตรเครดิตได้จนหมดค่ะ
นอกจากนี้ จากแต่ก่อนที่เขาไม่เคยให้เงินแม่เขาเลย ตอนนี้เขาเหลือเงินให้แม่ได้ทุกเดือน วินาทีที่แม่ได้เงินจากเขา แม่กับลูกร้องไห้กันใหญ่เลยนะ
แต่ก่อนเขาไม่เคยรู้จักการลงทุนใน LTF ตอนนี้เขามีเงินลงทุนใน LTF และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วค่ะ จากที่ไม่เคยมีเงินเก็บ ตอนนี้เขามีเงินเก็บพอสมควรเลยค่ะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวีดีโอของโค้ชเลยนะคะ หนูเปิดให้เขาฟัง แล้วเราก็เอามาปรับใช้กับชีวิตคู่ของเราค่ะ
ตอนนี้ชีวิตคู่ของเราดีขึ้นมากๆ ค่ะ แล้วกำลังจะพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งกันค่ะ ตอนนี้เราเริ่มวางแผนครอบครัวกันแล้วคะ ขอบคุณโค้ชมากนะคะ
การเงินดี ชีวิตคู่ก็มีความสุข แบบนี้แหละครับ ยินดีกับความรักและความสุขทางการเงินของเจ้าของเรื่องที่หยิบมาแบ่งปันด้วยนะครับผม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี