nn วานนี้ได้ประเด็นมาเขียนเรื่องการลงทุนก็จากการเก็บเอาข้อคิดที่ได้ฟังการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา...ซึ่งถ้าว่ากันตามจริงหากใครได้ฟังอย่างตั้งใจก็จะได้ประเด็นมากมายหลากหลายที่เอามาขยายต่อหรือสังเคราะห์ในเชิงลึกได้หลายมิติจริงๆ...วันนี้“โลกการค้า” ก็อยากจะหยิบเอาประเด็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืนเอามานำเสนอในอีกมิติหนึ่ง...ไม่ใช่การต่อว่ารัฐบาลว่าไม่ได้ทำอะไรเลย หรือไม่ใช่การตำหนิติเตียนจนทำให้สังคมสิ้นหวัง....
นาทีนี้ต้องยอมรับว่า “กระดุม 5 เม็ด” กำลังเป็นกระแสร้อนแรงและถูกหยิบเอามาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง และหลายคนก็บอกว่านี่แหล่ะคือการแก้ปัญหาของเกษตรกรไทยที่ครบวงจร...แม้ว่าหลายคนจะรู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เป็นอย่างนั้น...แต่ก็อยากให้มันเกิดขึ้นได้จริง...
ที่บอกว่าไม่อยากให้สังคมสิ้นหวังเพราะ ในการอภิปรายฯมีความพยายามจะโจมตีรัฐบาลว่าไม่เต็มใจแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร แต่มักจะออกนโยบายเพื่อเอื้อแต่กลุ่มนายทุนใหญ่ บ้างก็ว่าไม่สามารถแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืนก็เพราะไปติดอยู่กับการกับดักของกลุ่มทุนผูกขาด...สรุปสุดท้ายกลุ่มทุนใหญ่ก็เลยกลายเป็นจำเลยของสังคมไปในที่สุด...
ตัวอย่างของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จ.สกลนคร ที่ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.พรรคอนาคตใหม่...หยิบเอามาเป็นตัวอย่างในการทำเกษตรกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน..และกำลังบอกว่าเกษตรกรไทยอื่นๆก็จะเป็นแบบนี้ได้...หากว่าดำเนินการตามแนวคิด “กระดุม 5 เม็ด”
โลกการค้า...อยากบอกอย่างนี้ว่า...จริงแล้วใช่ว่าจะไม่มีพี่น้องเกษตรกรที่เป็นแบบพี่เป็นแบบกลุ่มเกษตรกรใน จ.สกลนคร ในพื้นที่อื่นของประเทศ...แม้จะยอมรับว่ายังอยู่น้อยแต่ก็มี...ซึ่งอันนี้ก็ต้องยอมรับว่าจริงว่าที่ยังมีน้อยเพราะเขายังดำเนินการด้วยตัวเองไม่ได้...ด้วยติดปัญหา ทั้งเรื่องสิทธิที่ในดินทำกิน หนี้สิน จนไม่สามารถก้าวข้ามพ้นวังวนปัญหาเดิมได้...แต่เมื่อได้แรงสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นที่พวกเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มเกษตรกรคุณภาพได้ เช่น กรณีของพี่น้องชาวนาที่ปลูกขาวอินทรีย์ที่ จ.สุรินทร์ ขอนแก่น อุบลราชธานีได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส. )...
แต่ก็นั่นแหล่ะครับ พี่น้องเกษตรกรไทยมีกว่า 30 ล้านราย...เพียงลำพัง ธ.ก.ส. แห่งเดียวก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมด...จึงต้องอาศัยองค์กรอื่นๆ ลงมาช่วยด้วยเหมือนกัน...ซึ่งก็ใช่ว่าจะไม่มี...วันก่อน...โลกการค้า....เห็นข่าวเรื่อง “โครงการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้สู่ชาวนา”....ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ...บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กับ โรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงรายซึ่งก่อตั้งโดย พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี)
โครงการดังกล่าว...จัดขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะและองค์ความรู้สู่ชาวนาให้มีความสามารถสร้างผลผลิตที่มีคุณภาพและเพิ่มความเข้มแข็งให้กับตนเอง ชุมชน และสังคม ส่งผลให้เกิดเศรษฐกิจฐานรากที่มั่นคงแก่ชุมชน ซึ่งโครงการดังกล่าวนี้ให้ความสำคัญกับการทำเกษตรกรรมในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ตามแนวคิดหลักของโรงเรียนชาวนาพุทธเศรษฐศาสตร์ นั่นคือ ความรับผิดชอบต่อสังคม เริ่มต้นจากข้าวเมล็ดเดียว เพื่อสร้างชาวนามืออาชีพและมีคุณธรรม ครอบคลุมเนื้อหาการจัดการผลผลิต, การตลาด, การสื่อสาร, การแปรรูป และการบริหารผลิตผลทางการเกษตรอย่างปลอดภัย เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างรายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเน้นการให้ธรรมชาติคืนสู่ธรรมชาติ....
คุณธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์สู่ความยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2560 ภายใต้กรอบการทำงาน 3 เสาหลัก คือ มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่เป็นธรรม โปร่งใสตรวจสอบได้ (Heart) มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน มีคุณภาพชีวิตที่ดี (Health) และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Home) ดังนั้น บริษัทจึงได้ดำเนินงานภายใต้ปณิธาน “ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” มาอย่างต่อเนื่อง....
โลกการค้า...ยืนยันได้ว่ายังมีอีกหลายองค์กรขนาดใหญ่อีกมากมายที่มีปรัชญาองค์กรและมีโครงการในการสร้างความยั่งยืนให้สังคมในอีกหลากหลายมิติ...เหมือนที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในสภาว่า...“อย่ามัวแต่จ้องจะไปว่ากลุ่มทุนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น ซีพี ไทยเบฟ เซ็นทรัล ฯลฯ เข้ามาผูกขาดกิจการในประเทศเลย...เพราะคนพวกนี้เขาไปไกลเกินกว่าธุรกิจในประเทศแล้ว...ทุกวันนี้เขาเน้นไปลงทุนในตลาดโลกแล้ว...รัฐบาลเองต่างที่ต้องพยายามจะดึงพวกเขาให้พวกเขายังอยู่ในประเทศนี้...เข้ามาช่วยผ่านโครงการประชารัฐด้านต่างๆ”
อย่างที่บอกว่าในช่วงต้นว่า...วันนี้“โลกการค้า” ไม่ได้เขียนด้วยความสิ้นหวัง...เพราะเชื่อว่าพื้นฐานของประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพยากรที่มีพื้นฐานทางสังคม พื้นฐานทางวัฒนธรรมของความเป็นคนไทยที่เอื้อเฟื้อต่อกัน ฯลฯ...หากรัฐบาลเริ่มต้นที่ ติดกระดุมเม็ดแรก และเม็ดที่สองให้ถูกประเทศไทยไปต่อได้และมีที่ยืนที่ภาคภูมิใจในสังคมโลกได้อย่างแน่นอน....
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี