บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทไทยออยล์หรือ TOP เราคาดว่ากำไรสุทธิของ TOP ใน 1Q62 จะอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท (-8% YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากที่ขาดทุนสุทธิ 4.8 พันล้านบาท) กำไรที่ลดลง YoY สาเหตุจาก i) กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่คาดว่าจะลดลงเหลือแค่ 431 ล้านบาท จาก 1.5 พันล้านบาท ใน 1Q61 และ ii) base GRM ที่คาดว่าจะลดลง 48% YoY เหลือแค่ US$2.9/bbl ใน 1Q62
ขณะเดียวกันผลประกอบการที่ดีขึ้น QoQ เป็นเพราะคาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 3.0 พันล้านบาท จากที่มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสูงถึง 7.2 พันล้านบาท ใน 4Q61 หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบดูไบพุ่งจาก US$57/bbl ในเดือนธันวาคม 2561 มาอยู่ที่ US$67/bbl ในเดือนมีนาคม
นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทจะมีการกลับรายการผลขาดทุน NRV อีก 1.0 พันล้านบาทใน 1Q62 จากการที่ราคาน้ำมันดิบอยู่ในขาขึ้น แต่อย่างไรก็ตามคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะยังคงลดลง QoQ เนื่องจาก margin ของทุกธุรกิจลดลง โดยคาดว่า base GRM จะลดลง 25% QoQ เหลือ US$2.9/bbl เนื่องจาก spread น้ำมันเบนซินต่ำมากอยู่ที่ US$3.7/bbl เท่านั้นใน 1Q62 ลดลงถึง 21% QoQ ขณะที่ spread ของ PX ก็ลดลง 4% QoQ เหลือ US$508/ton และ spread ของ BZ ก็ลดลงถึง 78% QoQ เหลือ US$18/ton เนื่องจากฐานราคา PX ที่สูงใน 4Q61 และอุปสงค์ BZ จากผู้ประกอบการปลายน้ำลดลงเพราะถูกกระทบจากกรณีพิพาททางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ
GRM ในตลาดสิงคโปร์เฉลี่ยอยู่ที่ US$4.0/bbl ใน 1Q62 ลดลง 23% QoQ เนื่องจาก spread ของน้ำมันเบนซินในไตรมาสแรกต่ำเพียงแค่ US$3.7/bbl แต่อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่า base GRM จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในทุกไตรมาสของปีนี้ โดยใน 2Q62 จะได้แรงหนุนจากการที่มีโรงกลั่นในภูมิภาคหลายแห่งที่ถึงกำหนดปิดซ่อมบำรุง ส่วนใน 3Q62 ก็จะได้แรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่งเพราะเป็นช่วง driving season ของสหรัฐ
ขณะที่ 4Q62 จะได้แรงหนุนจากอุปสงค์น้ำมันดีเซลที่แข็งแกร่งในช่วงฤดูหนาว และผลพวงจากนโยบายของ IMO ให้ใช้น้ำมันเตากำมะถันต่ำในเรือเดินสมุทรก่อนจะมีบังคับใช้ในปี 2563 ทั้งยังมองเห็นสัญญาณบวกบางตัวจาก spread น้ำมันเบนซินที่เพิ่มเป็น US$9.3/bbl หลังจากที่โรงกลั่นของสหรัฐเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุงในเดือนมีนาคม-เมษายน ดังนั้นอัตราการใช้กำลังการผลิตรวมของสหรัฐจึงลดเหลือ 87% ในสัปดาห์ที่สี่ของเดือนมีนาคม ต่ำกว่าระดับปกติที่อยู่ประมาณ 90%
เราเชื่อว่าผลประกอบการที่ดีขึ้นใน 1Q62 จะช่วยหนุนราคาหุ้นในอีกสองสามเดือนข้างหน้า จึงยังคงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 85.00 บาท นอกจากนี้ยังมองว่าประเด็นเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มพลังงานในครึ่งแรกของปีนี้คือ “ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นมาเหนือ US$70/bbl ใน 1H62” เราจึงยังคงเลือก TOP เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มพลังงาน
โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM, spread ปิโตรเคมี และการปิดโรงกลั่นตามแผนในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2562
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี