บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัทศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT โดยลดคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาเหมาะสมใหม่ 46.75 บาท/ หุ้น แม้ผลกระทบการปิดโรงงานจากเหตุติดเชื้อโควิด-19 ในโรงงาน 2 แห่ง จะส่งผลต่อกำลังการผลิตเพียง 2% ปีนี้ แต่ทว่าโมเมนตัมกำไรปกติไตรมาส 2น่าจะทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ 1 หมื่นล้านบาท จากทิศทางราคาถุงมือยางที่เริ่มปรับตัวลงในเดือนมิถุนายนจากอุปสงค์ที่เริ่มชะลอความร้อนแรง ขณะที่ Valuation กลุ่มผู้ผลิตถุงมือยางในมาเลเซียก็ถอยลงมา -5.8% เป็น P/E 5.4 เท่าแล้ว ทำให้ราคาเหมาะสมซึ่งอิงกับค่าเฉลี่ยดังกล่าว จึงเหลือ upside เพียง 7.4% แต่ก็ยังให้ dividend yield สูง 10% STGT จึงเหมาะกับการถือรับปันผล
ราคาถุงมือยางกำลังเริ่มอ่อนตัวลง
การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 กำลังเร่งตัวขึ้นทั่วโลก โดยประชากรที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส มีราว 895 ล้านคนคิดเป็น 11.5% ของประชากรโลก ประเทศที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ถุงมือยางโลก ล้วนมีพัฒนาการที่ดี เช่น สหรัฐ (ฉีดแล้ว 51.3%) ยุโรป (34.1%) เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้นำไปสู่ภาวะที่อุปสงค์ถุงมือยางชะลอความร้อนแรงลงสอดคล้องกับคาดการณ์ของผู้บริหาร STGT ว่า ราคาถุงมือยางเดือนมิถุนายนกำลังเริ่มลดลง 10-15% เมื่อผนวกกับเป้าส่งมอบไตรมาส 2/64 ที่ 7,000 ล้านชิ้น +4.3% QoQ และเราคาดราคาขายเฉลี่ยทรงตัวที่ 76 เหรียญ/ 1,000 ชิ้น ผนวกราคาน้ำยางสดที่ปรับตัวขึ้น +6.5% QoQ เราคาด STGT จะมีกำไรปกติ 1.02 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากไตรมาสก่อน ทว่ายังโตแรง +873.8% YoY
ผลกระทบจากติดเชื้อโควิด-19 ราว 2%
สัปดาห์ก่อนโรงงาน 2 แห่ง ใน จ.ตรัง และ จ.สุราษฎร์ธานีกำลังการผลิตรวม 43 ล้านชิ้น/ วัน หรือ 48% พบการติดเชื้อของพนักงาน ทำให้โรงงาน จ.สุราษฎร์ธานี ต้องปิดไป 9 วัน ส่วนโรงงานจ.ตรัง คาดว่าจะกลับมาเปิดได้บางส่วนราว 16 มิถุนายนหรือต้องปิดไป 19 วัน หากเป็นไปตามแผน กำลังการผลิตปีนี้จะสูญเสียไปราว 637 ล้านชิ้น หรือเพียง 2% ของกำลังการผลิตปัจจุบัน 32,619 ล้านชิ้น/ ปีมองว่าการชดเชยจากโรงงานแห่งอื่นเข้ามาชดเชยได้ไม่ยาก
ดึงเป้าลงเป็น 46.75 บาท
เรายังคงประมาณการกำไร และสมมุติฐานราคาถุงมือยางที่คาดจะเริ่มอ่อนตัวลงใน 2H64 ทำให้ค่าเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 53 เหรียญ/1,000 ชิ้น +51.7% YoY (vs 1Q64 ที่ 76.4 เหรียญ)จากนั้นจะหดตัว -30.0% YoYและ -20.0% YoY ในปี 2565/66ตามลำดับ ขณะที่ปัจจุบัน P/E21F เฉลี่ยของกลุ่มผู้ผลิตถุงมือยางในมาเลเซียทั้ง 4 เจ้าหลักซึ่งเราใช้เป็นจุดอ้างอิง ล่าสุดได้ลดลงเหลือ 5.4 เท่า ลดลง -5.8% จากการประเมินครั้งก่อนส่งผลให้ราคาเหมาะสมปี 2564 ถูกปรับลงในอัตราเดียวกันเหลือ 46.75 บาท/ หุ้น
ที่มา : บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี