nn กำลังเข้มข้น ใกล้งวดเข้ามาทุกขณะ กับการประมูลคลื่น 5G ที่ “คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)” กำหนดไทม์ไลน์การเคาะประมูลเพื่อออกใบอนุญาตในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ และมีโอปอเรเตอร์ทั้ง 5 ราย ตบเท้าเข้ามารับซองประมูล 5G กันไปพร้อมหน้า ทั้งค่ายเอไอเอส ดีแทคทรูคอร์ปอเรชั่น และ 2 รัฐวิสาหกิจด้านสื่อสาร“ทีโอที และแคทเทเลคอม” ที่กระโดดเข้ามาร่วมวงไพบูลย์ด้วย
การกระโดดเข้ามาร่วมวงไพบูลย์ประมูล5G ของ 2 รัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสาร “ทีโอทีและแคทเทเลคอม” ข้างต้นนั้น ปฏิเสธไม่ได้ช่วยสร้างสีสันและทำให้บรรยากาศการประมูลเต็มไปด้วยความคึกคัก เข้มข้น จนทำเอา กสทช.หัวใจพองโตและมั่นใจว่า การประมูลคลื่นความถี่แบบ “มัลตีแบนด์”หลายคลื่นที่จะมีขึ้นคงทำให้ กสทช.มีผลงานชิ้นโบแดงได้อีกชิ้น เพราะแม้ว่าบริษัทสื่อสารค่ายใดจะแสดงท่าทีอิดออดไม่อยากเข้าร่วมประมูล อยากรอให้กสทช.เคลียร์หน้าเสื่อคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งน่าจะเป็นคลื่นหลักที่ควรจะนำออกมาประมูลเช่นเพื่อนบ้านในภูมิภาคนี้ แต่ กสทช.ก็ยืนยันทั้งหลายทั้งปวงจะไม่ส่งผลกระทบต่อ “ไทม์ไลน์” การประมูลที่วางเอาไว้แน่ เพราะอย่างน้อยก็มี 2 หน่วยงานรัฐวิสาหกิจเข้ามาช่วยรักษาหน้าให้แก่กสทช.แล้ว
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม ยังคงแสดงความกังวลต่อเส้นทางการประมูลออกใบอนุญาต 5G ของประเทศที่รมว.ดีอีเอส “ดั้นเมฆ” ให้สองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ “ทีโอที”และ “แคทเทเลคอม” เข้าร่วมวงด้วยข้ออ้างไม่ต้องการตกขบวน 5G และต้องการจะนำคลื่นดังกล่าวไปให้บริการเชิงสังคมในพื้นที่ห่างไกล เพื่อประโยชน์สาธารณะที่บริษัทสื่อสารโทรคมนาคมโดยทั่วไปไม่อยากจะเข้าไปลงทุน ทั้งที่ข้อเท็จจริงนั้น การให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ชายขอบ/บริการเชิงสังคมอะไรนั้น ต่างมี “กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)” หรือ “กองทุนยูโซ (USO)” ของกสทช. ทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่แล้ว โดยกองทุน กทปส.หรือยูโซ่ดังกล่าวนั้น ได้เรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมจากผู้ประกอบการที่รับใบอนุญาตจาก กสทช.ในอัตรา 4-5% หรือกว่าปีละ 10,000 ล้านบาท
ดังนั้นการที่กระทรวงดีอีเอสจะลงมาลุยภารกิจดังกล่าวเสียเอง โดยให้ทีโอทีและแคทเข้าไปลงทุนในพื้นที่เหล่านี้ จึงกลายเป็นการลงทุนที่ซ้ำซ้อนไม่รู้บทบาทตนเอง เพราะหากดีอีเอสยืนยันจะให้สองหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดังกล่าวลงทุนให้บริการในพื้นที่เหล่านี้ และถือเป็นภารกิจที่จะต้องดำเนินการ ก็สมควรที่ กสทช.จะต้อง “ยุบเลิก”กองทุน กทปส.หรือยกเลิกการจัดเก็บเงินกองทุนดังกล่าวไปเสียจะได้ไม่มาสร้างภาระให้แก่บริษัทสื่อสารเอกชน
ด้วยเหตุนี้ ข้ออ้างของฝ่ายบริหารทีโอทีและรมว.ดีอีเอส ที่อ้างมานั้น ผู้คนในวงการโทรคมนาคมจึงมองว่า รมต.ดีอีเอส กำลังส่ง 2 รัฐวิสาหกิจด้านกิจการสื่อสารของประเทศไปลงทุนผิดเป้าหมาย ขึ้นรถผิดขบวนแล้ว ทั้งที่สถานะของสองรัฐวิสาหกิจที่ต่างอยู่ระหว่างกระบวนการควบรวมกิจการและยังอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการที่กินเวลามากกว่า 5 ปี แล้วยังไปไม่ถึงไหน ทั้งยังไม่สามารถจัดการกับความอุ้ยอ้ายขององค์กรที่มีพนักงานอยู่ล้นองค์กรได้เลย ด้วยสภาพของทีโอทีและแคทขณะนี้ จะไปแข่งขันกับบริษัทสื่อสารเอกชนเข้าได้อย่างไร
ดังนั้นความพยายามในการดั้นเมฆจะให้ทีโอทีและแคท เข้ามาลุยกำถั่วประมูล 5G มันจึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากมี “วาระซ่อนเร้น” เพื่อการใดการหนึ่งแน่ และอาจเป็นข้ออ้างในอันที่จะให้ “ทีโอทีและแคท” ไม่ต้องนำเงินที่จะได้รับจากการระงับข้อพิพาทกับคู่สัญญาเอกชนที่สูงกว่า 15,000-20,000 ล้านบาท ส่งคืนคลัง เพื่อจะอ้างได้ว่าเอามาลงทุนทำโครงข่ายประชารัฐ 5G ฟรีทั่วไทยได้สมอยาก
ที่จริงหนทางในอันที่ดีอีเอสจะสร้างผลงานก็มีอยู่แล้ว อย่างการเร่งปัดฝุ่นโครงการประชารัฐทั้งหลายที่ดีอีเอสรับหน้าเสื่อมา เพราะจนป่านนี้ยังคืบหน้าไปไม่ถึงไหน ทั้งโครงการ “ฟรีไว-ไฟอินเตอร์เนตประชารัฐ” อินเตอร์เนตหมู่บ้าน หรือแม้แต่เน็ตชายขอบที่ทีโอทีดอดไปรับจ๊อบติดตั้งแล้วยังส่งมอบเขาไม่ได้ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงการท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินใน กทม. และในหัวเมืองหลัก ที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลและ “นายกฯลุงตู่” ที่ประกาศไปตั้งนานแล้ว ในการนำเอาสายสื่อสารที่ระโยงระยางจนน่าเกลียดทั้งหลายลงใต้ดินและบริษัททีโอทีได้มีการลงทุนในเฟสแรกไปแล้วนับ 10,000 ล้านบาท ล่าสุดก็เพิ่งลงนามกับ 11 โอเปอเรเตอร์ ที่จะเข้ามาใช้โครงข่ายของทีโอทีแล้ว แต่ยังมีเฟส 2 และเฟสขยายอื่นๆที่ยังต้องลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นโครงข่ายพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่ถือเป็น Backbone หลักของประเทศ ดีกว่า “ดันทุรัง” ขึ้นรถไปผิดขบวนจนทำเอา 2 รัฐวิสาหกิจนี้ “ตายทั้งเป็น”
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี