วันศุกร์ที่ผ่านมา ผมเปิดสายหน้าไมค์พูดคุยตอบคำถามเรื่องการเงิน มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งโทร.เข้ามาแชร์เรื่องการบริหารเงิน ผมฟังแล้วเข้าท่าดี เลยอยากมาเล่า เผื่อเป็นไอเดียให้คุณผู้อ่านลองไปปรับใช้กัน
น้องคนนี้ทำงานเป็นวิศวกร เธอบริหารเงินรายได้ของเธอกับแฟน โดยทำงบประมาณแบบง่ายๆ เริ่มจากเอาเงินรายได้มาวางแผน หักค่าใช้จ่ายสำคัญ อาทิ ค่าผ่อนคอนโดฯ ค่าน้ำ ค่าไฟ ซื้อของใช้ในบ้าน และค่าใช้จ่ายคงตัวอื่นๆ รวมถึงการออมที่ตั้งไว้อัตโนมัติเป็นประจำทุกเดือน (เช่น การลงทุนแบบ DCAในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF))
ส่วนเงินที่เหลือสำหรับกินใช้ส่วนตัว (เหลือจากหักรายจ่ายคงตัว) อาทิ ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ฯลฯ เธอนำมาหารด้วย 45 หรือพูดง่ายๆ ว่า เอาเงินที่เหลือมาวางแผนให้พอดีกินใช้ได้ 45 วัน
[ตัวอย่างเช่น เงินเดือน 27,000 หักผ่อนคอนโดฯ น้ำ ไฟ และค่าใช้จ่ายคงตัวอื่นๆ แล้วเหลือ 12,000 ก็เอาตัวเลข 12,000 ไปหารด้วย 45 ก็จะเหลือกินใช้ได้ 267 บาทต่อวัน เป็นต้น]
อ้าว! แต่เดือนหนึ่งมันมีแค่ 30 วัน ไม่ใช่เหรอโค้ช!!
ใช่ครับ เดือนหนึ่งมีแค่ 30 วัน ดังนั้น ถ้าเดือนไหนเธอรักษาวินัยได้ดี กินใช้แต่ละวันไม่เกิน 267 บาท เมื่อสิ้นสุดเดือน เธอก็จะมีเงินอีก 15 วันที่ยังไม่ได้ใช้ และกลายเป็นเงินออมทั้งหมด เท่ากับ 267 x 15 หรือประมาณ 4,000 บาท
ฟังแล้วหลายคนอาจรู้สึกว่า ดูชีวิตอัตคัดไปหน่อยหรือเปล่า เพราะเงินที่ต้องใช้ 30 วัน ถูกแบ่งไปใช้ 45 วันเสียอย่างนั้น
ที่จริงวิธีนี้ก็ไม่ได้จำกัดการกินใช้ขนาดนั้นหรอกนะครับ เพียงแค่ตั้งเป็นงบประมาณไว้ เพื่อคอยเตือนตัวเอง ไม่ให้ใช้เงินเยอะ และสร้างโอกาสออมให้กับตัวเอง
ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะฟุ่มเฟือย หรือกินใช้เกินตัวเลขที่ตั้งไว้ไม่ได้ เพราะการที่เราควบคุมการใช้จ่ายในวันอื่นๆ มาดี มันก็ทำให้เรากินเกินที่กันไว้ได้บ้างในบางวัน หรือพูดให้ง่ายคือ ถ้ากินเกินก็จะทำให้เงินเก็บส่วนเผื่อตรงนี้ลดลงไป บางเดือนเราอาจเหลือเงินแค่ 10 วัน 7 วัน หรือ 3 วันก็เป็นได้แต่สุดท้ายก็หมายความว่า เรามีเงินเหลือออมเพิ่มขึ้นอยู่ดี
สุดท้ายไม่ได้บอกว่าวิธีการนี้ดีสำหรับทุกคนเพราะแต่ละคนก็มีรูปแบบรายได้และรายจ่ายต่างกันไปซึ่งที่ดีก็ควรจะเลือกวิธีที่ตรงกับลักษณะเงินเข้า-ออกในกระเป๋าเรา รวมถึงนิสัยส่วนตัวด้วย
ไม่ว่าคุณจะเลือก :
§ หักอัตโนมัติจากบัญชีเงินเดือนก่อนใช้จ่าย
§ เก็บแบงก์ 50 ที่ได้รับจากการทอนโดยไม่กินใช้
§ จ่ายภาษีให้ตัวเองออม 10% ทุกครั้งที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
§ เก็บเศษเหรียญ 5 และ 10 บาท ไว้ลงทุน
§ เก็บเศษเหรียญ 2 บาท 1 บาท และเหรียญสลึง ไว้ทำบุญ
§ ฯลฯ
ไม่ว่าจะวิธีไหน ถ้าคุณถนัด และเก็บได้ต่อเนื่องมันก็ดีต่อใจทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องที่หยิบมาเล่า ก็แค่อยากจะบอกว่ามีคนช่างคิด ช่างประดิษฐ์วิธีที่จะทำให้ตัวเองเก็บออมได้เพิ่ม อีก 1 วิธี ก็เท่านั้นเอง
เริ่มเหลือ ก็เริ่มรวย ...
วิธีไหนที่ทำให้คุณเก็บออมได้ ก็จัดว่าคูลลลลลลลทั้งนั้นครับผม
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี