** อย่างที่ใครหลายคนมักพูดเอาไว้ว่า “ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส”...และในกระทั่งเวลานี้ที่ทั้งโลกได้เผชิญกับการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ทำให้ประชากรโลกติดเชื้อไปแล้วกว่า 63 ล้านราย และคร่าชีวิตประชากรโลกไปมากกว่า1.4 ล้านราย และทำให้เศรษฐกิจโลกเสียหายไปแล้วมากกว่า 9-10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ธุรกิจหลายประเภทไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กบ้างก็ต้องปิดกิจการ บ้างก็ต้องเข้ากระบวนการขอยื่นฟื้นฟูกิจการ แต่ดูเหมือนว่าภายใต้วิกฤติโควิด-19 นี้ จะเป็นโอกาสให้กับ...อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมการแพทย์ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในประเทศไทยเองสำหรับ 2 ธุรกิจนี้ จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ตั้งแต่ปี 2561 ถึงเดือนกันยายน 2563 พบว่า มีนักลงทุนยื่นคำขอรับส่งเสริมการลงทุนในกิจการเทคโนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมการแพทย์นับรวมทุกประเภทกิจการที่อยู่ภายใต้ 2 หมวดนี้ รวม 56,336 ล้านบาท แบ่งเป็นกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ จำนวน 51 โครงการ เงินลงทุน 25,449 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 20 โครงการ อุตสาหกรรมการแพทย์ 129 โครงการ เงินลงทุนรวม 30,887 ล้านบาท
จากการเปิดเผยของนางสาวดวงใจอัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ระบุว่า จากสถิติที่ผ่านมาในอดีตพบว่า กิจการในกลุ่มการแพทย์ มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนเฉลี่ยปีละ 30 กว่าโครงการเท่านั้น แต่ผลพวงจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มียอดการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนใน 2 หมวดธุรกิจนี้ พุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 60 โครงการภายในระยะเวลา 9 เดือนของปี 2563 นี้ และต่อจากนี้ไปตัวเลขของอุตสาหกรรมการแพทย์น่าจะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนในอุตสาหกรรมการแพทย์ของบีโอไอ
“บีโอไอจะมุ่งสนับสนุนกิจการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพและอุตสาหกรรมการแพทย์ เพราะในประเทศไทยยังมีจำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมด้านนี้ไม่มากนัก และเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศรวมถึงรองรับการเป็นเมดิคัลฮับของประเทศไทยด้วย” นางสาวดวงใจ กล่าว
ล่าสุด บีโอไอ ได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมกิจการในอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย และเพื่อสร้างฐานความรู้ให้แก่สังคมไทย คือบริษัทใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด และบริษัท แนบโซลูทจำกัด ซึ่งทั้งสองบริษัท ได้รับ การสนับสนุนจากศูนย์กลางนวัตกรรมแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ CU Innovation Hub บีโอไอในฐานะหน่วยงานให้ส่งเสริมการลงทุน ได้อนุมัติให้แก่ทั้งสองบริษัท โดยทั้งสองบริษัทเป็นของคนไทยจัดตั้งโดยคณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยบีโอไอมีส่วนช่วยส่งเสริมสนับสนุนทั้งยังเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก แต่ประโยชน์ที่เกิดกับประเทศนั้นมากมาย ทั้งในด้านการสร้างองค์ความรู้ การสร้างบุคลากรให้แก่ประเทศและผลงานที่ผลิตขึ้น
สำหรับบริษัทใบยาฯ เป็นกิจการเทคโนโลยีชีวภาพ ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อการผลิตที่ใช้เซลล์พืช เงินลงทุน 3.94 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินลงทุนที่ไม่สูง เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับจากโครงการนี้ และเป็นการผลิตเพื่อส่งออกกว่า 70% โดยโครงการดังกล่าว เป็นการผลิตโปรตีนตัดแต่ง หรือ รีคอมบิแนนท์โปรตีน จากการใช้ใบยาสูบ เพื่อเป็นแหล่งผลิตโปรตีนแบบชั่วคราว ถือเป็น รายแรกในประเทศไทยที่ใช้ใบยาสูบเป็นเจ้าบ้าน หรือที่เรียกว่า Host และเพาะเลี้ยงโปรตีน ตัดแต่งที่มียีนเป้าหมาย จากนั้นจึงสกัดโปรตีนที่ได้ ออกจากใบของต้นยาสูบ และทำให้บริสุทธิ์ เพื่อจำหน่ายเป็นวัตถุดิบตั้งต้นสำหรับอุตสาหกรรมยา และเครื่องสำอาง
ด้านบริษัท แนบโซลูท จำกัด กิจการบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เงินลงทุน 3.46 ล้านบาท ให้บริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ทดสอบประสิทธิภาพชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล(PPE) ในการป้องกันเชื้อไวรัส โดยวิธีทดสอบการทะลุผ่านของเชื้อไวรัส ซึ่งสามารถทำการทดสอบได้ทั้งในรูปแบบตัวอย่างผ้าของชุด PPE หรือทดสอบทั้งชุด PPE และบริการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารตั้งต้นและผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องสำอาง ยา สารสกัด และสารออกฤทธิ์ เป็นต้น โดยใช้เทคนิคเซลล์เพาะเลี้ยง
เชื่อว่าจากบทเรียนของโควิด-19 ที่โลกได้เผชิญ จะกระตุ้นเตือนให้ประชากรของโลกหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น เพื่อให้พร้อมรับมือกับความท้าทายและความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ดังนั้นหากประเทศใดมีอุตสาหกรรมทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพที่เข้มแข็งและเจริญรุดหน้ากว่าประเทศอื่น ก็ไม่ผิดเลยที่จะบอกว่าประเทศนั้นจะเจริญเติบโตได้อย่างยั่งยืนและแข็งแกร่งกว่าประเทศอื่น
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี