nn ฉบับที่แล้วว่ากันไว้ว่าด้วยเรื่องที่...รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้า สายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (คณะกรรมการตามมาตรา 36) ได้เดินหน้าประมูลหาเอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการดังกล่าว โดย รฟม.ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อร่างประกาศเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการจากผู้เกี่ยวข้องในช่วงวันที่ 1-15 มี.ค.ที่ผ่านมา ผ่านช่องทางออนไลน์…ซึ่งก็ความคิดเห็นและข้อกังขาในเงื่อนไขของ TOR หลายประเด็น เพราะหลายข้อนั้น...ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า...เปิดโอกาสให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ ใช้ดุลพินิจในการประเมินให้คะแนนได้อย่างกว้างขวาง ย่อมทำให้สามารถเพิ่มคะแนนและกดคะแนนเพื่อช่วยเหลือเอกชนกลุ่มใดเป็นการเฉพาะได้…
ฉบับนี้มาว่ากันตอนจบ...โดยหนึ่งในผู้ที่แสดงความเห็นเปิดเผยว่า...สิ่งที่ได้แสดงความเห็นไปยัง รฟม.นั้น ข้อที่ 1.บริษัทรับเหมาเอกชนได้แสดงความเห็นว่า ต้องการเห็นเกณฑ์ประมูลที่เปิดให้เอกชนมีส่วนร่วมด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม และไม่มีการกำหนดเกณฑ์เผื่อประโยชน์แก่เอกชนผู้ยื่นข้อเสนอรายใดรายหนึ่ง โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และต้องยึดถือมติ ครม.ที่ได้อนุมัติหลักการโครงการและงบประมาณ เพื่อไม่ให้โครงการล่าช้า
2. ด้านคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ เห็นว่าเกณฑ์ในการประมูลต้องเปิดกว้างให้มีผู้เข้าแข่งขันได้จำนวนมาก เพื่อเปิดโอกาสให้ รฟม.ได้เฟ้นหาผู้ให้ประโยชน์ต่อรัฐได้จริง ไม่ควรกำหนดคุณสมบัติที่เป็นการกีดกันหรือเอื้อประโยชน์ให้ผู้ยื่นข้อเสนอรายใดรายหนึ่ง
3.ด้านคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอก็ควรเปิดกว้างให้มีผู้ยื่นข้อเสนอหลายราย ไม่ควรกำหนดผลงาน
ผู้รับเหมาหรือผู้ประกอบการภายในประเทศ เนื่องจาก รฟม.มีงบประมาณจ้างที่ปรึกษาเพื่อควบคุม ตรวจสอบการทำงานสูงมากอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการขุดอุโมงค์มากจนเกินเหตุและผู้รับเหมาต่างชาติต่างมีประสบการณ์มากกว่าแต่ไม่กล้ายื่นเพราะข้อกำหนดที่จำกัดแต่ประสบการณ์ในประเทศ
4.เกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือก โดยพิจารณาซองข้อเสนอที่ 2 และ 3 พร้อมกัน เป็นสิ่งไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ไม่โปร่งใส โดย รฟม.และผู้ประเมินสามารถกำหนดผลแพ้ชนะได้ด้วยเทคนิคการให้คะแนนให้แก่ผู้ยื่นประมูลรายที่เสนอผลตอบแทนน้อยกว่า ให้สูงกว่าผู้ยื่นประมูลรายที่มีข้อข้อเสนอทางการเงินสูงกว่าได้
5.การยกเลิกเกณฑ์ประเมินขั้นต่ำทางเทคนิค จากที่กำหนดไว้เดิมจะต้องผ่าน 85% เป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ต้องการกำหนดผลแพ้ชนะได้ด้วยการเทคะแนนทางเทคนิคให้แก่ผู้ยื่นประมูลรายใดรายหนึ่ง และเป็นการกำหนดที่“ย้อนแย้ง” กับสิ่งที่ รฟม.ได้สื่อสารกับสาธารณชนมาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมารฟม.อ้างเรื่องความสำคัญทางเทคนิค แต่กลับเอาเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำทางเทคนิคออก ทั้งที่ควรต้องกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำให้สูงขึ้น
6.การนำข้อเสนอทางเทคนิคซองที่ 2 พิจารณาร่วมกับข้อเสนอทางการเงินซองที่ 3 ด้วยสัดส่วนใดก็แล้วแต่เป็นการเบี่ยงเบนเจตนารมณ์ของการประมูลเพื่อออกแบบ ก่อสร้างและให้บริการเนื่องจากเป็นการแข่งขันการทำเทคนิคทางเอกสาร
แทน ขณะที่การให้คะแนนความน่าเชื่อถือทางการเงิน โดยนำไปอิงกับผู้ให้บริการรายเดิมของ รฟม.และเป็นผู้ร่วมยื่นข้อเสนอด้วย เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเป็นการแสดงเจตนารมณ์ที่ไม่บริสุทธิ์ในการคัดเลือก
ขณะที่ นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรฟม.ได้ออกมาให้ความเห็นต่อโครงการดังกล่าวว่า ที่จริงแล้วเทคนิคการก่อสร้างอุโมงค์ใต้ดินของรถไฟฟ้านั้น เป็นเทคนิคพื้นๆ ที่มีมานานแล้ว บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศที่ไหนก็สามารถทำได้ และหากบริษัทรับเหมาในประเทศไม่มีประสบการณ์เพียงพอก็สามารถดึงต่างประเทศ ทั้งจีน หรือยุโรปเข้ามา ร่วมเป็นพันธมิตรได้อยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เห็นด้วยว่าเรื่องของเทคนิคการก่อสร้างนั้นจำเป็นที่จะต้องมีความยืดหยุ่น เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก จึงควรกำหนดสัญญาที่เปิดกว้างให้ภาครัฐสามารถปรับเปลี่ยนและแก้ไขเทคนิคได้ในส่วนนี้ ส่วนที่ว่า TOR
เอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนบางรายนั้น ตนยังไม่เห็นรายละเอียด แต่ผู้ที่คัดค้านก็น่าจะแสดงออกมาข้อมูลออกมาว่าเอื้อแก่เอกชนรายใด เพราะเขายังไม่ได้เปิดซองประมูลยังไม่รู้ใครเป็นผู้แพ้-ชนะ
“ที่จริง TOR เดิมให้ความสำคัญกับเรื่องเทคนิคอยู่แล้ว ผู้ที่จะผ่านเกณฑ์ต้องได้ คะแนนด้านเทคนิคเกิน 85% แล้วจึงค่อยมาตัดสินด้วยราคา ทำให้เกิดความโปร่งใส แต่ของใหม่นั้น รฟม.กลับเอามาปนกันกับการเงิน เปิดซองพร้อมกันแล้วใช้ดุลยพินิจให้คะแนน ทำให้คณะกก.กำหนดตัวคนที่จะชนะได้เลย”
หมุนตามทุน...เห็นว่า...การยกเลิกการประมูลครั้งแรก...ไม่ใช่จุดตาย....แต่กลับมาปรับแก้เงื่อนไข TOR ใหม่ออกมาแบบนี้...ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้ รฟม. งานเข้าจนถึงวันนี้
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี