nn เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2020 หดตัวชะลอลงที่ -4.2%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) หลังจากหดตัว - 6.4%ในไตรมาสก่อนหน้า และ ทั้งนี้ในปี 2020 เศรษฐกิจไทย หดตัวที่ -6.1% ต่ำสุดในรอบ 22 ปี นับจากวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1998ที่หดตัวมากถึง -7.6% และเป็นการหดตัว ครั้งแรกของเศรษฐกิจไทยนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลกในปี 2009 ที่เศรษฐกิจไทยหดตัวเล็กน้อยที่ -0.7%
ทั้งนี้ หากลองเข้าไปดูสถานการณ์รายสาขาในไตรมาส 4จะพบว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการที่แท้จริงหดตัว-21.4%YOY ปรับดีขึ้นเล็กน้อยจาก -23.3% YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าที่แท้จริงหดตัวในอัตราที่ลดลงที่ -1.5%YOY หลังจากหดตัวสูงถึง -7.5%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก โดยสินค้าสำคัญที่ฟื้นตัวคือการส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าเกษตร ส่วนการการส่งออกภาคบริการหรือการท่องเที่ยวยังคงหดตัวสูงที่ -74.8%YOY หลังจากหดตัว -73.1%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเข้ามาน้อยมาก ทำให้ภาคท่องเที่ยวซบเซาต่อเนื่อง
มูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการที่แท้จริงหดตัวชะลอลงเหลือ -7.0%YOY หลังจากหดตัวสูงถึง -19.3% YOY ในไตรมาสที่ 3 จากอุปสงค์ในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวและการที่ธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้ง โดยการนำเข้าสินค้าหดตัวชะลอลงที่ -5.6%YOY จากการปรับดีขึ้นของการนำเข้าสินค้าในทุกหมวด ขณะที่การนำเข้าบริการหดตัวชะลอลงที่ -11.9% YOY โดยได้รับอานิสงส์จากการที่ค่าบริการขนส่งสินค้าและค่าบริการธุรกิจอื่นๆ ขยายตัว แม้จะมีมาตรการจำกัดการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ
การใช้จ่ายเพื่อบริโภคภาคเอกชนพลิกกลับมาขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.9%YOY หลังจากหดตัว -0.6%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ อาทิ โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และช็อปดีมีคืน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายซื้อสินค้าไม่คงทนในหมวดอาหารเป็นหลัก (อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ขยายตัว1.8%YOY ขณะที่การใช้จ่ายเพื่อสินค้ากึ่งคงทนและสินค้าคงทนยังคงหดตัวแต่ในอัตราน้อยลงจากไตรมาสก่อนหน้า
การลงทุนภาคเอกชนหดตัวชะลอลงที่ -3.3%YOY จากการหดตัวที่ -10.6%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการลงทุนด้านเครื่องจักรเครื่องมือที่ปรับตัวดีขึ้น (-3.2%YOY จาก -13.9%YOY ในไตรมาสที่ 3/2020) โดยเฉพาะจากการลงทุนในหมวดยานยนต์ ในขณะที่การลงทุนด้านการก่อสร้างกลับมาหดตัวที่ -3.8%YOY จากที่ขยายตัว 0.5%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า การใช้จ่ายภาครัฐ จากงบประมาณยังขยายตัวต่อเนื่องแต่ในอัตราที่ชะลอลง โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐ ที่ขยายตัวเพียง 0.6%YOY เทียบกับไตรมาสก่อนที่ขยายตัวถึง 17.6%YOY ซึ่งเป็นผลมาจากการหดตัวของการลงทุนจากรัฐวิสาหกิจเป็นสำคัญ ขณะที่การลงทุนในส่วนของเงินงบประมาณยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
ด้านการผลิต (Production Approach) การผลิตในหลายสาขาสำคัญหดตัวชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าในขณะที่สาขาการสื่อสาร การเงิน และการเกษตรสามารถขยายตัวได้ การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวในอัตราชะลอลงที่ -0.7%YOY หลังจากหดตัวที่ -5.3%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมวัตถุดิบ (1.8%YOY) และสินค้าทุนและเทคโนโลยี (1.4%YOY) ตามอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นตัว
สาขาการขายส่งและขายปลีกหดตัวในอัตราชะลอลงที่ -3.1%YOY หลังจากหดตัว -6.1%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคบริโภคของครัวเรือนที่ฟื้นตัวและได้รับการสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐโดยสาขาที่พัก โรงแรมและภัตตาคาร หดตัวสูงต่อเนื่องที่ -35.2%YOY ปรับดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากหดตัว -39.3%YOYในไตรมาสก่อนหน้า โดยการปรับตัวที่ดีขึ้นมาจากนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลักที่ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ สาขาการขนส่งยังหดตัวสูงต่อเนื่องที่ -21.1%YOY จากการหดตัวที่ -22.2%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการขนส่งในทุกหมวดยังคงหดตัว โดยเฉพาะการขนส่งทางอากาศ (-68.1%YOY ) จากมาตรการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังคงมีอยู่
อย่างไรก็ดี การผลิตภาคการเกษตรพลิกกลับมาขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.9%YOY ในไตรมาสนี้ หลังจากหดตัวติดต่อกัน 4 ไตรมาส ตามการเพิ่มขึ้นของการผลิตสินค้าเกษตรสำคัญ อาทิ ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การผลิตในบางสาขามีการขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ สาขาข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารที่ขยายตัว 5.7%YOY โดยมาจากการขยายตัวทั้งด้านกิจกรรมโทรคมนาคม บริการสารสนเทศ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ในขณะที่สาขาการเงินและการประกันภัยขยายตัวที่ 3.3%YOY จากปริมาณสินเชื่อรวมของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เพิ่มขึ้น
โดยสรุปก็คือ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 ปี 2020 ที่หดตัว -4.2%YOY นับเป็นการหดตัวที่น้อยกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และสาเหตุที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4 ปรับดีขึ้นมากกว่าคาด เกิดจากการกลับมาขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนที่ส่วนหนึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ขณะที่การฟื้นตัวของภาคส่งออกก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น และยังส่งผลให้การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับการส่งออกปรับตัวดีขึ้นด้วย จึงมีส่วนทำให้การลงทุนเอกชนในภาพรวมหดตัวเพียง-3.3%YOY จากที่หดตัวถึง -10.6%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับปี 2021 เศรษฐกิจไทย หลายสำนักคาดการณ์มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างช้าๆ และยังมีความเสี่ยงหลายประการ โดย EIC คาดไว้ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2021 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 2.2% เป็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ เพราะยังมีข้อจำกัดสำคัญตามการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้า ขณะที่กำลังซื้อในประเทศคาดว่าจะมีการฟื้นตัวช้าเช่นกัน จากการระบาดรอบใหม่ ซ้ำเติมแผลเป็นเศรษฐกิจที่มีอยู่ ได้แก่ การปิดกิจการและการว่างงานที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อกำลังซื้อภาคประชาชน ขณะที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คาดว่าในปี 2564 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้แต่ยังต่ำกว่าระดับศักยภาพ โดยในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์และมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ และสถานการณ์นี้เป็นการซ้ำเติมบางภาคเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้ากว่ากลุ่มอื่น ทำให้การฟื้นตัวมีความแตกต่าง ผลกระทบต่อบางกลุ่มธุรกิจและแรงงาน ขณะที่ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความไม่แน่นอนอีกมาก ทั้งการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และประสิทธิผลและการกระจายวัคซีนป้องกัน COVID-19 ซึ่งจะมีการประเมินการขยายตัวเศรษฐกิจและเผยแพร่อีกครั้งในรายงานนโยบายการเงินฉบับเดือนมีนาคม 2564 ขณะที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังสะดุดในไตรมาส 4/63เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ส่งผลถึงปี 2564 นี้ จึงคาดว่า GDP ปีนี้ จะขยายตัว 2.6% ในกรอบประมาณการที่ 0.0-4.5% แต่ GDP เป็นบวกตามปัจจัยฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า ทั้งนี้ มองว่ามาตรการทางการเงินจะมีส่วนช่วยบรรเทาภาระหนี้สินของทั้งผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนรายย่อย น่าจะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกของปี 2564 หดตัวไม่ลึกเท่ากับวิกฤติโควิด-19 รอบแรก โดยช่วงที่เหลือของปี หากการระบาดไม่รุนแรงขึ้น ไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้ทั้งปีมียอดราว 2-4.5 ล้านคน แต่ยังต้องติดตามความล่าช้าในการกระจายวัคซีน
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ
Economic Intelligence Center (EIC)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) /
ธนาคารแห่งประเทศไทย/ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี