บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทปูนซิเมนต์ไทย (SCC)เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ SCC ใน 2Q62F จะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท (-19.1% YoY, -13.9% QoQ) กำไรที่ลดลง YoY จะเป็นเพราะ spread ปิโตรเคมีลดลง ขณะที่กำไรที่ลดลง QoQ จะมาจากปัจจัยฤดูกาลที่ต่อธุรกิจปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์ภายในประเทศ ทั้งนี้ หากรวมการตั้งสำรองสำหรับผลประโยชน์ของพนักงาน กำไรสุทธิใน 2Q62F จะอยู่ที่ 8.0 พันล้านบาท (-35.2% YoY, -31.1% QoQ) โดยกำไรจากธุรกิจหลักใน 1H62F จะคิดเป็น 46.9% ของประมาณการกำไรปีนี้ทั้งปีของเรา เมื่ออิงจากประมาณการกำไร 2Q62F กำไรจากธุรกิจหลักในปีนี้ของเรายังมี downside อีก 5.3% เราคาดว่าบริษัทจะจ่ายเงินปันผลงวด 1H62F ที่ 7 บาท/หุ้น (คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 43%) จะทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 1.5%
ธุรกิจเคมีภัณฑ์ (คาดกำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q62F จะอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาท (-46.4% YoY, -28.6% QoQ))Spread ปิโตรเคมีลดลงเนื่องจากมีอุปทานใหม่เพิ่มเข้ามาในขณะที่อุปสงค์ก็ยังไม่แน่นอน โดย spread ของทั้ง HDPE, PP ยังคงลดลง QoQ (Figure 3)ขณะที่เราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากสต๊อกปิโตรเคมี 1.5 พันล้านบาท ใน 2Q62F
ธุรกิจปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง (คาดกำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q62F จะอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (+52.2% YoY, -16.0% QoQ)) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจากอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นของปูนซีเมนต์ (เนื่องจากบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการขึ้นราคาขาย 3% YoY) ส่วนกำไรที่ลดลง QoQ เป็นเพราะผลจากปัจจัยฤดูกาลในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม SCC มองแนวโน้มอุปสงค์ปูนซีเมนต์ในประเทศเป็นบวกน้อยลงกว่าเดิม โดยคาดว่าจะโตแค่ 2-3% จากเดิมที่คาดไว้ที่ 3-5% ซึ่งก็สอดคล้องกับมุมมองของเรา โดยการเติบโตของอุปสงค์จะถูกขับเคลื่อนโดยโครงการภาครัฐ ขณะเดียวกัน แนวโน้มของวัสดุก่อสร้างอื่น ก็ยังคงซบเซาเนื่องจากอุปสงค์ปูนซีเมนต์ในกลุ่มที่อยู่อาศัย ลดลงเล็กน้อยจากผลของมาตรการ LTV
ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (คาดกำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q62F จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-8.9% YoY, -13.4% QoQ))Spread ของบรรจุภัณฑ์ยังแข็งแกร่งอยู่ที่ US$345/ton (-9.7% YoY, ทรงตัว QoQ) โดยเรามองว่าธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะยังคงได้อานิสงส์จากอุปสงค์ และ spread ที่แข็งแกร่ง
เรายังคงคำแนะนำถือ และให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2562 ที่ 458 บาท โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 3Q62 จะดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจาก i) การรวมผลการดำเนินงานของ PT Fajar Surya Wisesa (55%) เข้ามาในธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (กระดาษ kraft) ii) คาดว่าอุปสงค์ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์จะเพิ่มขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงจากความล่าช้าของโครงการก่อสร้างภาครัฐ, ความผันผวนของ spread เคมีภัณฑ์ และ ต้นทุนพลังงาน
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี