บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ BTS กำไรสุทธิของ BTS ใน 4Q63(มกราคม-มีนาคม 2563) อยู่ที่ 3.53 พันล้านบาท (+462.9% YoY,+43.6% QoQ) แต่หากไม่รวมกำไรพิเศษ 3.22 พันล้านบาท จากการขาย Bayswater และอื่นๆ กำไรปกติของ BTS ใน 4Q63 จะอยู่ที่ 306 ล้านบาท (-73.6% YoY, -77.2% QoQ) สำหรับในปี FY63 กำไรสุทธิอยู่ที่ 8.16 พันล้านบาท (+184.1% YoY) ขณะที่กำไรปกติอยู่ที่ 4.78 พันล้านบาท (+47.0% YoY) โดยโครงสร้างรายได้ของ BTS แบ่งเป็น รถไฟฟ้า 80% สื่อ 15% อสังหาริมทรัพย์ 1% และการบริการ 4%
ประเด็นสำคัญจากผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักในปี FY63 ได้แก่
i) รายได้จากรถไฟฟ้าลดลง 22.4% YoY เนื่องจากมียอดรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองลดลง ทั้งนี้ รฟม. ได้ขยายระยะเวลาก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูออกไปอีก 12 เดือน และสายสีเหลืองอีก 9 เดือน เนื่องจากความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง
ii) รายได้จากธุรกิจสื่อ อสังหาริมทรัพย์ และบริการเพิ่มขึ้น 10.2% 5.8% และ 57.0% YoY ตามลำดับ ปีที่ผ่านมาถือเป็นอีกหนึ่งปีที่โดดเด่นของ VGI โดยทั้งรายได้และกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งคู่ นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจบริการยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเพราะรายได้จากการก่อสร้างโครงการ HHT (จาก 694 ล้านบาท เป็น 1.6 พันล้านบาท)
iii) อัตรากำไรขั้นต้นของ BTS เพิ่มเป็น 16.8% ในปี FY63 จาก 11.7% ใน FY62 จากอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง
iv) รับรู้กำไรพิเศษ (หลังหักภาษี) 2.98 พันล้านบาทใน 4Q63 จากการขายที่ดิน (ผ่าน 50% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และหนี้สินทางการเงินจากการลงทุนใน Bayswater)
v) สัดส่วนการถือหุ้น MACO ลดลงจาก 33.17% เหลือ 26.55% ทำให้สถานะของ MACO เปลี่ยนจากบริษัทย่อยมาเป็นบริษัทร่วม ดังนั้น VGI จึงแยกผลการดำเนินงานของ MACO ออกจากงบรวมของบริษัทตั้งแต่ 4Q63 เป็นต้นมา ซึ่งทำให้เกิดกำไรพิเศษจากการทำธุรกรรมประมาณ 750 ล้านบาท
คงประมาณการกำไรเอาไว้เท่าเดิม โดยคาดผลการดำเนินงานจะแย่สุดใน 1Q64 (เมษายน-มิถุนายน) เรายังคงคาดว่าผลประกอบการของ BTS จะถูกกระทบอย่างหนักจากรายได้ที่ลดลงตามจำนวนผู้โดยสาร และธุรกิจสื่อที่ลดลงเพราะมาตรการคุมโรคระบาดของทางการ อย่างไรก็ตาม ได้รวมผลกระทบของ COVID-19 เข้าไว้ในประมาณการของเราเรียบร้อยแล้วดังนั้นจึงยังคงประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักเอาไว้เท่าเดิม
เรายังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมายปี FY64 ที่ 13.50 บาท
ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าเกินคาด และปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
ที่มา : บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี