บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 เลวร้ายลง รัฐบาลจึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม-30 เมษายน 2563) และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออกคำสั่งปิดพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ (22 มีนาคม-30 เมษายน 2563) จึงคาดว่าปริมาณการจราจร และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะลดลงอย่างหนักใน 2Q63 เพราะหลายบริษัทประกาศให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน หรือ หยุดงานโดยไม่ได้ค่าจ้าง หรือ ปลดพนักงานออก
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิของ BEM ปี 2563 ลง 39.0%และปี 2564 ลง 24.4% เนื่องจาก i) เราปรับลดประมาณการรายได้จากธุรกิจทางด่วนปีนี้ลง 20.0% และปีหน้าลง 16.5% เพราะปริมาณการจราจรลดลงจากสถานการณ์ COVID-19 และนโยบาย WFHii) เราปรับลดประมาณการรายได้จากธุรกิจระบบรางปี 2563 ลง 19.5%และปี 2564 ลง 13.2% เนื่องจากจำนวนผู้โดยสาร และค่าโดยสารเฉลี่ยลดลง (Figure 8) iii) เราปรับลดประมาณการรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ปีนี้และปีหน้าลง 3.8% เนื่องจากมีการปรับลดค่าเช่าลง 50% (metro malls, จุดพักรถ) ขณะที่รายได้ค่าโฆษณาก็ลดลงตามจำนวนผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังปรับเพิ่มสมมุติฐาน SG&A/รายได้ปี 2563-2564 จาก 7.7% เป็น 10.6% จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณชิย์ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
โดยคาดว่าสถานการณ์ COVID-19 จะดีขึ้นใน 2H63 หากสิ้นสุดลงภายในปี 2563 มาตรการปิดกรุงเทพฯก็จะถูกยกเลิก ทำให้ปริมาณการจราจร และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าฟื้นตัวขึ้น เราคาดว่ากำไรสุทธิของ BEM จะโต 19.6% CAGR ในช่วงปี 2563-2566 เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และเส้นทางเชื่อมต่อ (MRT สายสีเหลืองกำหนดจะเปิดในปี 2565 โดยมีจุดเชื่อมต่อที่สถานีลาดพร้าว) จะเพิ่มขึ้น
เราปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น BEM จากถือเป็นซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2563 ที่ 10.00 บาท เนื่องจาก i) ราคาหุ้นมี upside น่าสนใจ และ ii) ยังมี upside เพิ่มอีกจากโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มตะวันตก (คาดว่าจะออก TOR ได้ใน 1H63) นอกจากนี้ เรามองว่า BEM ยังมี upside ระยะยาวอีก 1.50 บาท/หุ้น จากสิทธิ์ในการต่อสัมปทานทางด่วน (Figure 5) เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลงมารอบนี้ได้สะท้อนถึงปัจจัยลบจากสถานการณ์ COVID-19 ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ทั้งประมาณการกำไร และการประเมินมูลค่าหุ้นของเราก็อนุรักษ์นิยมมากกว่า consensusอยู่แล้ว เพราะเราได้ประเมินผลกระทบด้านลบจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของรถไฟฟ้าสาย MRT สายอื่นๆ (ชมพู และเหลือง) ซึ่งจะมาลดทอนจำนวนผู้โดยสารของ sectors C และ C+ ไปบางส่วน
ปัจจัยเสี่ยงจากปริมาณการจราจร และจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าต่ำเกินคาด หรือ มีการเลื่อนออก TOR โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี