1. ทำงบการเงินไปล่วงหน้า 6-12 เดือน
อย่าปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม รายได้หดหาย ก็วางแผนการเงินได้
ลองเขียน รายรับ-รายจ่าย ไปข้างหน้า 6-12 เดือน
แล้วดูสิว่า “ติดลบมั้ย” “ติดลบแค่ไหน”
จะได้เห็นว่าวันพรุ่งนี้ และเดือนต่อๆ ไป ขาด-เหลือ แค่ไหน
“เหลือ” ก็ควบคุมให้ดี รักษาวินัย ควบคุมการใช้จ่าย
“ขาด” ก็อย่าอยู่เฉย อย่าไปหวังใครมาช่วย
รีบลดรายจ่าย หาทางเพิ่มรายได้
2. ลดรายจ่าย (*โดยเฉพาะรายจ่ายคงที่)
ถ้าการเงินติดลบ เหลือบไปมองที่ช่อง “รายจ่าย” ก่อน
เพราะเป็นส่วนที่เราจัดการได้ด้วยตัวเอง
ไม่เหมือนรายได้ ที่ไม่รู้ว่าพยายามแล้ว จะได้ผลแค่ไหน
ตรงช่องรายจ่ายคงที่ หยิบมาพิจารณาทีละรายการ:
รายจ่ายกินอยู่ คุยกับคนในครอบครัว ปรึกษากัน อะไรลดได้ช่วยกันลด
ถ้าเครดิตยังพอได้ อาจหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ กู้มาโปะหนี้ดอกเบี้ยแพง
รวมหนี้เป็นก้อนเดียว ช่วยลดค่าผ่อนต่อเดือน ให้หายใจหายคอคล่องขึ้น
หนี้บ้าน หนี้รถ ถ้าดูแล้วหนัก ผ่อนแล้วเหนื่อย
ลองรีไฟแนนซ์ดู เพื่อให้ผ่อนน้อยลง
หรือเอาเงินที่ผ่อนไปบางส่วนกลับออกมาโปะหนี้บริโภคอื่นๆ (อันนี้ต้องวางแผนให้ดี)
รถยนต์อาจยืดระยะเวลาผ่อนออกไป เพื่อให้ผ่อนน้อยลง
หนี้ตัวไหน ประเมินแล้วว่าผ่อนไม่ไหวจริง
ถ้าเป็นบ้าน กับรถ อาจตัดใจขายไปก่อน
หนี้บริโภค ถ้าผ่อนไม่ไหว อาจขอเจรจากับทางสถาบันการเงิน
ติดต่อขอจ่ายเฉพาะดอกเบี้ย หรือขอหยุดชำระชั่วคราว
(เรื่องการเจรจา ขออาจจะได้หรือไม่ได้ แต่ถ้าไม่เจรจา ไม่ได้แน่ๆ)
ถ้าร้ายแรงถึงขั้นต้องหยุดชำระ ให้วางแผนกันเงินรายได้สำหรับกินให้ท้องอิ่ม
เก็บเงินจากการหยุด ไว้รอเจรจา
ถ้ามีเงินก้อนจะเข้ามาในอนาคต (เช่น ค่าจ้างที่เคยทำงานไว้)
ให้ตัดใช้หนี้ส่วนหนึ่ง กันสำรองไว้ส่วนหนึ่ง
หรือถ้ายังพอผ่อนได้ไม่เดือดร้อน อาจกันสำรองไว้ทั้งหมด
จำไว้ว่า เงินน้อย สติต้องเยอะ
ปัญหาเกิดไปแล้ว อย่ามัวแต่ดราม่า เรียกความสงสารจากคนรอบตัว
ยิ่งคิด ยิ่งพูดถึงมัน ชีวิตจะยิ่งจม
เงยหน้า หันหน้า สู้กับปัญหา
เมื่อไหร่ท้อ คิดสงสารตัวเอง ให้เรียกชื่อตัวเอง เพื่อดึงสติ
กลับมา
ถ้าเหนื่อย นอนพัก ตื่นแล้วมาสู้กันใหม่
3. หารายได้เพิ่ม
พยายามหารายได้จากทุนชีวิตที่สะสมมาก่อน
เอา ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ สิ่งที่เคยทำ สายสัมพันธ์ที่มี
ค้นช่องทางเหล่านี้ ดูว่าอันไหนหยิบจับมา “ช่วยคนอื่น” ได้บ้าง
จำไว้ว่า สิ่งที่จะทำให้เรามีรายได้เพิ่ม
คือ งานที่ช่วยให้คนอื่นได้ประโยชน์ แก้ปัญหาให้คนอื่นได้
เริ่มจากทุนชีวิตที่มี เริ่มต้นเลย การเงินเรากำลังมีปัญหา อย่าลงทุนอะไรแพง
เฟซบุ๊คที่มี เพื่อนๆ ในโซเชียล ฝากเขาช่วยทำตลาด
บอกเขาว่าเราทำอาชีพที่ 2 ทำธุรกิจที่ 3
ช่วยแนะนำงาน หรือแนะนำคนให้หน่อย
อย่าใช้โซเชียลมีเดียเป็นที่บ่นระบาย
จงใช้มันเป็นเครื่องมือทางการตลาด เพื่อหารายได้
อะไรต้องเรียนรู้ใหม่ ก็ต้องอดทน อย่าไปกลัวเหนื่อยแล้วไม่ได้อะไร
โลกนี้ไม่มีอะไร “ฟรี” ดังนั้น “เหนื่อยฟรี” ก็ต้องไม่มีเช่นกัน
4. เงินน้อย รักษาให้ดี อย่าปล่อยให้ใครหลอก
ช่วงเวลาวิกฤติ คนเรามักหน้ามืดตามัว ไอ้พวกชั่วมันก็ชอบใช่ช่วงเวลาแบบนี้หากิน
ชีวิตก็แย่อยู่แล้ว อย่าไปพลาดให้กับพวกแชร์ลูกโซ่ หรือรวยรัด รวยเร็วอีก
มันจะยิ่งซ้ำเติมชีวิตให้แย่ไปกันใหญ่
5. สุดท้าย คือ ยืนหยัด และมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตที่ดี
ไม่มีใครรู้ว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อไหร่ แต่การมานั่งถามตัวเองแบบนั้น
มันไม่มีอะไรดีขึ้น สู้ให้เต็มที่ สู้ให้สุดกำลัง ท้อเมื่อไหร่ก็พักบ้าง
สำคัญ คือ ไม่มีใครตั้งกฎว่า ...
ชีวิตที่เจอวิกฤติการเงิน ห้ามมีความสุข
ดังนั้น จงใช้ชีวิตให้ความสุข ท่ามกลางความทุกข์ให้เป็น
เที่ยวบ้าง พักบ้าง หย่อนใจบ้าง พาลูกเมีย พ่อแม่ไปเที่ยวบ้างก็ได้
เจ็บจนก็หนักอยู่แล้ว อย่าใจร้ายกับชีวิตตัวเองนักเลย
สู้นะครับ! เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังประสบปัญหา
#TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี