nn นับได้ว่าเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและสถาบันการเงินที่น่าสนใจและตอบโจทย์กับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของไทยขณะนี้เป็นอย่างมาก...ข้อตกลงที่ว่านี้เกิดขึ้นระหว่าง..วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือ ซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) กับ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK).. บันทึกข้อตกลง “ความร่วมมือในการส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจให้กับนักศึกษาและผู้ประกอบการไทย”...ซึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ “การผลิตนักศึกษาที่มีศักยภาพสูงเพื่อธุรกิจยุคใหม่” โดยเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพ สนับสนุน และส่งเสริมความรู้ให้แก่นักศึกษา ศิษย์เก่าของ CMMU ในด้านการประกอบธุรกิจ รวมถึงการค้าระหว่างประเทศ ให้สามารถเติบโตเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ได้ในอนาคต และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน
รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดให้การเรียนการสอนในระดับชั้นปริญญาโท และปริญญาเอก ด้านการจัดการ ทั้งในหลักสูตรไทยและหลักสูตรนานาชาติโดยเป็น Business School เพียง 5% ของโลกเท่านั้นที่ได้รับการรับรองจากสถาบัน AACSB ซึ่งเป็นสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาทางด้านบริหารธุรกิจและการบัญชีระดับสากล และจากพันธกิจที่ต้องการพัฒนานักศึกษาของ CMMU ให้เป็นผู้เล่นตัวจริง MVP ที่มีศักยภาพสูงออกสู่ภาคธุรกิจรับปี 2565 และจะเข้มข้นยิ่งขึ้นในปีต่อๆ ไปนั้นวิทยาลัย จึงชูสาขาหนึ่งในหลักสูตรไทยคือ สาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม (Entrepreneurship and Innovation : EI) ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างผู้ประกอบการใหม่ และผู้ประกอบการที่ต้องการไปต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่ด้วยแนวคิดความคิดที่แตกต่าง โดยปัจจุบันได้มีการสร้างผู้ประกอบการมากว่า 500 คน ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา และด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และสภาพเศรษฐกิจในประเทศ จึงมีแนวความคิดในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อให้ผู้ประกอบการ Startups SMEs หรือ IDEs (Innovation-Driven Entrepreneurs) นั้นสามารถที่จะทรานส์ฟอร์มธุรกิจของตนเองได้ และสามารถที่จะขยายธุรกิจไปสู่โอกาสที่ใหญ่กว่าโอกาสในประเทศได้
รศ.ดร.วิชิตากล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่าสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม CMMUได้ร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ซึ่งเป็นสถาบันทางการเงินระดับแนวหน้าของประเทศที่ครบครันด้วยทรัพยากร วิสัยทัศน์ และองค์ความรู้ที่เป็นเลิศทางด้านการเงินและภาคปฏิบัติในโลกธุรกิจ จึงมั่นใจในการระดมพลังในการส่งต่อแรงกระเพื่อมเพื่อพัฒนานักศึกษา ศิษย์เก่าของ CMMU ที่มีความสนใจประกอบธุรกิจต่างๆ จากโลกการศึกษา ให้สามารถเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ในโลกการทำธุรกิจจริงได้ อันเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของการขับเคลื่อนภาคธุรกิจ องค์กรและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผ่านความร่วมมือ3 ด้านหลัก ดังนี้ 1.การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้วิชาการด้านการค้าระหว่างประเทศและการส่งออกจัดกิจกรรมการสอนและการอบรมให้ความรู้สำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนในประเทศเพื่อการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐ อาทิS-Curve EEC 2.การบริหารจัดการองค์กรและการบริหารจัดการด้านนวัตกรรม จัดสัมมนาทางวิชาการ การจับคู่ธุรกิจ ผู้ประกอบการไทยแลกเปลี่ยนความรู้ การวิจัยข้อมูลร่วมกัน เพื่อพัฒนาศักยภาพให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี และ 3.การเข้าถึงช่องทางบริการทางการเงินด้านต่างๆ มีช่องทางในการสร้างโอกาสกับสถาบันการเงินทั้งระหว่างเรียนและจบการศึกษา
ด้าน ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่าความร่วมมือระหว่าง EXIM BANK กับ CMMU มีเป้าหมายเพื่อสานพลังความร่วมมือในการสร้างบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการธุรกิจด้วยนวัตกรรมป้อนเข้าสู่ภาคธุรกิจ โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนทั้งความรู้และเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย เพื่อเพิ่มจำนวนนักรบเศรษฐกิจไทยในเวทีการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันใช้ความสามารถพิเศษขององค์กรเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยอย่างยั่งยืนในโลกยุค Next Normal กระตุ้นและผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยมีความคล่องตัว (Agility) ในการตอบสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป มีความยืดหยุ่น (Resilience) ในการนำความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตมาพัฒนาธุรกิจ และปิดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต ตลอดจนพร้อมปรับเปลี่ยนหรือแปลงร่างธุรกิจ (Transformation) ตั้งแต่แนวคิดไปจนถึงกระบวนการดำเนินธุรกิจให้สอดรับและก้าวทันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวต่อว่า ในโลกยุค Next Normal EXIM BANK พร้อมทำหน้าที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ดำเนินภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม และสานพลัง” เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นประเทศที่มีรายได้สูง โดยการซ่อมอุตสาหกรรมไทยที่ประสบปัญหาแต่มีศักยภาพ อาทิสายการบิน พาณิชย์นาวี สร้างอุตสาหกรรมใหม่สู่อนาคต ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เสริมอาวุธ SMEs ให้เป็นนักรบเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเวทีโลก และสานพลังกับพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสถาบันการศึกษา เพื่อบ่มเพาะบุคลากรให้เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง พร้อมสร้างคุณค่าและผลลัพธ์ทางธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของไทยและโลกโดยรวมอย่างยั่งยืน
กระบองเพชร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี