ช่วงนี้การลงทุนในหุ้นกลับมาคึกคัก หลายคนที่ไม่เคยสนใจหุ้นมาก่อน เริ่มหันมาสนใจอยากลงทุนกันเยอะ คำถามสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่มีเข้ามาตลอด บทความวันนี้ผมเลยอยากหยิบประเด็นที่นักลงทุนมือใหม่ต้องเข้าใจ เล่าเป็นเกร็ดความรู้อย่างง่าย ก่อนเลือกซื้อหุ้นเพื่อลงทุน ดังนี้
1.“หุ้น คือ หุ้นส่วน”
การซื้อหุ้นก็คือ การลงทุนในความเป็นหุ้นส่วน เป็นเจ้าของและมีสิทธิในกิจการตามสัดส่วนหุ้นที่ถือ ถ้าหากกิจการดีมีกำไรต่อเนื่องเราก็ได้ส่วนแบ่งกำไรด้วย แต่ถ้ากิจการขาดทุน เราก็จะได้รับผลขาดทุนตามไปด้วยเช่นกัน
ความรู้สึกนี้อยากให้เกิดกับผู้ลงทุนทุกคนเลยครับ ลงทุนหุ้นไม่ควรรู้แค่ว่าเราถือหุ้นอะไร แต่ควรรู้จักกิจการที่เราลงทุน แบบที่เจ้าของกิจการรู้เลยครับ จะเป็นประโยชน์กับการลงทุนอย่างมาก
2.ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้น
การลงทุนในหุ้นให้ผลตอบแทน 2 รูปแบบ คือ
2.1 เงินปันผล (Dividend) ซึ่งคือกำไรที่แบ่งให้กับผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนหุ้นที่ถือครอง ถ้าปีไหนบริษัทมีกำไรก็มีโอกาสที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับปันผลแต่ถ้าหากขาดทุนก็จะไม่มีปันผลให้
2.2 กำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น (Capital Gain) คือการที่ราคาหุ้นที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการดำเนินกิจการของหุ้นที่เราซื้อนั่นแหละ เพราะถ้ากิจการดี ขายดีขึ้นทุกปี กำไรมากขึ้นทุกปี ปันผลต่อเนื่องทุกปี ก็รับประกันได้เลยว่า จะมีคนต้องการเป็นเจ้าของหุ้นนี้มาก และเมื่อมีความต้องการเป็นเจ้าของมากก็จะสะท้อนออกมาในรูปของราคาที่เพิ่มขึ้น
แต่ก็ใช่ว่าซื้อหุ้นแล้วจะมีแต่กำไร เพราะหากกิจการไม่ดี หุ้นก็จะถูกตีราคาต่ำลงและทำให้เราขาดทุนได้ รวมไปถึงกรณีที่เกิดความผันผวนจากข่าวหรือประเด็นที่มีผลกระทบ ก็อาจทำให้ราคาหุ้นขึ้นลงในระยะสั้นๆ ได้ ซึ่งผู้ที่จะลงทุนต้องทำความเข้าใจในจุดนี้ให้ดีก่อนลงทุน
3.หลักการลงทุนหุ้น
ราคาหุ้นที่เราลงทุนอาจมีความผันผวนได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวราคาหุ้นจะสะท้อนผลการดำเนินการของกิจการ ดังนั้น หลักการเลือกหุ้นเพื่อลงทุนอย่างง่าย ก็คือ “ซื้อหุ้นดี ในราคาที่เหมาะสม” และถือครองไว้ตราบเท่าที่ธุรกิจยังดีอยู่ (ฟังแล้วดูกำปั้นทุบดิน ไม่เหมือนเป็นคำแนะนำเลยใช่มั้ยครับ)
“หุ้นดี” อาจวัดเบื้องต้นได้จาก หุ้นที่มียอดขายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น กำไรเพิ่มขึ้น และมีปันผลสม่ำเสมอทุกปี (ในช่วงโควิดอาจหาหุ้นแบบนี้ได้ยากหน่อย เพราะหลายธุรกิจรายได้ลดลง แต่ก็พอคาดการณ์ได้) ซึ่งเราสามารถตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้ของกิจการได้จากงบการเงินย้อนหลัง นอกจากนี้อาจยังต้องพิจารณาถึงข้อมูลด้านการเงินอื่นๆ และแนวโน้มการเติบโตในอนาคตประกอบกันด้วย
“ราคาที่เหมาะสม” อาจพิจารณารายกิจการ จากความสามารถในการทำกำไรในอนาคต หุ้นที่คาดว่าจะทำกำไรได้มาก ก็อาจซื้อในราคาที่สูงได้ (ตรงนี้ต้องอาศัยการคำนวณพอสมควร) หรืออีกวิธีหนึ่ง ราคาที่เหมาะสมอาจใช้วิธีการเปรียบเทียบ ราคาซื้อต่อกำไรต่อหุ้น (Price per Earning Ratio, PE) ก็พอจะเป็นการเปรียบเทียบหุ้นถูกหุ้นแพงได้
4.ความรู้ที่ต้องมี
สำหรับคนที่เริ่มต้นศึกษาการลงทุนในหุ้น ผมแนะนำเลยครับว่าควรลงทุนในความรู้ก่อนที่จะลงทุนเงินซื้อหุ้นที่คุณสนใจ โดยความรู้ที่คุณควรจะมี ได้แก่
(ก) ความรู้เกี่ยวกับการลงทุน ต้องประเมินเชิงคุณภาพได้ว่า ธุรกิจ (หุ้น) ที่เราสนใจ ดีหรือไม่อย่างไร และราคาหุ้นที่เหมาะสมแก่การซื้อลงทุน ควรเป็นเท่าไหร่
(ข) ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่จะลงทุน อาทิ หุ้นที่เราจะลงทุนมีกิจการอะไรอยู่บ้าง โมเดลการสร้างรายได้ของแต่ละกิจการเป็นอย่างไร (วิธีทำเงิน) ธุรกิจมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันหรือไม่ ความแข็งแกร่งทางการเงินเป็นอย่างไร พร้อมรับความเสี่ยงในแต่ละด้านทั้งทางการเมืองเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีอย่างไร
5.วิธีการเริ่มต้นลงทุน
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนคงจะรู้สึก จะซื้อหุ้นสักตัว ทำไมมันอยากจัง (วะ) เอาเข้าจริงแล้วไม่ได้ยากหรอกครับ เพียงแต่คนไม่เคยลงทุน ก็อาจจะไม่คุ้นชินกับกระบวนการเลือกหุ้นเพื่อลงทุน ทั้งนี้สำหรับผู้เริ่มต้น ผมมีคำแนะนำดังนี้ครับ
(ก) หาความรู้จากหนังสือ ผมแนะนำหนังสือ “นั่งตกปลากับบัฟเฟตต์” และ “เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืน” (หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป) สองเล่มนี้อ่านง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น
(ข) หาความรู้จากอินเทอร์เน็ต ผมแนะนำห้องเรียนนักลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (เข้า Google พิมพ์คำนี้ค้นหาเลยครับ)
(ค) เริ่มต้นศึกษาหุ้นจากธุรกิจใกล้ตัว เลือกที่กินที่ใช้เป็นประจำ เห็นว่าเขาขายดี มีคนนิยมซื้อสินค้าและบริการเข้าเยอะ ลองเสิร์ชดูเลยครับว่า บริษัทเข้าอยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่า การเริ่มจากธุรกิจใกล้ตัวช่วยให้เราวิเคราะห์หุ้นได้ง่ายขึ้น
(ง) เริ่มลงทุนด้วยเงินก้อนเล็ก อ่านหนังสือดูวีดีโอลงทุนมากแค่ไหน ก็ลงทุนไม่เป็นหรอกครับ ถ้าไม่เริ่มซื้อหุ้นสักที แต่สำหรับมือใหม่อย่าใจร้อน ใช้เงินเย็นๆ ก้อนเล็กๆ เริ่มลงทุนทีละน้อย จำกัดความเสี่ยงไว้สักหน่อย แล้วค่อยๆ ทยอยลงทุนเพิ่มตามความรู้ที่เพิ่มขึ้นหรืออาจใช้วิธีการออมหุ้น เพื่อลงทุนทีละน้อยสม่ำเสมอก็ได้ (เอาไว้วันหลังจะมาเล่าวิธีการให้ฟังกัน)
ก็หวังว่าบทความในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจหุ้น และอยากที่จะเริ่มต้นลงทุนบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเน้นย้ำก็คือ การลงทุนไม่ใช่เรื่องง่ายและมีความเสี่ยง แต่ก็เป็นเรื่องที่เรียนรู้ได้ และความรู้จะช่วยจำกัดความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนที่ดีขึ้นให้กับเราได้
ดังนั้น ก่อนลงทุนเงิน อย่าลืมลงทุนเวลาหาความรู้นะครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี