บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC เราคาดว่า STEC จะได้ backlog เพิ่มจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองส่วนต่อขยาย (6-7 พันล้านบาท) ใน 2H62 ขณะที่การประเมินผลการประมูลโครงการเมืองสนามบินอู่ตะเภาก็เดินหน้าต่อ ปัจจุบันอยู่ในขั้นการประเมินคุณสมบัติทางเทคนิค และแผนธุรกิจ (ซองที่ 2) โดยคณะกรรมการอุทธรณ์ และ EEC มีมติไม่รับซองราคาของกลุ่ม CP และจะมีการประเมินซองราคาในเดือนสิงหาคม 2562 ถ้าหากว่าศาลปกครองมีคำสั่ง (คาดว่าจะออกมาในปลายเดือนนี้) ให้รับข้อเสนอด้านราคาของ CP คณะกรรมการประเมินข้อเสนอก็จะนำข้อเสนอของ CP เข้ามาร่วมพิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าคำสั่งศาลน่าจะออกมาแนวทางเดียวกับมติของคณะกรรมการ EEC ทั้งนี้ เรามองว่ากลุ่ม BBS (BTS,BA และ STEC) ดูมีภาษีดีกว่า GRAND consortium โดยคาดว่า backlog จากโครงการนี้จะอยู่ในช่วง 8 หมื่นล้านบาท ถึง 1 แสนล้านบาท จาก backlog ในปัจจุบันที่ 9.7 หมื่นล้านบาท
กำไรจากธุรกิจหลักจะดีขึ้น
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ STEC ใน 2Q62F จะอยู่ที่ 429 ล้านบาท (+40.5% YoY, + 24.9% QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY จะมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นตามความคืบหน้าของงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู และเหลือง ขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ จะมาจาก i) อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (เพราะไม่ต้องกันสำรองผลประโยชน์พนักงาน) ii) รายได้จากเงินปันผลเพิ่มขึ้น (1.2 บาท/หุ้น ในปี 2562, 0.4 บาท/หุ้น ในปี 2561) จาก Gulf Energy Development(GULF)* เราคาดว่ารายได้ใน 2Q62F จะอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท (+32.6% YoY, +0.3% QoQ) ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นจาก 7.3% ใน 1Q62 เป็น 7.8% ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 1H62F จะอยู่ที่ 772 ล้านบาท (+129.3% YoY) คิดเป็น 47.7% ของประมาณการกำไรปีนี้ของเรา
คงประมาณการกำไรปี 2562
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2562 เอาไว้เท่าเดิม แต่ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ลงจากการปรับลดสมมุติฐานรายได้ลง 10.2% เพราะมีการประมูลโครงการภาครัฐหลายโครงการล่าช้ากว่าสมมุติฐานเดิมของเรา โดยเราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ลง 7.4% แต่ยังคงสมมุติฐานอัตรากำไรขั้นต้นปี 2562-63 เอาไว้ที่ 8.0% และ 8.1% ตามลำดับ
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายกลางปี 2563 ที่ 34.50 บาท เราเลือก STEC เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเนื่องจาก i) มี backlog ในมือระดับแสนล้านบาท ii) คาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างน่าสนใจถึง 16% ในปี 2562-63 ทั้งนี้ เรามองว่า backlog ใหม่จากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและเหลืองส่วนต่อขยายจะเป็นปัจจัยกระตุ้นด้านบวกในระยะสั้น ส่วนผลกระทบด้านลบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำน่าจะค่อนข้างน้อยเนื่องจากคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะทยอยปรับขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงจากกำหนดการก่อสร้างล่าช้า, ขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนค่าวัสดุแพงขึ้น
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี