เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กรมการปกครอง สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้ชื่อ “ปฏิบัติการม้านิลมังกร” ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาร่วม 130 ราย ในข้อหา
ร่วมกันลักลอบเล่นการพนันโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันชุมนุม ทำกิจกรรม หรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการเเพร่เชื้อโรคอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินบ่อนนี้ชื่อว่า “อาร์เจ” เป็นมีลักษณะคล้ายโกดังเก็บของ มีเนื้อที่ประมาณ 600 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางชุมชน ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า มีบริการรถตู้รับ-ส่งนักพนันจากพัทยา การจับครั้งนี้ กรมการปกครอง ร่วมกับดีเอสไอโดยปกติควรเป็นตำรวจท้องที่ที่นำจับ ทำให้เป็นที่น่าสงสัยว่า ตำรวจท้องที่ไม่รู้หรือว่ามีบ่อนการพนันขนาดใหญ่ในพื้นที่ บางช่วงมีนักพนันเข้า-ออกวันละไม่ต่ำกว่า 500-600 คนทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่คนหนุ่มสาวจนถึงผู้สูงอายุ บ่อนแห่งนี้ตั้งมาอย่างน้อย 2 ปี
แม้จะมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิดร่วม 50 ตัว และมีช่องทางเข้า-ออกหลายทาง แต่ในที่สุดชุดปฏิบัติการม้านิลมังกร สามารถจับกุมได้ทั้งเจ้ามือและนักพนันได้ทั้งหมด เพราะเจ้าหน้าที่ปิดทุกช่องทางเข้า-ออก ก่อนหน้าการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ปลอมตัวเป็นนักพนันหลายสัปดาห์ ทำให้ทราบถึงช่องทางเข้า-ออกทุกช่องทาง
จากการตรวจสอบบัญชีรายรับของบ่อนพนัน พบว่ามีเงินหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่า 12 ล้านบาท ในตู้เซฟพบเงินสดและชิพแลกเงินร่วม 4 ล้านบาท บ่อนการพนันแห่งนี้ ได้กำไรจากนักพนันวันละประมาณ 3-4 แสนบาท ถือว่าเป็นบ่อนที่มีเงินสะพัดมาก
ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า บ่อนการพนันที่มาบตาพุดนี้ เจ้าของน่าจะเป็นเครือข่ายเดียวกับบ่อนอาร์เจในจังหวัดอุบลราชธานี ที่เคยถูกนายสมคิด เชื้อคง สส.อุบลราชธานี นำมาอภิปรายในสภาฯ ว่าทำไมเจ้าหน้าที่บ้านเมืองถึงปล่อยปละละเลย ให้มีการตั้งบ่อนการพนันหลายพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี หลังจากนั้นบ่อนอาร์เจในจังหวัดอุบลราชธานี ได้ปิดตัวลง และเชื่อว่าเครือข่ายบ่อนอาร์เจยังมีอีกทั่วประเทศ
การตั้งบ่อนการพนันขนาดใหญ่ มีนักพนันเข้า-ออกนับร้อยคน ย่อมเป็นที่ทราบโดยปริยายว่า ต้องมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องควรปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่ควรละเลย ทั้งบางแห่งมีการตั้งตู้สลอตแมชชีน เด็กหลายคนหวังได้เงินค่าขนมเพิ่ม จึงเอาเงินมาหยอดตู้กลับต้องสูญเงินค่าขนมที่พ่อแม่ให้มา ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาการลักขโมยในโรงเรียน
ในอดีตที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวไกลเช่นในปัจจุบัน ผู้คนที่อาศัยบริเวณนั้น จะช่วยกันสังเกตถึงความผิดปกติของบ้านคน หรือสถานที่บางแห่ง เช่น คนเข้า-ออกจำนวนมากร้านอาหารละแวกนั้นมีคนซื้ออาหารเป็นจำนวนมากจนผิดปกติ รถจอดหลายคัน และจะแจ้งต่อตำรวจถึงความผิดปกติพร้อม สันนิษฐานว่า อาจมีการลักลอบเล่นการพนันหรือซ่องสุมทำเรื่องผิดกฎหมาย ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ แต่ปัจจุบันมีทั้งโทรศัพท์มือถือ กล้องโทรทัศน์วงจรปิด ผู้กระทำผิดย่อมไหวตัวได้ง่าย ทำให้บางครั้งการจับกุมไม่สำเร็จ นอกจากนี้ผู้ที่เปิดบ่อนมักจะเป็นผู้มีอิทธิพล ผู้คนละแวกใกล้เคียงไม่กล้าแจ้งตำรวจ เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยต่อสวัสดิภาพของตนและครอบครัว
แทบทุกครั้งที่มีการทลายบ่อนการพนัน หลังจากนั้นจะมีข่าวตามมาว่าเด้ง 5 เสือ ที่ประจำอยู่ในสถานีตำรวจในท้องที่ ประกอบไปด้วย ผู้กำกับสถานี รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม รองผู้กำกับการฝ่ายสืบสวนสอบสวน สารวัตรงานป้องกันปราบปราม และสารวัตรงานสืบสวนสอบสวน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ แต่กลับปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดในพื้นที่
บางครั้ง 5 เสือที่ถูกเด้ง อาจถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่อื่น ไม่นานประชาชนจะลืม และไม่ทราบว่า ได้ย้ายไปที่ไหน หรือได้ย้ายกลับมาที่เดิมตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะไม่เป็นข่าวอีก
จากข้อมูลทางสถิติตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รวบรวม พบว่าปีพ.ศ. 2562 คนไทยเล่นการพนันร้อยละ 57หรือประมาณ 30.42 ล้านคน โดยการพนันยอดนิยม 5 อันดับแรกคือ สลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน ไพ่ พนันทายผลฟุตบอลแลไฮโล นอกจากนี้ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 พบว่า ตำรวจได้จับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับการพนันกว่า 35,000 ราย ผู้ต้องหา75,000 คน
ในเรื่องของบุคคลที่อยู่ในสถานที่ที่มีการเล่นพนัน จะถูกสันนิษฐานว่า ผู้นั้นร่วมเล่นการพนันด้วย ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 6 “ผู้ใดอยู่ในวงการเล่นอันขัดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ หรือขัดต่อข้อความในกฎกระทรวง หรือใบอนุญาตซึ่งออกตามพระราชบัญญัตินี้ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเล่นด้วย เว้นแต่ผู้ซึ่งเพียงแต่ดูการเล่นในงานรื่นเริงสาธารณะ หรือในงานนักขัตฤกษ์ หรือในที่สาธารณสถาน”
คำพิพากษาฎีกาที่ 3798/2543 การที่จำเลยอยู่ห่างเพียง 2 ถึง 3 ก้าวตอนที่เจ้าพนักงานตำรวจมาจับกุมคนเล่นการพนันนั้นนับว่าใกล้ชิดกับวงการพนัน ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่าจำเลย เล่นการพนันตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.การพนัน
ในการจับกุมบ่อนการพนัน ได้เคยมี เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกจับกุมอยู่ในกลุ่มคนที่เล่นการพนันด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าจับกุม เป็นเจ้าหน้าที่คนละหน่วยกัน เมื่อคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุม ให้การว่า เหตุที่เข้าไปอยู่ในกลุ่มผู้เล่นการพนันในบ่อน เพราะแฝงตัวเข้าไปเพื่อสืบสวนเรื่องบ่อนการพนันแห่งนี้ และจะได้เตรียมการจับกุมต่อไปในอนาคตอันใกล้ นับว่าพอรับฟังได้ แม้เหตุผลอาจจะดูแปลกไปบ้าง แต่ศาลได้มีคำวินิจฉัยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุมดังกล่าวไม่มีความผิด คดีนี้ไม่ได้ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกา สิ้นสุดเพียงแค่ศาลชั้นต้น จึงสืบค้นข้อมูลเพื่อศึกษาได้ยาก
ความผิดของผู้ที่เล่นการพนันมีเพียงโทษปรับเท่านั้น แต่นักเล่นการพนันมักตกใจกลัว วิ่งหนีจนหัวซุกหัวซุน บางครั้งกระโดดลงไปในน้ำ และลืมว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น จนจมน้ำเสียชีวิต
หากเป็นคนที่มีชื่อเสียงถูกจับกุมในบ่อนการพนัน แม้ค่าปรับจะไม่แพง แต่จะเสียชื่อเสียง เท่ากับถูกลงโทษโดยทางสังคม
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังบ่อนการพนันขนาดใหญ่ บางครั้งอาจเป็นผู้มีอิทธิพล มีบารมี มีหน้ามีตาในสังคม และอยู่ในแวดวงการเมือง การปราบบ่อนการพนัน โดยการจับนักเล่นการพนัน ที่ส่วนมากเป็นผู้ที่มีรายได้น้อย เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น
การแก้ปัญหาบ่อนการพนันที่ต้นเหตุ คงแทบจะเป็นไปไม่ได้ในยุคปัจจุบัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี