บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นกลุ่มการพาณิชย์หรือ Commerce Sector โดยคาดว่ากำไรสุทธิรวมใน 4Q63 ของหุ้นกลุ่มฯที่เราดูแลอยู่ (C.P. All PCL (CPALL), Dohome PCL (DOHOME), Siam Global House PCL (GLOBA), Home Product Center PCL (HMPRO) และ Siam Makro PCL (MAKRO) จะอยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท (-20% YoY, +13% QoQ) ทำให้กำไรสุทธิปี 2563 อยู่ที่ 3.12 หมื่นล้านบาท (-17% YoY) กำไรที่ลดลงจะเป็นเพราะมาตรการคุมการระบาดของ COVID-19 (ห้ามเดินทางข้ามจังหวัด, การประกาศ curfew, การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์), ภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ, อัตราการว่างงานที่สูงขึ้น, และห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย เราคาดว่าผลประกอบการของ CPALL และ HMPRO จะแย่สุดในกลุ่ม โดยคาดว่าจะหดตัว 23% YoY และ 19% YoY ตามลำดับ
การบริโภคฟื้นตัวช้าลง
เราเชื่อว่า COVID-19 ที่กลับมาระบาดระลอกใหม่จะทำให้การฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศไทยเนิ่นช้าออกไป แต่ผลกระทบจะไม่กระจายวงกว้าง เรายังคงมองว่าการบริโภคในประเทศไทยจะฟื้นตัวได้หลังจากที่ -6.8% YoY ใน 2Q63 อย่างไรก็ตาม การระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ในประเทศไทยอาจจะทำให้จังหวะการฟื้นตัวช้าออกไป เนื่องจากแผน travel bubble สะดุด ทำให้เราปรับลดประมาณจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2564F ลงจากเดิมที่ 14 ล้านคนเหลือ 8 ล้านคนเนื่องจากการท่องเที่ยวมีน้ำหนักกับเศรษฐกิจไทยมาก (ยอดการใช้จ่ายชาวต่างชาติคิดเป็น 17.6% ของการบริโภครวม) การที่นักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้นตัวช้าอาจจะทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นจาก 2.0% ในเดือนพฤศจิกายน 2563 (สูงขึ้นมาจากค่าเฉลี่ยในอดีตที่ประมาณ 1.0%)ทำให้กำลังซื้อลดลง ผู้บริโภคระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาคเกษตรจะได้รับผลกระทบน้อยเพราะเป็นภาคที่ไม่ได้พึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้แรงหนุนจากรายได้ภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้น (+15% YoY ในเดือนพฤศจิกายน 2563)
ปรับลดกำไรลงประมาณ 2%
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-65 ของกลุ่มฯลง 2% เนื่องจากเราปรับลดประมาณการกำไรของ CPALL ลง 7% และของ HMPRO ลง 2% โดยคาดว่า CPALL จะถูกกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ประมาณ 10% ของ SSSG)ขณะที่คาดว่า HMPRO จะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ (61% ของสาขาทั้งหมดตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุด) โดยรวมแล้วคาดว่าผลประกอบการของกลุ่มฯจะโต 18% YoY ในปี 2564 (นำโดยสินค้าฟุ่มเฟือย) และ 16% YoY ในปี 2565 (นำโดยสินค้าจำเป็น)
เราให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มฯที่ Neutral เนื่องจากคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ สำหรับหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เราชอบ GLOBALมากกว่าเพื่อนเนื่องจากคาดว่าจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 น้อย ขณะที่รายได้ภาคเกษตรกำลังเพิ่มขึ้น และผลประกอบการของบริษัทกำลังเข้าสู่ช่วง peak ตามฤดูกาล สำหรับหุ้นกลุ่มสินค้าจำเป็น เราชอบ MAKRO จากฐานลูกค้าที่หลากหลาย และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล อย่างเช่น โครงการคนละครึ่ง
ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอตัวลง, เกิด disruption จากเทคโนโลยีใหม่,ความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ของทางการ, การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค, ขยายสาขาใหม่ได้น้อยกว่าที่คาดไว้, การหาทำเลเปิดสาขาใหม่
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี