การประกาศรางวัล 2022 (Oscar 2022 ) ครั้งที่ 94จัดขึ้นที่ Dolby Theater ในฮอลลีวู้ด ถ่ายทอดสดทางช่อง ABC ของสหรัฐอเมริกา เวลาประมาณ 07.00 น. ของเช้าวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2565 ตามเวลาประเทศไทย ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) เป็นของ CODA ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director)ตกเป็นของ เจน แคมเปียน ผู้กำกับหญิงวัย 67 ปี จาก The Power of the Dog หรือชื่อไทย คือ อำนาจบาดเลือดแค้น
รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress)ได้แก่ เจสสิกา แชสเทน (Jessica Chastain) จาก The Eyes of Tammy Faye รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) ได้แก่ วิลล์ สมิธ (Will Smith) จาก King Richard
ในการประกาศรางวัลครั้งนี้ มีเรื่องที่ทำให้ผู้ชมทั้งเวทีและผ่านการถ่ายทอดสดต้องตกตะลึง ในวินาทีที่วิลล์ สมิธ ตรงดิ่งไปที่เวทีเพื่อตบหน้า คริส ร็อก (Chris Rock) พิธีกรซึ่งเป็นนักแสดงตลก ก่อนเดินลงเวทีไป เนื่องจากทนไม่ได้ที่คริส ร็อก เล่นมุขล้อเลียนภรรยา เจดาพินเก็ตต์ สมิธ (Jeda Pinkett Smith) ที่ต้องตัดผมสั้นเนื่องจากอาการป่วยด้วยโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia) โดยคริส ร็อก ว่าเธอควรที่จะเล่นหนัง จี.ไอ.เจน (G.I. Jane) ในภาคต่อไป (จี.ไอ.เจน เป็นภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทหารหญิงที่โกนศีรษะ) ทำให้เจดา พินเก็ตต์ สมิธกรอกตาไปมาแสดงออกว่าไม่พอใจเป็นอย่างมาก จนวิลล์ สมิธ ต้องระเบิดอารมณ์
เหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดขึ้นไม่กี่นาทีก่อนที่วิลล์ สมิธ จะคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครอง ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวโซเชียลบางกลุ่มที่เรียกร้องให้สถาบันที่มอบรางวัล ยึดรางวัลคืน
ทั้งนี้ ส่วนมากฝั่งอเมริกา ยุโรป มองว่าเรื่องนี้เป็นการใช้ความรุนแรง การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการชี้ให้คนเห็นว่า ถ้าใครพูดอะไรไม่ดีทำให้เราไม่พอใจ เราสามารถใช้มือเป็นอาวุธจัดการได้เลย ที่อาจทำให้สังคมในอนาคตแย่ลง หากเด็กๆ เห็นภาพเช่นนี้ มีหลายวิธีที่จะปกป้องคนที่คุณรัก แต่การใช้ความรุนแรงในที่สาธารณะต่อหน้าผู้ชมทั่วโลก เป็นการกระทำที่ยากจะยอมรับ
หลังการตบเสร็จสิ้น ในช่วงพักโฆษณานักแสดงชาย แดนเซล วอชิงตัน (DenzelWashington) กล่าวกับ วิลล์ สมิธ ทำนองว่า “ตอนที่คุณกำลังจะอยู่บนจุดสูงสุด ควรระวังให้ดี เพราะเป็นช่วงที่ปีศาจร้าย จะมาเล่นงานคุณได้”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ วิลล์ สมิธ ได้ขึ้นไปรับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง King Richard เจ้าตัวได้ขอโทษไปยังผู้จัดงานกับการกระทำของเขา พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการแย่งซีนใดๆ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า การที่กระทำของวิลล์ สมิธจากโมหะ ความโกรธ ซึ่งคนทั่วไปจะคุ้นกับคำว่า “บันดาลโทสะ”
คำว่า “บันดาลโทสะ” มีอยู่ในประมวลกฎหมายอาญาของไทย ในมาตรา 72 “ผู้ใดบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้”
หลักเกณฑ์ (1) ผู้กระทำความผิดถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม (2) การถูกข่มเหงเช่นนั้นเป็นเหตุให้ผู้กระทำบันดาลโทสะ (3) ผู้กระทำได้กระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในขณะบันดาลโทสะ
บันดาลโทสะ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะทำให้ผู้กระทำพ้นความผิด เเต่เป็นดุลพินิจของศาลว่า การกระทำความผิดดังกล่าวเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะหรือไม่ ถ้าฟังว่า เกิดจากการบันดาลโทสะ ส่งผลให้เป็นเหตุลดโทษ ที่ศาลสามารถลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดได้ ตามที่ศาลเห็นสมควรแก่กรณี
การกระทำผิดที่จะอ้างเหตุบันดาลโทสะได้นั้น จะต้องปรากฏว่า เป็นการกระทำขณะที่โมโหหรือโกรธอยู่ และสาเหตุที่มีโทสะ ต้องมาจากการถูกข่มเหงรังแกอย่างร้ายแรงด้วยเหตุที่ไม่เป็นธรรม จึงเป็นมูลเหตุจูงใจให้เกิดการกระทำผิดขึ้น ทำให้ควบคุมสติไม่ได้
การวินิจฉัยว่ามีเหตุอันไม่เป็นธรรมและร้ายแรงหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องวินิจฉัยเอาจากพฤติการณ์ว่า สมควรจะบันดาลโทสะเพราะเหตุนั้นหรือไม่ การข่มเหงนั้นต้องเป็นการกระทำต่อผู้กระทำความผิด หรือต่อผู้ที่มีความสัมพันธ์บางประการกับผู้กระทำความผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2770/2544 ด่าว่าแม่ของผู้กระทำผิดเป็นโสเภณี การที่จำเลยตบหน้าผู้เสียหาย 2 ครั้ง ในขณะนั้นจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ เพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17391/2557 การที่จำเลยไปหยิบอาวุธปืนจากรถยนต์มาเพื่อป้องกันบุตรของตน และเหตุที่กระสุนปืนลั่นเกิดจากการแย่งอาวุธปืนระหว่างจำเลยกับโจทก์ร่วม อันสืบเนื่องมาจากจำเลยใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันบุตรของตนดังกล่าว มิได้เกิดจากความประมาทของจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุ
“ในขณะนั้น” หมายถึง ในขณะบันดาลโทสะ แต่ไม่ได้หมายความว่า ต้องเป็นขณะเดียวกันกับการข่มเหงและบันดาลโทสะเลยทีเดียว การกระทำความผิดต่อผู้ข่มเหงในระยะเวลาต่อเนื่องอย่างกระชั้นชิดในขณะที่ยังมีโทสะรุนแรงอยู่ ถือได้ว่าเพียงพอแล้ว
คำพิพากษาฎีกาที่ 1756/2539 ขณะจำเลยกับพวกและผู้ตายกับพวกดูภาพยนตร์ในงานศพ ผู้ตายกับพวกใช้ขวดสุราขว้างปาจอภาพยนตร์และล้มจอ ระหว่างผู้ตายกับพวกเดินกลับบ้านได้ร่วมกันทำร้ายน้องชายจำเลยจนตกลงในคูน้ำ เมื่อมาพบจำเลยเดินสวนทางมาได้ร่วมกันทำร้ายจำเลยฝ่ายเดียวจนตกลงไปในคูน้ำ จำเลยวิ่งกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 300 เมตร เอามีดมาต่อสู้กับพวกผู้ตาย แม้ไม่ได้กระทำลงทันทีหรือในที่ที่ถูกข่มเหง แต่อยู่ในระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดกัน ถือว่าจำเลยกระทำผิดด้วยเหตุบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม
คงต้องยึดคติ “Conquer anger by love,evil by good; Conquer the miser with liberality,and the liar with truth.” หรือภาษาไทย คือ “พึงเอาชนะความโกรธ ด้วยความไม่โกรธ พึงเอาชนะความร้าย ด้วยความดี พึงเอาชนะคนตระหนี่ ด้วยการให้พึงเอาชนะคนพูดพล่อย ด้วยคำสัตย์”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี