สัปดาห์นี้ผมหยิบคำถามที่ตอบเป็นประจำในช่วงนี้ก็คือ ปัญหาเกี่ยวกับหนี้และสภาพคล่อง จากอีเมล moneycoach4thai@gmail.com มาเรียบเรียงให้คุณผู้อ่านได้อ่านกัน เผื่อเป็นแนวทางในการจัดการหนี้ของตัวเองนะครับ
คำถามที่ 1: แฟนเริ่มผ่อนสินเชื่อไม่ไหว แก้ปัญหายังไงดี?
แฟนมีภาระผ่อนต่อเดือนเยอะมาก รายได้ต่อเดือน 25,000 บาท ผ่อนบ้านเดือนละ 8,300 บาท (หนี้คงค้าง1.7 ล้าน) ผ่อนรถยนต์ 10,000 บาท (ยอดคงเหลือ 600,000)ผ่อนหนี้บัตรกดเงินสด เดือนละ 5,000 บาท
ยังผ่อนหนี้ทุกรายการปกติ ไม่เคยชำระล่าช้า แต่อยากลดภาระหนี้ เลยคิดจะขายบ้าน ต้องทำยังไง เราติดต่อธนาคารให้เขารับซื้อบ้านเราในราคาเท่ากับหนี้คงเหลือได้หรือเปล่า
------------------------------------------------
โค้ชหนุ่ม:
สิ่งแรกที่ผมตกใจ คือ สถาบันการเงินปล่อยกู้สินเชื่อทั้งบ้านและรถยนต์ให้แฟนเราได้ยังไงครับ ภาระหนักเกินตัวไปมาก แต่เอาเถอะครับ ปัญหาเกิดแล้ว แก้ปัญหากันดีกว่า
สำหรับกรณีที่จะขายบ้านให้ธนาคาร ต้องบอกว่าธนาคารไม่รับซื้อนะครับ เขาให้เรายืมเงินซื้อบ้าน โดยมีบ้านเราเป็นทรัพย์สินที่จดจำนองไว้กับเค้า (เขายึดขายทอดตลาดอยู่แล้ว ถ้าเราไม่จ่าย) เขาไม่อยากได้บ้านเราครับ เขาอยากได้เงินเขาคืน พร้อมดอกเบี้ย
แนะนำให้ติดต่อหานายหน้าครับ หาสัก 2-3 ราย คุยที่เป็นนายหน้าในพื้นที่โซนบ้านของเรา แล้วลองพูดคุยดูว่า บ้านลักษณะของเรา โซนที่อยู่อาศัยของเรา ราคาตลาดเขาขายกันอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ช่วงนี้ตลาดบ้านราคาต่ำกว่า 3 บ้าน อาจจะขายยากนิดนึง เพราะกำลังซื้อหายไปพอสมควร แต่ยังไงก็ควรลองดูครับ ถ้าสภาพคล่องเป็นปัญหามาก
ถ้าราคาขายครอบคลุมภาระหนี้คงค้างทั้งหมด รวมถึงค่าธรรมเนียมในการขายบ้าน (สอบถามโบรกเกอร์เลย) และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องผ่อนบ้านตอนนี้ ก็ขายได้ครับ จะได้เอาสภาพคล่องเรากลับคืนมา
อีกทางที่ทำได้ หากภาระผ่อนเยอะเกินไป คือ เจรจาลดยอดผ่อนชั่วคราว หรือลองรีไฟแนนซ์ดูครับ ทั้งบ้านและรถยนต์สามารถรีไฟแนนซ์ให้ยอดผ่อนต่ำลงได้ครับ (ถ้าเงินตึงมาก อาจเจรจาผ่อนเฉพาะดอกเบี้ยดู ยังไงลองทำตัวเลขในงบการเงินดูครับ)
เรื่องการเจรจากับธนาคารอาจติดต่อกับธนาคารโดยตรง หรือติดต่อผ่าน “ทางด่วนแก้หนี้” https://www.1213.or.th/App/DebtCase ได้ครับ
*ทางด่วนแก้หนี้ เหมาะสำหรับคนเป็นหนี้ทุกประเภทที่ยังไม่ติดปัญหาหนี้เสีย (ยังผ่อนปกติ หรือขาดผ่อนชำระไม่เกิน 3 เดือน)
ลองพยายามตามนี้ดูนะครับ
------------------------------------------------
คำถามที่ 2:
สวัสดีค่ะ หนูตกงานตั้งแต่โควิดรอบที่แล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังหางานทำไม่ได้
มีหนี้เสียบัตรเครดิต 3 รายการ หนี้เสียสินเชื่อบุคคล 3 รายการ ตั้งแต่ปี 2563
รถติดไฟแนนซ์ เหลือส่งอีกไม่ถึง 10 งวด แต่กำลังจะผ่อนไม่ไหวค่ะและน่าจะขาดส่งอีกไม่นาน
ตอนนี้มีหนี้บางรายการรอขึ้นศาล 10 มิ.ย.นี้ค่ะ
หนี้บางรายการติดต่อไป เขาไม่เคยติดต่อเรากลับมาเลย
ช่วยด้วยค่ะโค้ช
------------------------------------------------
โค้ชหนุ่ม:
หนี้ในส่วนบัตรกดเงินสดและสินเชื่อบุคคล ที่เป็นหนี้เสียไปแล้ว ติดต่อ คลินิกแก้หนี้ ด่วนเลยครับ
ตามลิงค์นี้ https://www.debtclinicbysam.com/
เวลาติดต่อเรื่องปัญหาหนี้ ถ้าเราติดต่อไปแล้วเขาไม่ติดต่อกลับมา เป็นหน้าที่เราที่ต้องพยายาม ติดตาม หาหนทางเพิ่มนะครับ ถ้าไม่รู้จะติดต่อยังไง ผมว่าไปที่สาขาธนาคารง่ายที่สุด อย่าปล่อยไว้ เพราะผลเสียจะตกกับเราเอง
ส่วนกรณีรถยนต์ ติดต่อสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้เราเลยครับ ขอเจรจาพักชำระ หรือขอลดการผ่อนหนี้ เหลืออีกไม่ถึง 10 งวด อย่าปล่อยให้ยึดเว้นแต่ไม่ไหวแล้วจริงๆ และไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้ประกอบอาชีพ ก็ขายเลยครับ ขับเข้าเต็นท์รถตีราคาเลย เปรียบเทียบราคากับหนี้ที่มีดู
ส่วนหมายศาลวันที่ 10 มิ.ย. ให้ไปตามนัดครับ แล้วก็เตรียมเจรจาด้วยนะ ว่าจะผ่อนจ่ายเขาได้แค่ไหน (แต่ทั้งนี้ถ้าเราโยกหนี้ไปคลินิกแก้หนี้ได้ก่อนก็จบนะครับ ผ่อนกับทางคลีนิกแก้หนี้แทน)
อีกเรื่องนะครับ ผ่านมา 1 ปีแล้ว อะไรที่พอทำรายได้ได้ ก็ทำเถอะครับทำให้พอมีรายได้เข้ามาบ้าง ไม่งั้นคุณไม่มีทางออกจากปัญหาได้เลยนะ เพราะหนี้ต่อให้เจรจาต่อรองยังไง ก็ต้องใช้คืนเขาอยู่ดีครับ (แม้จะมีส่วนลดให้ก็ตาม)
เป็นกำลังใจให้นะครับ
#โค้ชหนุ่ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี