เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO-World Health Organization) ประกาศให้โคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก หลังจากเชื้อได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็วในทุกภูมิภาคของโลก โดยที่ประเทศไทยได้ประกาศให้เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพ.ร.บ.โรคติดต่ออันตราย พ.ศ.2558 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2558
โควิด-19 มีการแพร่เชื้อระหว่างคนในลักษณะเดียวกับไข้หวัดใหญ่โดยผ่านการติดเชื้อจากละอองเสมหะจากการไอ จาม เข้าทางเยื่อเมือก ได้แก่เยื่อบุดวงตา เยื่อบุจมูก เยื่อบุช่องปาก
การป้องกันของทางสาธารณสุขทั่วโลก เช่น การให้สวมใส่หน้ากากอนามัย การแนะนำให้ล้างมือบ่อย พกเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างทางสังคม การปิดสถานศึกษาโดยให้เรียนระบบออนไลน์แทนการทำงานที่บ้านหรือ Work from Home ของภาครัฐและเอกชน การปิดประเทศห้ามเดินทางเข้า-ออก
แม้ทางสาธารณสุขทั่วโลกพยายามป้องกัน แต่ยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นทุกวัน ข้อมูลล่าสุดในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประมาณ88 ล้านคน เสียชีวิตประมาณ 1.9 ล้านคนมีการคาดการณ์ว่า ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าผู้ติดเชื้อโควิด-19 อาจเข้าสู่90 ล้านคน และผู้เสียชีวิตอาจทะลุ 2 ล้านคน เพราะบางวันมีผู้ติดเชื้อใกล้แตะ 7 แสนคน
วัคซีนจึงเป็นความหวังของทั่วโลกที่จะช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่กลับมีประเด็นเกี่ยวข้องกับทางกฎหมายว่า วัคซีนเหล่านี้ไม่ได้ขอจดทะเบียนสิทธิบัตรยาเพราะหากจดทะเบียนสิทธิบัตรจะต้องใช้เวลากว่า 1 ปี ซึ่งไม่ทันต่อการป้องกันการแพร่ระบาด วัคซีนเหล่านี้จึงไม่ได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรยา
สิทธิบัตรยา เป็นการคุ้มครองโดยกฎหมายให้แก่ผู้ประดิษฐ์หรือคิดค้นทางด้านเวชภัณฑ์ หรือ เคมีภัณฑ์ รวมถึง สูตรใหม่ส่วนผสมใหม่ วิธีการใช้ใหม่ เมื่อบริษัทยาพัฒนาวิจัยยาตัวใหม่ จะนำมายื่นขอรับสิทธิบัตร เพื่อผูกขาดการผลิตและจำหน่าย เป็นเวลา 20 ปี ผู้ผลิตยาสามารถยื่นขอรับสิทธิบัตรยาในประเทศไทย ตามพ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ. 2522แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.สิทธิบัตร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 และฉบับที่ 3 พ.ศ. 2542 เมื่อได้รับสิทธิบัตรจะได้รับความคุ้มครองนับตั้งแต่วันยื่นคำขอจนถึงวันสิ้นอายุสิทธิบัตร
ดังนั้น หากผู้มีความรู้ดำเนินการวิศวกรรมย้อนกลับหรือทบทวนสูตรย้อนกลับเพื่อผลิตวัคซีนตัวเดิมขึ้นเอง ผู้ที่คิดค้นวัคซีนโควิด-19 จะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่กระบวนการดังกล่าว ยังไม่สามารถทำได้โดยง่าย เพราะกว่าจะคิดค้นและผลิตวัคซีนออกมาได้ ต้องใช้เวลานานและยุ่งยาก ต้องผ่านการทดลองหลายขั้นตอน และต้องผ่านการทดลองกับอาสาสมัครเป็นจำนวนมาก นับหลักพันถึงหลักหมื่นราย ว่าก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างไร
แม้วัคซีนโควิด-19 จะไม่ได้รับความคุ้มครองในเรื่องสิทธิบัตรยา แต่ยังได้รับความคุ้มครองในเรื่องความลับทางการค้า ที่ลูกจ้างหรือพนักงานที่ช่วยทำวัคซีนหากนำสูตรลับไปทำเองโดยไม่ได้คิดขึ้นใหม่ ผู้ที่คิดค้นทำวัคซีนสามารถเรียกร้องค่าเสียหายและดำเนินการทางกฎหมายได้
ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีกับสนธิสัญญาต่างประเทศใดๆทางด้านสิทธิบัตร หากผู้ทรงสิทธิบัตรได้สิทธิบัตรในต่างประเทศแต่ไม่ได้มายื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรเพื่อขอรับความคุ้มครองในประเทศไทย ผู้ทรงสิทธิบัตรจะไม่ได้รับความคุ้มครองสิทธิบัตรดังกล่าวในประเทศไทย ดังนั้น ผู้ทรงสิทธิบัตรจึงจำเป็นต้องยื่นขอจดทะเบียนสิทธิบัตรในประเทศไทย
วัคซีนโควิด-19 ที่ผลิตมาใช้ตอนนี้มีหลายสูตรจากหลายบริษัท แต่ละบริษัทมีเทคโนโลยีที่ต่างกัน บริษัทหรือองค์กรที่อยู่แนวหน้า เช่น ไฟเซอร์ (Pfizer)ออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford-AstraZeneca)โมเดอร์นา (Moderna)
ไฟเซอร์ (Pfizer)และโมเดอร์นา (Moderna) ใช้เทคโนโลยี mRNA (Messenger RNA) ที่ใช้ตัวส่งสารเคมีกำกับเซลล์ให้สร้างโปรตีน ที่มีลักษณะคล้ายกับส่วนหนึ่งของเชื้อโคโรนาไวรัส เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจดจำว่า เชื้อลักษณะนี้เป็นเชื้อแปลกปลอมส่วนออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกา (Oxford-AstraZeneca)จะใช้ตัว Spike Protein ของไวรัสถูกฉีดเข้ามาในร่างกายกระตุ้นให้ระบบภูมิต้านทานในร่างกายตอบสนอง เมื่อไวรัสจริงเข้าสู่ร่างกาย
การฉีดวัคซีนต้องฉีด 2 เข็ม ฉีดยี่ห้อไหน ต้องซ้ำยี่ห้อเดิม ไม่เช่นนั้นอาจเกิดผลข้างเคียงอย่างคาดไม่ถึงวัคซีนของไฟเซอร์และออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกาใช้ได้ผลกว่าร้อยละ 90 วัคซีนของจีนที่พัฒนาโดยบริษัท Beijing Biological Products Institute ร่วมกับบริษัท China National Biotec Group (CNBG) ได้ผลร้อยละ 79.34 ส่วนของรัสเซียกำลังทดลองใช้กับอาสาสมัครไม่ครบตามขั้นตอน แต่ได้นำออกมาใช้ก่อนทำให้เกิดความสงสัยในประสิทธิภาพ ทั้งมีข่าวว่า อินเดียและอิหร่านได้ผลิตวัคซีนออกมาใช้แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวเกี่ยวกับการทดลองและประสิทธิภาพในการใช้งาน
วิธีเก็บวัคซีนจะแตกต่างกัน เช่น ไฟเซอร์ต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียส ราคาประมาณเข็มละ 650 บาท ออกซ์ฟอร์ด-แอสตราเซเนกาสามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ราคาประมาณเข็มละ130 บาท โมเดอร์นาต้องเก็บอุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสราคาประมาณเข็มละ 1,000 บาท
เป็นที่สังเกตได้ว่า เมื่อมีการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 จากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่ง จนเกิดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง จะทำให้ลักษณะพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19มีการเพี้ยนไปเรื่อยๆ เชื้อโควิด-19 ได้กลายพันธุ์หลายสายพันธุ์แล้ว ไม่มีใครรับรองได้ว่า วัคซีนจะคุ้มครองได้ทุกกรณีที่เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์
แม้วัคซีนโควิด-19 จะเริ่มออกใช้งานแล้ว จำนวนผู้คนติดเชื้อโควิด ไม่ได้ลดลง กลับเพิ่มมากขึ้น แพทย์ได้ให้ความเห็นว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ได้ผล ต้องฉีดให้ประชากรอย่างน้อยร้อยละ 50 ขึ้นไป
ไม่ว่าผลของวัคซีนโควิด-19 จะเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันว่า วัคซีนที่ฉีดไปแล้ว จะให้ความคุ้มครองนานเท่าไร เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี หรือสั้นกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดังนั้นทางที่ดีที่สุด ประชาชนต้องระมัดระวังและป้องกันตัวเอง
สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี