บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL จากการประชุมนักวิเคราะห์ผู้บริหารของ BBL เปลี่ยนมามองลบกับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศ และใช้สมมุติฐานอัตราการขยายตัวของ GDP แค่ 2.3% แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าเป้าสินเชื่อธนาคารที่คาดว่าจะโต 3-4%ในปี 2563 ดูไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง (จาก -1% ในปี 2562)และเป้า NIM ที่ 2.2% ก็มี downside มากขึ้นอีกเนื่องจากมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25bps ขณะที่ตัวชี้วัดคุณภาพสินทรัพย์ยังดูแข็งแกร่งจากส่วนรองรับหนี้เสียก้อนโต และยังสามารถรักษาระดับ NPL ที่คงที่
หลังจากที่ BBL ตั้งสำรองหนี้เสียก้อนใหญ่ถึง3.2 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วน NPL coverage เพิ่มเป็น 220%ในปี 2562 ทำให้ BBL จะลดการตั้งสำรองหนี้เสียลงเหลือเพียง 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ คิดเป็นค่าใช้จ่ายสำรอง/หนี้เสีย (credit cost) ที่ 60-70bps แต่อย่างไรก็ตาม คิดว่าการลดสำรองหนี้เสียจะไม่ทำให้กำไรเพิ่มมากขึ้น เพราะจะถูกหักล้างการลดลงของรายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียม และกำไรจากการลงทุน และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำไรจากการค้าหลักทรัพย์ ซึ่งเราคาดว่าปีละ 2.0 พันล้านบาท ในอนาคต (ลดลงจากค่าเฉลี่ย 6-8 พันล้านบาท/ปีในอดีตที่ผ่านมา) เนื่องจากการเปลี่ยนวิธีการจัดชั้นตามมาตรฐานบัญชี TFRS9 และทำให้กำไรส่วนใหญ่จะรับรู้ผ่านส่วนผู้ถือหุ้น
ผู้บริหาร BBL มีมุมมองที่ชัดเจนที่จะไม่เดินหน้าซื้อหุ้นคืนอย่างที่ตลาดคาดเอาไว้ เนื่องจากสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ลดลงหลังซื้อกิจการ Permat Bank ในอินโดนีเซียมาอยู่ที่ 14.5% (จาก17.7%) คิดเป็น CAR ที่ 17.2% (ลดลงจาก 20.7%) ทั้งนี้ สัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 และ CAR ที่ระดับนี้ถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ ซึ่งสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 จะอยู่ในช่วง 16-17% ทั้งนี้ สัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ของ BBL ที่ 14.5% ได้รวมการหักมูลค่า goodwill จากการซื้อกิจการประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว
เราคิดว่าสัดส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ 14.5% จะทำให้ BBLไม่สามารถจ่ายเงินปันผลพิเศษ และซื้อหุ้นคืนได้ ดังนั้น แม้ว่าธนาคารจะลดสำรองหนี้เสียลงอย่างมาก แต่ก็จะไปหักล้างกับกำไรจากการค้าหลักทรัพย์ NII และรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงเท่านั้นเราได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563/64 ลง 8%/9% ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2563F ที่ 176 บาท (จากเดิมที่ 198 บาท)เรายังคงคำแนะนำถือ
ปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของกำไรจากการลงทุน GDP <2.4%
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี