เรื่องเงินเป็นเรื่องที่อยู่กับเราตลอดชีวิต ตั้งแต่ตื่นเช้ายันเข้านอนตั้งแต่เกิดจนตาย ดังนั้นเวลาคิดแก้ปัญหาทางการเงิน เราจึงควรคิดและหาวิธีที่แก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน ไม่ทำให้ปัญหานั้นกลับมาอีก
จากการทำงานเรื่องการเงินมาตลอดระยะเวลา 15 ปี ผมมีความเชื่อมั่นใน “ความรู้การเงิน” อย่างมาก เพราะผมได้พิสูจน์ทั้งจากตัวเองและคนที่ผมให้คำปรึกษาแล้วว่า ความรู้นี้สามารถช่วยแก้ปัญหาได้จริง และทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ถ้าเรามีความรู้การเงิน เราจะสามารถแก้ปัญหาของตัวเองได้ โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากใคร ซึ่งจะทำให้เราผ่านพ้นปัญหาได้เร็วกว่า (เพราะไม่ต้องรอใคร) และยั่งยืนกว่า (เพราะสร้างและทำได้ด้วยตัวเอง)
แนวทางในการจัดการปัญหาทางการเงินอย่างยั่งยืน ที่ผมอยากจะทิ้งท้ายไว้ในหนังสือเล่มนี้ คือ แนวทาง 4 ข้อ ดังต่อไปนี้
1) ยึดหลัก “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”
เอาเข้าจริง ปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา มีเราคนเดียวเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาให้ผ่านพ้นได้ การเลือกรอความช่วยเหลือ ในอีกมุมหนึ่ง คือ การหยุดคิด หยุดสู้ หยุดดิ้นรน ซึ่งนั่นเป็นทางของคนที่หมดแล้วซึ่งความเชื่อและความศรัทธาในตัวเอง
ดังนั้น ทางออกแรกที่ใช่ คือ ทางออกที่เราบอกกับสมองของเราว่า “อนาคตการเงินของฉัน ขึ้นอยู่กับตัวฉันเอง” เมื่อคิดเช่นนี้ ประตูแห่งการรอคอยทั้งหมดก็จะหยุดและปิดตาย ความพยายามและความขวนขวายที่จะสู้ด้วยหนึ่งสมองและสมองมือก็จะเริ่มต้นขึ้น
2) ปลดกับดักรายได้ปานกลาง ด้วยรายได้หลายทาง
ประเทศไทยเป็นประเทศที่รายได้ติดกับดักรายได้ปานกลาง รายได้ในแต่ละปีเพิ่มขึ้นช้า เติบโตไม่ทันรายจ่ายและค่าครองชีพ ดังนั้นเราจะไปคอยไปหวังว่าวันหนึ่งรายได้จะเพิ่มขึ้น จนสามารถจัดการกับค่าใช้จ่ายรอบตัวที่พุ่งสูงขึ้นตลอดเวลา รับรองว่าเราไม่มีทางหลุดกับดักชีวิตปานกลางไปได้
วิธีเดียวที่จะทำลายพันธนาการรายได้ปานกลางก็คือ “ทำให้ชีวิตเรามีรายได้หลายทาง” (Multi-Income Stream) โดยเริ่มต้นสร้าง “งานที่ 2อาชีพที่ 3 ธุรกิจที่ 4” จากทุนชีวิตที่สะสมมา
ความรู้ ทักษะและประสบการณ์ เครือข่ายสายสัมพันธ์ และไอเดียเหล่านี้ คือ สิ่งที่จะสามารถแปรเปลี่ยนเป็นรายได้ได้ทั้งหมดอาศัยเพียงหลักคิด “เปลี่ยนคุณค่า ให้กลายเป็น มูลค่า” เท่านั้น
3) พยายามเปลี่ยน “รายได้” เป็น “ทรัพย์สิน”
เมื่อเริ่มมีรายได้หลายทาง ก็อย่าหลงกับรายได้ที่มาก และเพลิดเพลินกับการใช้จ่าย จนลืมสะสม สั่งสม “ความมั่งคั่ง” จำไว้ว่า “ทุกครั้งที่มีรายได้ไม่ว่าจะมาจากทางใด อย่าลืมแบ่ง อย่าลืมกันไว้สร้างที่สิ่งมีมูลค่าเพิ่ม หรือสร้างกระแสเงินสดต่อได้”
หากในทุกช่วงชีวิต (หรือในแต่ละเดือน) เราหมั่นที่จะแปรเปลี่ยนรายได้บางส่วนให้กลายเป็นทรัพย์สินอยู่ตลอด ชีวิตก็จะเริ่มจะสะสมความมั่งคั่ง ผ่อนแรง และทำให้ชีวิตของเราอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นไปอีก
เริ่มต้นจาก “เงินออม” แล้วเปลี่ยนเงินออมไปเป็นทรัพย์สินรูปต่างๆ อาทิ เงินฝาก สลากออมทรัพย์ พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้นสามัญ หุ้นสหกรณ์กองทุนรวม ประกันชีวิต ทองคำ บ้าน ที่ดิน ฯลฯ หรือบางคนอาจเปลี่ยนงานที่ทำเป็นเป็นทรัพย์สิน เช่น ภาพถ่าย งานเขียน คลิปวีดีโอ เพื่อให้งานที่ทำ 1 ครั้ง ใช้งานได้มากกว่าหนึ่งครั้ง อันนี้ก็เป็นทรัพย์สินรูปแบบหนึ่งได้เหมือนกัน
เมื่อมีทรัพย์สิน เราจะเริ่มมีรายได้จากทรัพย์สิน หรือ Passive Income ในรูป ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า และค่าลิขสิทธิ์ ชีวิตที่มีความสุขมีเครื่องผ่อนแรงทางการเงิน ต้องมีรายได้ในรูปแบบนี้ ไม่ใช่มีแต่เงินเดือนและค่าจ้างไปตลอดชีวิต
ดังนั้น ทุกเดือนที่ได้เงินเดือนเข้ามา อย่าลืมจัดสรรเป็นเงินออม และแปลงมันเป็นทรัพย์สินในท้ายที่สุด ทำได้แบบนี้ทุกเดือน รับประกันว่าการเงินจะมั่งคั่งอย่างยั่งยืนแน่นอน
4) เรียนรู้เรื่องการเงิน
ด้วยโลกเศรษฐกิจและเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับชีวิตคนเราในแต่ละช่วง ก็มีเรื่องราวทางการเงินเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอด จึงมีความจำเป็นที่คนเราต้องเรียนรู้เรื่องการเงิน และวางแผนการเงินให้เป็นเพื่อให้ชีวิตสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินและพร้อมรับมือกับเหตุไม่คาดฝันที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ความรู้ทางการเงินที่คนเราทุกคนควรเรียนรู้ เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินและวางแผนชีวิตได้เป็นอย่างดี ประกอบด้วย
• การวางแผนสภาพคล่อง
• การวางแผนใช้สินเชื่อและวางแผนชำระเงินคืน
• การวางแผนจัดการความเสี่ยง
• การวางแผนภาษี
• การวางแผนสู่ความมั่งคั่ง (เกษียณ)
• การวางแผนการออมและการลงทุน
• การลงทุนในทรัพย์สินประเภทต่างๆ
น่าเสียดายที่เรื่องทั้งหมดเหล่านี้ ไม่ได้มีสอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยให้คนไทยได้เรียนกันทุกคน แต่ถึงกระนั้นผมเชื่อว่า ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจจะมีชีวิตการเงินที่ดีอย่างยั่งยืน การหาความรู้เหล่านี้ในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป (ช่องทางหนึ่งคือ ติดตามมันนีโค้ชทางเฟซบุ๊คและยูทูบ The Money Coach)
ทั้งนี้เรื่องใดที่ท่านเรียนรู้และทำได้ดีอยู่แล้ว ก็ขอให้รักษาวินัยและลงมือทำต่อไป เรื่องใดที่ยังทำไม่ได้ ก็ขอให้ยอมรับกับตัวเอง ว่าไม่รู้ และเริ่มต้นศึกษาหาความรู้กันนะครับ
หวังว่าทุกท่านจะได้แนวทางในการปรับปรุงชีวิตทางการเงินให้ดีขึ้น จากทั้ง 4 แนวทางนี้ และขอให้ทุกคนมีสุขภาพการเงินที่ดี (MONEY FITNESS) กันตลอดชีวิตนะครับ
อีกหนึ่งบทความดีๆ จากหนังสือ #เปลี่ยนหนี้เป็นอิสรภาพการเงิน โดยโค้ชหนุ่ม #TheMoneyCoachTH
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี