รัฐบาลของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ผ่านการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บรรยากาศงานแถลงโยบายของรัฐบาล เป็นไปอย่างเข้มข้น และ ดุเดือด จนประชาชนที่เฝ้าติดตาม บางช่วงบางขณะอาจสับสนเป็นว่า เป็นการแถลงนโยบายของรัฐบาล หรือเป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาล โดยฝ่ายค้านกันแน่
ในช่วงการแถลงนโยบาย ของรัฐบาล ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ไม่ได้มีข้อกำหนดให้ สมาชิกรัฐสภาลงมติว่า จะยอมรับนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ อย่างไรก็ตามได้มีการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภาอย่างกว้างขวาง มีข้อเสนอแนะ และติติง ตลอดจนท้วงติง อย่างมากมาย นับว่าเป็นประโยชน์ ต่อทั้งรัฐบาล และประชาชนที่ติดตามการประชุมรัฐสภา
เวทีนี้ ได้กลายเป็น เวทีแจ้งเกิดของ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคน แต่ที่มีคนกล่าวขวัญกันถึงมากที่สุด ได้แก่ ทิม พิธา หรือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ผู้ที่กล่าวถึงปัญหาของเกษตรกรไทย และเป็นเจ้าของวลี ปัญหา กระดุม 5 เม็ด ที่การแก้ปัญหาเกษตร ผิดมาโดยตลอด เสมือนมีกระดุมอยู่ 5 เม็ด ที่กลัดกระดุมทั้ง 5 เม็ด ผิดมาเป็นระยะเวลายาวนาน
ปัญหา การเกษตร กระดุม 5 เม็ด ตามแนวความคิดของ ทิม พิธา คือ
กระดุมเม็ดที่ 1 ปัญหาที่ดิน ที่ทำกิน เกษตรกรส่วนใหญ่ ไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง
กระดุมเม็ดที่ 2 ปัญหาแหล่งเงินทุน เกษตรกรส่วนมากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ไม่มีที่ดิน เป็นหลักทรัพย์ เพื่อค้ำประกันเงินกู้
กระดุมเม็ดที่ 3 ปัญหาการพึ่งพาสารเคมี สารเคมีมีผลเสียต่อสุขภาพแก่ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค นอกจากนี้ยังทำให้ต้นทุนในการเพาะปลูกสูงขึ้น
กระดุมเม็ดที่ 4 ปัญหาการแปรรูปสินค้าเกษตร และการเสริมสร้างนวัตกรรม ถ้าแก้ปัญหาได้ จะทำให้สินค้าเกษตรมีมูลค่าสูงขึ้น
กระดุมเม็ดที่ 5 ปัญหาการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงเกษตรนี้ เป็นกระแสแนวใหม่อย่างหนึ่งของโลก ที่รัฐบาลอิตาลีและญี่ปุ่น ได้ส่งเสริมให้เกิดขึ้นจริง แต่ประเทศไทย
ยังติดขัดเรื่องปัญหาที่ดิน เป็นกระดุมเม็ดที่ 1 ทำให้ไม่สามารถเกิดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้อย่างแท้จริง
การเสนอแนวความคิดดังกล่าว จะสั้น กระชับ เข้าใจง่าย หากพิจารณาในรายละเอียด จะเห็นว่า ปัญหาดังกล่าว ได้มีผู้รู้ได้แสดงความคิดเห็นไว้อยู่พอสมควร แต่อาจไม่สั้น และเข้าใจง่ายในลักษณะนี้ โดยเฉพาะการยกเปรียบเทียบกับการกลัดกระดุม ที่กลัดกระดุมเม็ดแรกผิดจะทำให้กลัด กระดุมเม็ดต่อๆไป ผิดตามไปด้วย เสมือนกับการแก้ปัญหาเบื้องต้นแรกเริ่มผิด การแก้ปัญหาอื่นตามมา จะผิดตามไปด้วย
เพียงชั่วข้ามคืน ส.ส. ทิม พิธา เป็นที่รู้จัก และกล่าวขวัญไปทั้งประเทศ ยิ่งไปค้นดูประวัติย้อนหลัง เห็นว่า น่าสนใจ เพราะตอนที่ไปเรียนต่อ ในระดับปริญญาโท ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการกล่าวถึง กรณีที่คุณพ่อได้เสียชีวิต เป็นเหตุให้ต้อง พักการเรียนเป็นเวลาร่วมปี เพื่อกลับมาบริหาร บริษัท ซีอีโอ อกรีฟู๊ด จำกัด ซึ่งเป็นกิจการของครอบครัว ที่ผลิตน้ำมันรำข้าว มีหนี้สินขาดทุนกว่า 100 ล้าน บาท จนสามารถพลิกกลับมาทำกำไร และเป็นผู้นำในการผลิตน้ำมันรำข้าว เป็นอันดับหนึ่ง ของประเทศไทย จึงกลับไปเรียนต่อในระดับปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จนสำเร็จการศึกษา นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้ตั้งข้อสังเกต และแสดงความคิดเห็น ในโซเชียลมีเดีย และอินเตอร์เน็ตว่า บริษัทดังกล่าว ผลประกอบกิจการ ในพ.ศ. 2559 ขาดทุน 145.6 ล้าน บาท ในพ.ศ. 2560 ขาดทุน 98.9 ล้าน บาท ใน พ.ศ. 2561 ขาดทุน 89.3 ล้าน บาท ซึ่งใน ปี พ.ศ. 2561 นี้ มีหนี้สินรวม 530 ล้าน บาทนับว่า ข้อมูลของบริษัทดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สวนทางกับ ข้อมูลที่ประชาชนผู้สนใจได้รับทราบมาในตอนแรก ซึ่งไม่ชัดเจนว่า ข้อมูลที่ได้รับมาในตอนหลังนี้ จะถูกต้อง จริงเท็จอย่างไรหรือไม่ แต่ ส.ส. ทิม พิธา ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้ อย่างเป็นทางการ
กรณีที่เกิดขึ้น ทำให้นึกย้อนไปถึง การโฆษณาของภาพยนตร์ไทย เมื่อประมาณ 50-60 ปี ที่ผ่านมา ได้มีโฆษณาภาพยนตร์ ที่ ดอกดิน กัญญามาลย์ หรือ ธำรง กัญญามาลย์ นักแสดงอาวุโส ผู้โด่งดัง เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ จะใช้วลี โฆษณาภาพยนตร์ของตนเองว่า“ล้านแล้ว.......จ้า” ซึ่งหมายความว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีรายรับหรือขายตั๋วชมภาพยนตร์เป็นเงินกว่า 1 ล้าน บาท หากเปรียบเทียบกับค่าเงิน ในปัจจุบัน น่าจะสูงเกินกว่า 10 ล้าน บาท
เป็นเหตุให้ ดอกดิน ถูกสรรพากรเรียกสอบถึงรายได้ของภาพยนตร์ แต่ดอกดินกลับชี้แจ้งว่า ภาพยนตร์ของตนขาดทุน ทั้งที่โฆษณาว่า ได้เงินเป็น ล้าน บาท ในสมัยนั้น ผลคือ สรรพากรไม่เชื่อที่ดอกดินชี้แจง และให้เสียภาษีเงินได้
หากถือตามแนวทางเดียวกัน คงต้องเพิ่ม กระดุมอีกเม็ดหนึ่ง
กระดุมเม็ดที่ 6 เป็นปัญหา เรื่อง จริยธรรม และ ศีลธรรม ของผู้ประกอบวิชาชีพ ในทุกๆอาชีพ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี