■■ ตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวและรายงานผ่านทางหลายช่องทางทั้งสื่อทีวี...สื่อออนไลน์ (เว็บไซต์ข่าวชื่อดัง)...เกี่ยวกับเรื่องราวของ พิธีกรข่าวสาวรายหนึ่ง (ททบ.5)...ที่พยายามจะต่อสู้เพื่อรักษาสมบัติชิ้นสำคัญที่สุดในชีวิตนั่นก็คือบ้านที่อยู่อาศัยนั่นเอง...โดยเธอมองว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง (ท็อป 5 ของระบบ) ซึ่งเป็นธนาคารที่เธอเป็นลูกค้าสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารรายนี้....!! เรื่องของเรื่องคือว่า...พิธีกรสาวรายนี้ผ่อนบ้านกับธนาคารพาณิชย์แห่งนี้มาได้ 4 ปี...และมีช่วงจังหวะหนึ่งที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจึงได้ค้างชำระค่างวด 2 เดือน จนมีใบแจ้งหนี้จากธนาคารให้ไปจ่ายเงินค่างวดที่ค้าง 18,500 บาท...แต่เมื่อลูกค้ารายนี้นำเงินไปชำระซึ่งเธอยืนยันว่ายังไม่เกินกำหนดชำระ...ธนาคารกลับบอกว่าแบงก์ปิดระบบไปแล้วไม่สามารถชำระค่าบ้านได้...ลูกค้ารายนี้จึงเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานใหญ่ของธนาคาร...ซึ่งธนาคารก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายลงมาคุยด้วย...และได้รีบคำตอบว่าได้ขายสินทรัพย์รายการนี้ให้กับทาง บริษัทบริหารสินทรัพย์ไปแล้ว...เมื่อลูกค้าโต้แย้งว่าค้างชำระค่างวดเพียง 2-3 เดือนเหตุใดจึงขายทรัพย์ได้ด้วยหรือ...ซึ่งฝ่ายกฎหมายของธนาคารรายนี้ก็ตอบว่า...ค้างชำระแค่นี้ก็สามารถขายทรัพย์ได้โดยไม่ต้องบอกลูกหนี้ได้...เมื่อลูกค้าพยายามขอร้องให้ดึงเรื่องกลับออกมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ เจ้าหน้าที่ธนาคารรายนี้ก็บอกว่าต้องหาเงินมาชำระ 90,000 บาท ภายใน 1 เดือนเสียก่อน
...เมื่อลูกค้าไม่สามารถหาเงินจำนวนดังกล่าวมาชำระได้...เรื่องก็ไม่อยู่ที่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ และได้รับการติดต่อมาจากบริษัทบริหารสินทรัพย์ว่าต้องหาเงินมาปิดยอดที่ค้าง 250,000 บาท...แน่นอนว่าเงิน 90,000 บาท ยังไม่สามารถหาได้แล้วเงิน 250,000 บาท จะหามาได้อย่างไร...ในที่สุดเรื่องก็เข้าสู่กระบวนของศาล...เมื่อไม่สามารถชำระเงินในจำนวน 250,000 บาทได้ จึงถูกตัดสินว่า...ถูกยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด และให้ชดใช้ดอกเบี้ยแก่ธนาคารเพิ่มเติมด้วย...รวมเป็นเงินที่ต้องจ่ายตามคำพิพากษา 2,876,000 บาท...จากยอดชำระคงค้างที่ก่อนจะเกิดเรื่อง 2,300,000 บาท...!! เมื่อลูกค้าเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็พยายามหาทางต่อสู้มาตลอด 4 ปี...แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้อีกแล้ว...ในที่สุดทรัพย์ที่ก็จะถูกประมูลขายทอดตลาดภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้...ซึ่งเท่าที่ทราบในการประมูลขายทอดตลาดของกรมบังคับคดีครั้งนี้ (12 พ.ค.) มีถึง 30,000 รายการ....นั่นแปลว่าจะมีประชนชนกว่า 3 หมื่นครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัย ในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่อยู่ในขั้นวิกฤติ...!! เรื่องการประมูลทรัพย์ในราคาที่ไม่เป็นธรรมกับลูกหนี้เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มทุนนั้นสังคมรับรู้มานานแต่ฝ่ายกำกับกิจการด้านเงินของไทยก็มิได้ทำอะไร (คงจะได้มาตีแผ่กันต่อจากนี้)
...!! คงหายสงสัยกันนะครับว่าในภาวะที่เศรษฐกิจทรุดหนักแบบนี้...แต่ทำไมในไตรมาสแรกของปีนี้ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบยังสามารถมีกำไรได้...!! ฝากถึง คุณเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)...ว่าสินเชื่อที่มีหลักประกันแบบนี้ทำไมเข้าโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ของแบงก์ชาติไม่ได้หรือครับ...ทำไมทำแต่สินเชื่อประเภทไม่มีหลักประกัน...ฝากถึงคุณผยงศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย...ในภาวะเช่นนี้...ระบบธนาคารพาณิชย์จะเอื้อเฟื้อเห็นอกเห็นใจประชาชนคนไทยให้มากกว่านี้มิได้หรือไงกัน...???? ■■
อนันตเดช พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี