nn สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD)...จัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลงานวิจัย “ITD Research Forum 2020” ในรูปแบบการสัมมนาออนไลน์ โดยมีการเสนอผลงานวิจัย 4 เรื่อง เพื่อตอบโจทย์ทิศทางการค้าและการพัฒนาของไทยในโลกยุค New Normal โดยมี นายวีรศักดิ์ ศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดการสัมมนา...ว่า ในภาวะวิกฤติโควิค-19 การค้าทางอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทมากขึ้นในโลกการค้าธุรกิจไทยต้องสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวสู่ยุค New Normal ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยได้มอบหมายให้ ITD ทำหน้าที่เป็น Think tank ให้กับกระทรวงพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายที่สำคัญเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยมองเห็นและคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ของโลกได้ทั้งมิติด้านเศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยี
นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาการผู้อำนวยการ สคพ. กล่าวว่า การจัดสัมมนา ITD Research Forum 2020 ได้มีการนำเสนอผลการวิจัยจากนักวิจัยซึ่งเป็นเครือข่ายวิชาการในประเทศของ ITD ซึ่งมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่สำคัญ คือ การมุ่งขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การเร่งส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศโดยให้ความสำคัญกับตลาดจีนซึ่งยังเป็นตลาดใหญ่ที่สำคัญของไทย แต่ต้องจับตานโยบายความเชื่อมโยงของจีนผ่านนโยบายความร่วมมือข้อริเริ่ม BRI (Belt and Road Initiative) เพื่อเกาะเกี่ยวผลประโยชน์ร่วมกับจีน ขณะเดียวกันต้องเร่งบุกเอเชียใต้ซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้บริโภคมาก อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงโดยเร่งพัฒนากรอบความร่วมมือ BIMSTEC รวมทั้งต้องเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้านโดยใช้เขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นฐานการผลิตสินค้าและบริการให้ครบจงจร ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ผลการวิจัยของ ITD ชี้ว่าการก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล หรือการก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 นั้น แผนการปฏิรูประเทศเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลจำเป็นต้องมีการพัฒนาไปสู่แผนปฏิบัติการที่ชัดเจนทั้งรายละเอียด กรอบเวลา ระบบการติดตามตรวจสอบ และดัชนีชี้วัดความสำเร็จที่ชัดเจน การประสานงานระหว่างส่วนราชการต่างๆ เพื่อให้เกิดเอกภาพ เร่งพัฒนากำลังคนเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่และแสวงหาประโยชน์จากเศรษฐกิจดิจิทัลเร่งแก้ปัญหาความทับซ้อนและการขาดความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ กำหนดระบบติดตามและประเมินนโยบายที่เกี่ยวข้องในแต่ละโครงการ กำหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนในการรองรับผลกระทบทางสังคมของการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลของไทย โดยเฉพาะผลต่อการจ้างงานและการปิดตัวของธุรกิจ
ผลการวิจัยโครงการโอกาสการค้าและการลงทุนไทยจากนโยบาย Belt and Road Initiative : BRI ของจีน พบว่ารัฐบาลไทยโดยกระทรวงพาณิชย์ควรปรับโครงสร้างสินค้าส่งออกไปจีนอย่างจริงจัง โดยเน้นการส่งออกสินค้าสำเร็จรูปเพื่อการอุปโภคบริโภคป้อนสู่ผู้บริโภคชาวจีนให้มากขึ้นเช่น อัญมณี เครื่องประดับตกแต่งบ้าน ฯลฯ ซึ่งในขณะนี้ ชนชั้นกลางจีนได้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและมีผู้บริโภคจีนที่นิยมสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดในโลก ซึ่งกว่า 650 ล้านคน ที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านมือถือ จึงเป็นโอกาสดีสำหรับไทยในการหันมาปรับโครงสร้างการส่งออกสินค้าสำเร็จรูปเพื่อส่งออกไปจีนอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ความซับซ้อนของตลาดจีนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันอย่างเข้มข้น ดังนั้นการส่งออกสินค้าสำเร็จรูปเพื่อการอุปโภคบริโภคไปป้อนตลาดจีนไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งภาครัฐและเอกชนจำเป็นต้องทำการบ้านให้หนัก มีการเตรียมความพร้อมอย่างจริงจังโดยการศึกษาข้อมูลเชิงลึกและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องมีความตื่นตัวคอยติดตามวิเคราะห์ตรวจสอบข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
ผลการวิจัยโครงการพัฒนานโยบายเพื่อการขยายผลการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและการใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาจากกรอบเขตการค้าเสรีบิมสเตคของประเทศไทย พบว่าภูมิภาคอ่าวเบงกอล ถือเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากความใกล้ชิดในฐานะเพื่อนบ้านแล้ว ภูมิภาคอ่าวเบงกอลยังเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP รวมกันสูงกว่า 3.620 ล้านล้านดอลลาร์ ณ ปี 2561 เมื่อพิจารณาขนาดของเศรษฐกิจที่มีการปรับระดับมาตรฐานค่าครองชีพแล้ว อินเดียจะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของโลก ด้วยมูลค่า 10.498 ล้านล้านดอลลาร์ รองจากอันดับ 1 คือจีนและอันดับ 2 สหรัฐอเมริกา ประเทศไทยควรวางนโยบายการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกบิมสเทคโดยยกระดับให้กรอบบิมสเทคเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาค ไทยควรมองอินเดียและบิมสเทคเป็นพื้นที่ย่อยเพราะประเทศในภูมิภาครอบอ่าวเบงกอลนั้นมีความสลับซับซ้อนเชิงวัฒนธรรม ภาษา ศาสนา ชาติพันธุ์ และการเมืองการปกครอง แต่ละประเทศมีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีความแตกต่างกันออกไป จึงควรศึกษาเรียนรู้และทำความเข้าใจให้กระจ่างถึงความแตกต่างของแต่ละประเทศ
ผลการวิจัย โครงการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเพื่อรองรับโอกาสและผลกระทบจากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ พบว่า ควรเร่งพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน โดยยกระดับความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนในจังหวัด เร่งพัฒนาแผนงานและโครงการในจังหวัดให้ตอบโจทย์ความต้องการเครือข่ายประชาชนในพื้นที่ มุ่งใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน กรณีจังหวัดกาญจนบุรี เชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในเมียนมา โดยจัดทำโครงการธุรกิจส่งเสริมเกษตรปลอดภัย เน้นนำเสนอสินค้าเกษตรคุณภาพดี และมุ่งสู่การขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical) ธุรกิจศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าทางรางธุรกิจตลาดกลางกาญจนบุรี ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมสินค้า ส่วนจังหวัดตราดใช้ประโยชน์จากความเชื่อมโยงกับเกาะกง กัมพูชา ดำเนินโครงการสินค้าเกษตรตราจังหวัดตราด มุ่งเน้นให้เป็นสินค้าที่มีมาตรฐาน GAP รับประกันความปลอดภัยธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพพรีเมียมสำหรับผู้สูงอายุ ธุรกิจโกดังกระจายสินค้า รวมทั้งมีห้องเย็นและห้องแช่แข็งธุรกิจโรงเรียนฝึกอบรมบุคลากร
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี