nn ประเทศไทยแม้ว่าอัตราการเกิดของประชากรจะยังต่ำ แต่ตัวเลขของประชากรก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่พื้นที่อยู่อาศัยและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้หลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐในระดับนโยบายหน่วยงานท้องถิ่น สถานศึกษา ภาคเอกชน ต่างก็พยายามพัฒนาเมืองในรูปแบบ“สมาร์ท ซิตี้” (Smart City)ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทรัพยากรของเมืองให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ ความร่วมมือนั้นไม่ได้อยู่แต่เฉพาะกับองค์ในประเทศเท่านั้น แม้แต่ภาคเอกชนจากต่างประเทศหลายรายก็พร้อมจะร่วมมือกับภาครัฐเอกชนของไทยในการพัฒนารูปแบบ “สมาร์ท ซิตี้” อย่างกรณีของไลน์ ประเทศไทย ที่ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) ในการสนับสนุน ส่งเสริมความรู้และเครื่องมือให้กับภาครัฐ โดยเน้นความร่วมมือ3 ด้าน ได้แก่ การสนับสนุนสตาร์ทอัพ (Digital Startup) การสนับสนุนคอนเทนต์ดิจิทัล (Digital Content) และการสร้างให้เกิดระบบนิเวศด้านดิจิทัลในประเทศไทย (Smart City Ecosystem)
หลายคนอาจตั้งคำถามในใจว่าแล้วความร่วมมือจากไลน์ครั้งนี้จะช่วยให้ไทยเดินหน้าโครงการสมาร์ท ซิตี้ ได้เป็นรูปธรรมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งไม่แปลกที่จะมีคนตั้งคำถามแบนนี้ แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า ไลน์เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนใช้งานจำนวนมากถึงกว่า 44 ล้านคน เป็นองค์กรที่มีเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก และไม่นานมานี้ ไลน์ ก็ได้ โชว์ความเป็นผู้นำองค์กรเทคระดับโลกด้วยการจัดงาน LINE DEVELOPER DAY 2019 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ธีม “LIFE WITH LINE” โดยมีนักพัฒนาจากทั่วโลกรวมงานเกิน 2,000 คน และ ไลน์ก็ยังคงตอกย้ำบทบาทของการเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ในหลากหลายมิติ (Life Infrastructure) โดยเน้นนำเทคโนโลยี AI เข้ามาพัฒนาร่วมใช้งานเพื่อให้บริการมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจคนได้เป็นอย่างดี (Humanized Technology)
เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึง และเข้าใจคนได้เป็นอย่างดี (Humanized Technology) หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดและน่าสนใจ คือ โปรเจกท์ Fukuoka
Smart City ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล ภาคเอกชน และชาวเมืองฟุกุโอกะ โดยตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เมืองฟุกุโอกะเปิดใช้งาน LINE Official Account “เมืองฟุกุโอกะ” เพื่อทำการทดสอบและพัฒนาบริการต่างๆ มาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันจำนวนเพื่อนมากถึง 1.63 ล้านคน และล่าสุด LINE Fukuoka ซึ่งเป็นหน่วยงานพิเศษที่จัดตั้งขึ้นร่วมกันระหว่าง LINE และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่เมืองฟุกุโอกะ ได้ประกาศใช้บริการ Evacuation Action Support อย่างเต็มรูปแบบภายใต้ LINE Official Account ของเมืองฟุกุโอกะ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ส่งคำแนะนำด้านการอพยพหนีภัย ระบุพิกัดหาจุดกำบังที่ใกล้ที่สุด รวมทั้งช่วยแจ้งสถานการณ์ส่วนตัวไปยังครอบครัวของตนข้อมูลพยากรณ์รวมถึงค่าฝุ่นละออง PM 2.5 การแจ้งเตือนวันเก็บขยะตามพื้นที่ และข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับการดูแลเด็ก เป็นต้น
ตัวอย่างแบบนี้ไม่ได้มีแต่ในเฉพาะที่ญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะหลังจากเกิดโครงการ Fukuoka Smart City โครงการ Taipei Smart City ก็ได้ถือกำเนิดตามมา ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่า ไทเป เป็นหนึ่งในสมาร์ทซิตี้ชั้นนำของโลกอยู่แล้ว โดยอยู่ในลำดับที่ 7 จาก 102 เมืองทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้นทั้ง 2 เมืองอัจฉริยะยังทำความร่วมมือประกาศแผนการใช้ LINE Official Account ของเมืองฟุกุโอกะและไทเป เชื่อมต่อกันอีกด้วย การเชื่อมโยงครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการพัฒนา LINE Official Account ขององค์กรภาครัฐข้ามพรมแดน เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปจากไทเปที่เดินทางมาฟุกุโอกะ และจากฟุกุโอกะไปไทเป
เมื่อมองกลับมาที่ประเทศไทยเอง นายยูซูเกะซูซูกิ ผู้อำนวยการและ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ไลน์ ที่ฟุกูโอกะ กล่าวว่า ถึงแม้ตอนนี้การจัดการภาครัฐอาจยังไม่เป็นดิจิทัลเต็มตัว หรือได้ดั่งใจคนไทยมากนัก แต่ก็มีความพยายามเชิงนโยบาย ทั้งการประกาศนำร่องเมืองอัจฉริยะกว่า 30 เมืองจาก 24 จังหวัดในปัจจุบัน พร้อมตั้งเป้าหมายพัฒนาสมาร์ทซิตี้ให้ได้ 100 เมืองในปี 2565 โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ การบริหารจัดการการมีส่วนร่วม และการทำงานครอบคลุมเมืองอัจฉริยะทั้ง 7 ด้าน ได้แก่ ความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี พัฒนาคน เศรษฐกิจ พลังงาน และความแข็งแกร่งของรัฐ อย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญอย่าเพิ่งตัดสินไปว่า การเดินทางเข้าใกล้เมืองอัจฉริยะหรือ Smart City ของคนไทยจะเป็นเรื่องไกลตัวจนเอื้อมไม่ถึงสักที เพราะหากเราพิจารณาและเรียนรู้จากสถานการณ์ของเมือง Fukuoka และ Taipei ที่นำเทคโนโลยีของ LINE มาใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการสร้างเมืองที่มีประสิทธิภาพแล้ว บวกกับสถิติชาวไทย
ใช้งานแพลตฟอร์ม LINE กว่า 44 ล้านคน น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เมืองต่างๆ ในไทยก้าวสู่สมาร์ทซิตี้ในเร็ววันด้วยเช่นกัน โดยอาจเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ อย่างการใช้ LINE Official Account หรือระบบเพื่อบริหารจัดการการสื่อสารกับประชาชนในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมนำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือในด้านอื่นๆ โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมือง ทำให้ทุกๆ เมืองของไทยเป็นเมืองน่าอยู่ เป็นเมืองทันสมัย ทำให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขอย่างยั่งยืนได้อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี