nn การระบาดรอบใหม่ของ โควิด-19 ที่มีจุดเริ่มต้นจากตลาดกลางกุ้งในจังหวัดสมุทรสาครช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งนำมาสู่การล็อกดาวน์ชั่วคราว จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ และล็อกดาวน์ ในบางพื้นที่ ของจังหวัดเชียงใหม่ และสุพรรณบุรี ขณะเดียวกันก็ยังพบจำนวนผู้ติดเชื้อที่กระจายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ในหลายจังหวัดของประเทศไทย ทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจที่กำลังจะเกิดขึ้น
ล่าสุด บริษัทศูนย์วิจัยกสิกร ได้ประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจไว้เบื้องต้น บนเงื่อนไขที่ว่าไม่พบคลัสเตอร์ของจำนวนผู้ติดเชื้อในจังหวัดอื่นหรือเหตุการณ์ไม่ลุกลามจนนำมาสู่การล็อกดาวน์เป็นวงกว้าง ภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ได้รับความสูญเสียประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ในกรอบเวลา 1 เดือน โดยความสูญเสียที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าประมงและอาหารทะเลที่อาจมีมูลค่ารวมกันราว 1.3 หมื่นล้านบาท จากความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการชะลอการบริโภคสินค้าประมงและอาหารทะเลในระยะสั้น นอกจากนี้การส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวในระยะถัดไปก็อาจได้รับผลกระทบบ้างโดยเฉพาะในด้านขั้นตอนการตรวจสอบและกระบวนการต่างๆ ที่คู่ค้าอาจหยิบยกให้ผู้ประกอบการไทยมีการดำเนินการเพิ่มเติม ถึงแม้ขณะนี้จะยังไม่มีการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าก็ตาม
ทั้งนี้เพราะว่า จังหวัดสมุทรสาคร เป็นแหล่งวัตถุดิบหลักในธุรกิจการประมงและการแปรรูปสัตว์น้ำ โดยปริมาณสัตว์น้ำสดที่ใช้ในธุรกิจการประมงและการแปรรูปสัตว์น้ำเค็มมีสัดส่วนเกือบ 40% ของทั้งประเทศ (ไม่รวมวัตถุดิบนำเข้า)การล็อกดาวน์จึงส่งผลกระทบต่อกิจกรรมการค้าและการผลิตหมวดนี้พอสมควร
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวยังนับว่าอยู่ในขอบเขตที่ค่อนข้างจำกัด จากการที่ผู้บริโภคและผู้ใช้วัตถุดิบยังมีทางเลือกในการซื้อและจัดหาสินค้าจากแหล่งอื่น อีกทั้งมีประเภทอาหารที่หลากหลายและเพียงพอ ขณะที่โดยปกติประชาชนส่วนใหญ่ก็นิยมบริโภคสินค้าประมงและอาหารทะเลในสัดส่วนที่น้อยกว่าเนื้อสัตว์อย่างหมูและไก่อยู่แล้ว
ส่วนความสูญเสียจากการที่ประชาชนชะลอการทำกิจกรรมในช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ได้แก่ การเลี้ยงสังสรรค์ การจัดกิจกรรมต่างๆ การลดความถี่ในการใช้จ่ายที่ร้านค้าปลีก เป็นต้น (ไม่รวมการเดินทางท่องเที่ยว) ขณะที่ประชาชนอาจมีการจัดหาหรือสำรองสินค้าจำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ อาหารพร้อมปรุง/พร้อมทาน เป็นต้น เพิ่มเติมจากช่วงก่อนหน้านี้บ้าง รวมทั้งคงจะหันไปทำกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แทนการออกมาทำกิจกรรมนอกบ้าน
ขณะที่ความสูญเสียจากการชะลอการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศคิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปประมาณ 1.7 หมื่นล้านบาท หรือราว 30% ของรายได้ท่องเที่ยวในช่วงเวลา 1 เดือน ภายใต้กรณีที่ยังไม่ได้มีประกาศห้ามการเดินทางข้ามจังหวัด โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้แก่ จังหวัดในภาคตะวันตกและภาคกลาง รวมกรุงเทพฯ ตลอดจนจังหวัดรอยต่อชายแดนระหว่างไทยและเมียนมา
นอกจากความสูญเสียทั้ง 3 ด้านแล้ว สถานการณ์โควิด-19 รอบใหม่นี้ ยังอาจสร้างผลกระทบด้านอื่นๆ ที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้อย่างชัดเจนด้วย อาทิ ผลกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการที่ค้าขายสินค้าอื่นๆ ในตลาด จากการที่ผู้คนหลีกเลี่ยงการสัญจร โดยเฉพาะการสัญจรไปในพื้นที่ที่มีการระบาดหรือพบผู้ติดเชื้อ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การประมาณการนี้เป็นกรอบการประเมินเบื้องต้นจนถึง ณ ขณะนี้เท่านั้น ซึ่งคงจะต้องมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า หากการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ สามารถควบคุมได้ และภาครัฐมีมาตรการที่สร้างความมั่นใจให้กลับมาได้อย่างรวดเร็ว ก็มีโอกาสที่มูลค่าความสูญเสียจะต่ำกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้
ขณะเดียวกันศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ จากการระบาดรอบใหม่ของโควิด-19 ไว้เช่นกัน โดยระบุว่า ความสูญเสียทางเศรษฐกิจ อยู่ที่ประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาทต่อวัน หรือ 45,000-60,000 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ ในส่วนของเม็ดเงินภาคเศรษฐกิจในจังหวัดสมุทรสาคร หมุนเวียนเฉลี่ยวันละ 1,000 ล้านบาท ซึ่ง 70% เป็นภาคอุตสาหกรรม แต่ขณะนี้โรงงานยังเปิดดำเนินการตามปกติแม้จะมีต้นทุนเรื่องความเข้มงวดในการดูแลแรงงาน แต่การขนส่งสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาหารยังไม่กระทบมากนัก ทั้งการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก ที่ยังไม่พบว่าหดตัวอย่างแน่ชัด เพราะผู้บริโภคยังคงรับประทานอาหารทะเลตามปกติ เพียงแต่ระมัดระวังเรื่องการปรุงให้สุกมากขึ้น แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยภาพรวมของจังหวัดเฉลี่ยกว่า 300 ล้านบาทต่อวัน หรือคิดเป็น 10,000 ล้านบาทต่อเดือน นอกจากนี้ จากมาตรการเชิงรุกของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อพิจารณาจากอัตรา ผู้ติดเชื้อในจังหวัดนอกพื้นที่ต้นเหตุ ของสมุทรสาครที่ยังอยู่ในหลัก 10 คนเชื่อว่ารัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้ และคลี่คลายภายใน 14 วัน แต่หากตัวเลขในพื้นที่นอกจังหวัดต้นเหตุพุ่งถึงหลัก 50-100 รายขึ้นไปจะกระทบมากขึ้นได้ ดังนั้น คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดกันต่อไป
อย่างที่บอกว่านี่เป็นการประเมินในเบื้องต้นเท่านั้น หากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ และเกิดระบาดขยายวงออกไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลัก 100 คนในแต่ละพื้นที่ จนทำไปสู่การล็อกดาวน์เกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจก็จะมากมายมหาศาลกว่านี้แน่นอน
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี