บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK เรามองว่าการใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS9 จะทำให้นโยบายบัญชี และการรับรู้รายได้เปลี่ยนแปลงไปใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) การเปลี่ยนวิธีการจัดชั้นสินเชื่อ/ค่าใช้จ่ายในการกันสำรองที่เข้มงวดและซับซ้อนมากขึ้น 2) การบันทึกมูลค่าการลงทุนตามราคาตลาด (mark-to-market) 3) การบันทึกความเสี่ยงรายการนอกงบดุล (off balance sheet)/เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงเอามารวมการในคชจ.การตั้งสำรองฯ 4) รับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมลดลงเนื่องจากต้องบันทึกค่าธรรมเนียมสินเชื่อที่เก็บล่วงหน้า (up-front)ในรูปของรายได้ดอกเบี้ยแบบตัดจำหน่าน amortization(จากปัจจุบันที่บันทึกเป็นค่าธรรมเนียม)) สำหรับค่าใช้จ่ายในการกันสำรองนั้น TFRS9 กำหนดให้ธนาคารเพิ่มปัจจัยเสี่ยงที่ไม่แน่นอนเข้าไปในค่าใช้จ่ายการสำรอง (credit cost) แทนที่จะประเมินจากความเสียหายในอดีตตามระบบบัญชีปัจจุบันเท่านั้น
ธนาคารไม่ต้องการนำรายการสำรองที่ตั้งสูงเกินไปในอดีตออกมารับรู้เป็นรายได้ในงบกำไรขาดทุน KBANK ได้เตรียมนโยบายการกันสำรองหนี้เสียสำหรับมาตรฐานบัญชีใหม่นี้เอาไว้ล่วงหน้าและมียอดสะสมการสำรองส่วนเกินอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก TFRS9 กำหนดให้ธนาคารจัดชั้นสินเชื่อใหม่แบบเข้มงวดมากขึ้น (จากการแบ่งเป็น 5 ขั้น ตามช่วงอายุการค้างชำระให้เหลือแค่ 3 ขั้น) ทำให้ธนาคารต้องจัดชั้นสินเชื่อใหม่ ซึ่งสินเชื่อจัดชั้นในส่วนชั้นที่ 2 (underperforming loan หรือ modified loan) ถือเป็นการจัดชั้นใหม่ ซึ่งหนี้ส่วนนี้จะนับรวมปรับโครงสร้างซึ่งปัจจุบันบันทึกเป็นสินเชื่อดี ต้องถูกจัดชั้นใหม่รวมเป็นหนี้ในชั้น 2 ซึ่งต้องมีการจัดสำรองมากกว่าเดิม ดังนั้น KBANK น่าจะจัดสรรสำรองส่วนเกินมารองรับสินเชื่อ modified loan กลุ่มนี้
TFRS9 กำหนดให้ธนาคารเปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมล่วงหน้าจากสินเชื่อ จากเดิมที่รับรู้ครั้งเดียวทั้งก้อนผ่านรายการ non-NII เป็นการรับรู้แบบ amortization และบันทึกผ่าน NII เราคิดว่าค่าธรรมเนียมสินเชื่อ up-front คิดเป็นหนึ่งในสามของค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อทั้งหมด หากใช้สมมุติฐานว่ารายได้ค่าธรรมเนียม up-front ตัวนี้ถูก amortized เป็นเวลา 5 ปี ก็จะฉุดให้รายได้ Non-NII ของธนาคารลดลงประมาณ 6-8% และกระทบกับกำไรสุทธิประมาณ 1%
เราคิดว่ายังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนอีกหลายตัว อย่างเช่น GDP ที่ชะลอตัวลง, กระแส NPL เกิดใหม่จากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง,ผลจากการลดดอกเบี้ยครั้งหน้าต่อรายได้ดอกเบี้ยของธนาคาร, สินเชื่อmodified loan ที่เพิ่มขึ้นตามนิยามใหม่ของ TFRS9, รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง ปัจจัยเหล่านี้ไม่เอื้อให้ราคาหุ้นของธนาคารฟื้นตัวขึ้น แถมยังเป็นตัวกดดันให้ราคาหุ้นทรงตัวอยู่ในระดับต่ำด้วย แต่เนื่องจากราคาหุ้นไม่แพง เราจึงยังคงคำแนะนำ และราคาเป้าหมายเหมือนเดิม
ปัจจัยเสี่ยงจากกรณีที่หนี้เสียเพิ่ม, รายได้ค่าธรรมเนียมลด, ส่วนต่างดอกเบี้ยลดจากการลดดอกเบี้ย
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี