สัปดาห์ก่อนผมเปิดสายหน้าไมค์ในรายการมันนี่โค้ชพบประชาชน มีสายหนึ่งโทรเข้ามาเป็นคุณครูวัย 35 ปี ความตั้งใจของเธอที่โทรมาก็เพื่อจะสอบถามถึงเรื่องของการซื้อกองทุนเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) เพื่อลดหย่อนภาษี แต่กลายเป็นว่าเรื่องราวความเป็นมาที่เธอสนใจจะซื้อกองทุนนี้ดึงความสนใจของผู้ชมในวันนั้นได้อย่างมากมาย
ครูนัทเล่าว่าตัวเองเป็นข้าราชการครู เคยเป็นหนี้ 3 ล้านบาท จากการกู้ยืมเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ และธนาคารอีก 2 แห่ง เธอเป็นหนี้ตั้งแต่เริ่มทำงานได้ไม่นาน ด้วยเหตุที่จับกลุ่มกับเพื่อนค้ำประกันการกู้ยืมเงินกัน ตัวเองค้ำคนอื่นแล้วจะไม่กู้ก็ใช่ที่ สุดท้ายก็เลยกู้ไปกับเขาด้วย
ด้วยความที่ไม่มีแผนการใช้เงิน แต่ดันกู้เงินออกมาเธอก็เริ่มเอาเงินไปกินใช้อย่างสบาย จะดีหน่อยก็ตรงที่เงินบางส่วนเอามาให้แม่ซื้อที่ดิน บางส่วนเอามาให้แม่เปิดร้านของชำ แต่ก็นั่นแหละกิจการร้านของชำที่ไม่บริหารเงินให้ดี ก็กินเงินกู้ของเธอไปมากพอดูอยู่เหมือนกัน
เมื่อไม่ได้ตั้งใจกู้ แล้วกู้ แล้วเอาไปกินใช้ สุดท้ายความเหนื่อยก็จะมาตกตอนชำระหนี้ แต่ด้วยความเป็นข้าราชการครู ซึ่งครูนัทบอกว่าเข้าถึงสินเชื่อต่างๆ ได้ง่ายมาก เธอจึงแก้ปัญหาโดยกู้กินกู้ใช้วนไป เงินหมด เริ่มติดขัด ก็กู้ใหม่
ทำอย่างนี้ไปเรื่อย จนวันหนึ่งเริ่มเอะใจ (แม้จะช้าไปสักหน่อยก็ตาม) เงินเดือน 30,000 บาท ของครูนัท ถูกหักหน้าซอง แล้วโอนเข้าบัญชีจริงๆ แค่ 600 บาทเท่านั้น เรื่องพอกินไม่ต้องพูดถึง เพราะ 600 บาทที่ว่านี้ยังเหลือภาระผ่อนรถอีกด้วย 1 คัน
เมื่อรู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ชีวิตที่ควรจะเป็นครูนัทตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และธนาคารอีก 2 แห่งที่เป็นเจ้าหนี้ เพื่อขอให้ช่วยลดยอดผ่อนให้ต่ำลง เพื่อให้เธอมีเงินเหลือกินใช้บ้าง
“ทำยังไงก็ได้ค่ะพี่ ให้หนูเหลือเงินไว้กินบ้างก็พอ” นี่คือข้อความที่เธอใช้เจรจากับเจ้าหนี้
เรียบง่าย ตรงประเด็น และชัดเจนสุดๆ
แต่ถึงกระนั้น ครูนัทก็เล่าว่า ผลสัมฤทธิ์ของการพูดคุยนั้นไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่ายๆ เลย บางที่ต้องไปพูดไปขอตั้ง 5 ครั้ง กว่าจะยอมคุยและให้เงื่อนไขที่ต้องการ
หลังจากปรับลดยอดผ่อนหนี้ทุกรายการ เธอเริ่มพอมีเงินเหลือกินใช้ แต่ครูนัทไม่ได้หยุดแค่นั้น เธอเริ่มคิดต่อว่า จะหารายได้เพิ่มได้จากช่องทางไหนบ้าง ด้วยความที่ตัวเองถนัดในเรื่องงานบ้านงานอดิเรก เธอจึงรับอุปกรณ์งานบ้านมาขาย อาทิ เครื่องถักโครเช และอื่นๆ มาจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
ขายไปได้ไม่นาน เธอคิดแบบง่ายๆ ของเธอเองว่า “คนที่จะมาซื้ออุปกรณ์ถักโคเช ก็คงต้องเป็นคนที่ถักเป็นอยู่แล้ว ซึ่งมีอยู่น้อย แล้วทำไมเราไม่สอนให้เขาถักเป็นหละ เขาจะได้มาซื้อของเรา”
คิดได้แค่นั้น เธอก็เอาสมาร์ทโฟนมาอัดวีดีโอสอนถักโครเช แบบให้ความรู้ฟรี เธอทำวีดีโอไปเรื่อยๆ ลูกค้าก็มาซื้อสินค้าเรื่อยๆ จนวันหนึ่งเธอเห็นว่ามีเว็บรวมคอร์สสอนออนไลน์ ก็เลยเอาวีดีโอที่ทำไปลงสอนไว้ด้วย
แรกๆ ก็ได้เงินนิดหน่อยพอกรุบกริบ แต่ไปๆ มาๆ ตลอดปี 2562 เธอทำเงินจากคอร์สออนไลน์ไปร่วม 4 แสนบาท จากคนรายได้ไม่มาก เป็นหนี้
ยื่นรายการลดหย่อนนิดหน่อย ก็ได้เงินภาษีที่หักไว้คืน กลายเป็นคนที่ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม
และนั่นคือ ที่มาที่ทำให้เธออยากซื้อกองทุนเพื่อการออมพิเศษ หรือ SSFX เพื่อลดหย่อนภาษีในปีนี้
ถึงตรงนี้หนี้ที่เคยสร้างไว้จะยังไม่หมด แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า อีกไม่นานด้วยหลักคิด ประสบการณ์ และแนวทางที่ถูกต้อง น่าจะทำให้เธอกลายเป็นครูอีก
คนหนึ่งที่ชนะหนี้ และมีความสุขกับการเงินในที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี