ในการตัดสินใจลงทุน เราสามารถอาศัยหลักคิดวิเคราะห์พื้นฐานที่เป็นเหตุเป็นผล มาใช้ตัดสินใจลงทุนทั้งเพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และป้องกันตัวเองจากมิจฉาชีพได้
ยกตัวอย่างเช่น เวลาใครมาเสนอโอกาสทางธุรกิจที่ดูง่ายดาย ไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องลงมือทำอะไรไม่มีความเสี่ยงใดๆ เลย ที่สำคัญยังการันตีหรือรับประกันผลตอบแทนเสียอีกด้วย
เวลาเจอข้อเสนอที่ดีใจหายขนาดนี้สามัญสำนึกของคนเรา ก็มักจะแอบตั้งคำถามในใจอยู่แล้วว่า …
มันจริงหรือ?
ดีขนาดนั้นเลยเหรอ?
ไม่มีข้อเสียอะไรเลยเหรอ?
โดยปกติเจ้าสามัญสำนึกของเรา มักจะถูกกดปุ่มเรียกใช้งานอยู่เสมอ ในเวลาที่เราต้องวิเคราะห์สิ่งที่ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ก่อนที่เราจะตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
แต่ก็นั่นแหละ!! เมื่อใดก็ตามที่คนเรามีเรื่องของอารมณ์เข้ามาจับ มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจครั้งนั้นๆ สามัญสำนึกก็มักจะเลือนหายไป เหมือนไม่มีมันติดตัวกันอยู่เลย
หลายครั้งที่เราอ่านหนังสือการลงทุน เข้าคอร์สสัมมนา เรามักได้เรียนรู้องค์ความรู้ที่เป็นเหตุเป็นผลจนทำให้เรามีฐานคิดฐานตัดสินใจที่เหมาะสมและถูกต้อง แต่พอไปเจอสนามจริง นักลงทุนที่ขาดประสบการณ์ก็มักจะเกิดปัญหา ไอ้เจ้าความรู้ หรือสิ่งที่เคยรู้ กลับหายวับไปกับตา
เหลือไว้เพียงแค่ ความโลภ ความกลัว แล้วก็ความอยากได้
ความโลภ อยากได้ผลตอบแทนดีๆ ง่ายๆ
ความกลัว กลัวตกขบวน กลัวไม่ได้เหมือนคนอื่น
ความอยากได้ ติดใจ ถูกใจในข้อเสนอการลงทุน
และนั่นคือที่มาของ “ความฉิบหาย”
ในฐานะที่อยู่ในตลาดลงทุนมาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ธุรกิจ หรืออสังหาริมทรัพย์ ผมบอกได้เลยว่า การจะฝึกฝนให้เราสามารถเรียกใช้ “สามัญสำนึก” ได้ในเวลาที่ต้องการนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอย่างที่บอก ความโลภ ความกลัว และความอยากได้ เวลามันแสดงพลังออกมา มันสามารถกลบตรรกะทุกอย่างได้หมด
และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ผมมักจะบอกนักลงทุนหน้าใหม่ ที่สนใจจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้เช่าเสมอว่า ให้ลงพื้นที่ ดูบ้านและคอนโดฯอย่างน้อย 20 แห่ง ก่อนเริ่มที่จะหาซื้อ”
เพราะการผ่านทรัพย์มามากพอ มันช่วยกำจัดอารมณ์ความอยากได้ของเราไปมากพอสมควร และเมื่อเห็นมาก ทั้งทรัพย์ที่ดี (มีคนชอบ คนเช่าเต็ม เก็บค่าเช่าได้ตามเกณฑ์) และทรัพย์ที่ไม่ดี (ห้องว่างเพียบบริหารจัดการห่วย) การเอาอารมณ์มาใช้ในการตัดสินใจก็จะลดลง
และสามัญสำนึกของเราก็จะเริ่มทำงานดีขึ้นถูกต้องขึ้น และตามเหตุตามผลมากขึ้น (การลงทุนอื่นๆก็เช่นกัน)
ศาสตร์การลงทุน ใครๆ ก็เรียนได้ แต่การควบคุมอารมณ์ ซึ่งมีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างรุนแรง ถึงขั้นฉิบหายได้ง่ายๆ นั้น ต้องอาศัยประสบการณ์ และการเรียนรู้ของนักลงทุน
IQ สูงแล้ว EQ ต้องสูงด้วย ... ชีวิตกับการลงทุนไม่มีอะไรต่างกัน
ฉลาด เก่ง แต่คุมอารมณ์ไม่ได้ สุดท้ายไม่ว่าการลงทุนหรือชีวิต ก็พังได้ในแบบเดียวกัน
ดูกันให้ดี พิจารณากันให้ถี่ถ้วน ช่วงนี้การลงทุนประหลาดๆ เยอะจริงๆ ครับ
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี