บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นธนาคารกรุงไทยหรือ KTB เมื่อพิจารณาถึงผลดีและต้นทุนจากการเติบโตตามนโยบายรัฐบาลแล้ว เราคิดว่าผลดีมีน้ำหนักมากกว่า โดย KTB ได้ขยายสินเชื่อภาครัฐเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ก่อน COVID ระบาดในช่วงต้นปี 2562 สินเชื่อภาครัฐของธนาคารโตถึง 45% CAGR ในช่วงเวลา 3 ปี และคิดเป็น 22%ของพอร์ตสินเชื่อธนาคาร เพิ่มขึ้นจาก 8% ในปี 2562 ทั้งนี้ ธนาคารรุกปล่อยสินเชื่อกลุ่มนี้ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โรคระบาด ซึ่งส่งผลให้ yield สินเชื่อของ KTB ลดลงเร็วกว่าธนาคารอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตาม KTB ยังได้อานิสงส์จากการที่เผชิญแรงกดดันจาก NPL น้อยกว่า, credit cost น้อยกว่า และสัดส่วน NPL coverage สูงกว่า
ได้อานิสงจาก big data
ธุรกิจหลักของ KTB ผูกติดกับรัฐบาลอย่างแนบแน่นมากขึ้นจะทำให้ธนาคารได้ประโยชน์จากความได้เปรียบในแง่ของ big dataโดย KTB ได้ช่วยเหลือรัฐบาลในการดำเนินนโยบายหลายๆ นโยบายโดยใช้แอปมือถือสำหรับการชำระเงินดิจิทัลผ่าน e-wallets และนโยบายการรักษาพยาบาลแบบรวมศูนย์ ปัจจุบัน KTB บริหารจัดการข้อมูล big data ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จะทำให้ธนาคารขยาย digital banking platform และเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ ได้
Credit cost ลดลง
การที่ธนาคารขยายสินเชื่อความเสี่ยงต่ำ รวมถึงสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่อภาครัฐประเภทที่ yield ต่ำ กดดัน yield สินเชื่อของธนาคารให้ลดลง 50bps ในปี 2564 ซึ่งมากกว่า NIM เฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ลดลงเพียง 12bps อย่างไรก็ตาม credit cost ของ KTB ลดลงประมาณ 70bps เกินพอที่จะชดเชย NIM ที่ลดลง และหนุนให้กำไรในปี 2564 เพิ่มขึ้น 29% YoY เรามองว่า Credit cost ที่ประมาณ 130bps ในปี 2564 ทำให้ธนาคารมีโอกาสที่จะลด credit cost ลงได้เพิ่มอีกในปี 2565/66 เพราะ credit cost ที่ระดับนี้ทำให้สำรองหนี้เสียส่วนเกินเพิ่ม 2 หมื่นล้านบาท หากโครงสร้างสินเชื่อไม่เปลี่ยนแปลงคาดว่า credit cost ในระยะต่อไปน่าจะลดลงต่ำกว่า 100bps ได้ โดยเรายังใช้สมมติฐาน credit cost ปี 2565/66 ใหม่ที่ 110bps/110bps ลดลงจากเดิมที่ 125bps/100bps
ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย เป็น 17.00 บาท
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565/66 อีก 11%/3%เพื่อสะท้อนถึงการปรับสมมติฐาน credit cost ลงเหลือ 110bps/110bps (จากเดิม 125bps/110bps) และอัตราการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมเป็น 4%/5% (จากเดิม 3%/4%) กำไรที่เพิ่มขึ้นน่าจะทำให้ ROE เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 7% ทำให้หุ้น KTB สมควรได้รับการ re-rate เราจึง re-rate P/BV เป็น 0.65x (จากเดิม 0.6x)ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 17.00 บาท จากเดิม 15.40 บาทเรายังคงคำแนะนำซื้อ KTB
ปัจจัยเสี่ยงจากกรณีเพิ่มรายได้ไม่สำเร็จ, NPLs เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น
ที่มา : บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี